bloggang.com mainmenu search



ในปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น จะเห็นได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการเลื่อกอยู่กับธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายได้รับอากาศอันบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับการอยู่ในบ้านที่ดี ก็ย่อมดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย
ในต่างประเทศมีการศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมให้ดีต่อสุขภาพโดยมีที่มามาจากการออกแบบสถานพยาบาล และเริ่มมีการนำมาใช้กับที่พักอาศัยด้วย ซึ่งเรียกว่า การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเยียวยา (Healing Environment) เราจึงขอหยิบเอาแนวทางบางส่วนมาแนะนำให้เจ้าของบ้านลองเอาไปทำตามกันเลยค่ะ
1. นำธรรมชาติมาใช้ในการตกแต่งภายในบ้าน โดยเลือกใช้ต้นไม้สีเขียวที่ปลูกในร่มได้ เช่น กล้วยไม้ต่างๆ และจัดให้อยู่ในมุมที่คนในบ้านสามารถช่วยกันรดน้ำต้นไม้และดูแลได้ การเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกในด้านบวกได้มากกว่าการนั่งมอง และสีเขียวจากต้นไม้ก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี นอกจากนี้จากจัดให้มีมุมน้ำพุให้ได้ยินเสียงน้ำไหล หรือเสียงนกร้องก็ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เช่นเดียวกัน
2. เลือกรูปภาพมาตกแต่งภายในบ้านโดยใช้ภาพธรรมชาติหรือรูปสัตว์ ภาพธรรมชาติแต่ละอย่างจะสื่อถึงความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น ภาพป่าที่มีแดดส่องยามเช้า ก็ให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น ภาพทะเล ท้องฟ้าและนก ก็ให้ความรู้สึกมีอิสระ ปลอดโปร่ง หรือถ้าเลือกเป็นภาพศิลปะ ควรเลือกรูปที่ไม่ต้องมีการตีความมากมาย ไม่ซับซ้อน เห็นแล้วเข้าใจได้ง่าย
3. เปิดหน้าต่างรับแสงแดดในยามเช้าจากทางทิศตะวันออก แสงแดดจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัวในการออกไปทำกิจกรรม การอยู่ในบ้านมืดๆ ตลอดเวลาจะทำให้รู้สึกหดหู่ หม่นหมอง เลือกติดม่านเฉพาะด้านที่รับแดดร้อนในยามบ่ายทางทิศตะวันตกก็เพียงพอแล้ว บางช่วงเวลาลองเปิดหน้าต่างให้มีลมพัดเข้ามาในบ้านบ้างจะดีกว่าการอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดทั้งวัน
4. ไม่ควรจัดเตียงและโต๊ะทำงานให้มองเห็นหน้าต่างได้โดยตรง เนื่องจากจะกวนสมาธิ แต่ควรจะอยู่ด้านข้างแทน และหากมองหน้าต่างออกไปเห็นกำแพงหรืออาคารข้างเคียงที่ไม่สวยงาม ควรหาต้นไม้มาปลูกเป็นวิว การมองเห็นต้นไม้จะช่วยให้รู้สึกดีกว่าการมองกำแพงที่จะทำให้รู้สึกอึดอัด
5. จัดให้มีมุมงานอดิเรกที่มีความเป็นส่วนตัวเพื่อเพิ่มกิจกรรมสำหรับการพักผ่อนในบ้าน ถ้าชอบอ่านหนังสือก็ควรจัดให้มีเก้าอี้นั่งอ่านหนังสือดีๆสักตัวที่อยู่ใกล้กับชั้นหนังสือ ถ้าชอบดูหนังก็ควรจัดให้มีห้องดูหนังที่เก็บเสียง หรือถ้าชอบฟังเพลงก็อาจจะเลือกวางเครื่องเสียงไว้กลางบ้าน เพื่อให้สามารถฟังเพลงได้ระหว่างทำกิจกรรมภายในบ้าน 6. นอกจากการจัดสิ่งแวดล้อมที่ให้รู้สึกในด้านบวกแล้ว การขจัดสิ่งที่ทำให้รู้สึกในด้านลบเองก็ช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นได้ด้วย เช่น การป้องกันเสียงรบกวนจากถนนหน้าบ้านด้วยการปลูกต้นไม้เป็นแนวกันเสียง การเลือกย้ายที่ทิ้งขยะไม่ให้อยู่เหนือลมเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นแล้วนำดอกไม้หรือสมุนไพรมาใช้เพิ่มกลิ่นหอมแทน เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : baania.com
ดูบทความดีๆได้ที่ : https://www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline  ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน
คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com

Create Date :15 พฤศจิกายน 2561 Last Update :15 พฤศจิกายน 2561 16:56:53 น. Counter : 387 Pageviews. Comments :0