การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบ ไอเดียที่สถาปนิกแทรกเข้าไปกับบ้าน ทั้งเรื่องการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบดูทิศทางลม
ปัญหาวิกฤตพลังงานและภาวะโลกร้อนกำลังเป็นกระแสร้อนที่สังคมมีความตื่นตัวกันค่อนข้างมาก และไม่ว่าโจทย์ของเจ้าของบ้าน จะชอบผนังอิฐ ชอบบ้านชั้นเดี่ยว หรือบ้านสองชั้น และชอบบ้านสบายๆ การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน นั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบ ไอเดียที่สถาปนิกแทรกเข้าไปกับบ้าน ทั้งเรื่องการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบดูทิศทางลม
จะว่าไปแล้ว อาคารหรือบ้านประหยัดพลังงานไม่จำเป็นต้องมีสไตล์ที่สลับซับซ้อน ใช้วัสดุอะไรที่ไฮเทค แต่หากคำนึงถึงวิถีธรรมชาติที่เกิดขึ้น และสภาพแวดล้อม ก็น่าจะทำให้การใช้ชีวิตในบ้านที่ไร้เครื่องปรับอากาศได้อย่างมีความสุข
เริ่มต้นตั้งแต่การวางแปลนบ้าน ที่จะประหยัดพลังงาน ต้องวางทิศทางให้ลมเข้าทางด้านทิศใต้หรือทิศเหนือ ต้องมีทางลมพัดผ่านได้ตลอดแนวบ้าน และผ่านได้ทุกห้อง แต่ทว่า ด้วยเพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ที่ลมไม่แรงนัก
ดังนั้น การจะทำให้เกิดลมพัดเข้าไปในบ้านได้ อาจใช้หลักความกดดันอากาศเป็นตัวล่อ
การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เป็นอีกวิธีในการลดความร้อนจากหลังคา โดยใช้ปล่องระบายอากาศเปิดสูงกว่าหลังคา เป็นอีกทางออกด้วยโดยในปล่องด้านบน อาจใช้วัสดุกักความร้อน เพื่อให้อากาศข้างบนมีความร้อน
มากกว่าปกติ ตามธรรมชาติอากาศร้อนจะลอยตัวสูงขึ้นไปข้างบน จึงมีช่องว่างทำให้อากาศด้านล่างจากภายนอก ซึ่งเย็นกว่าจะพัดเข้าไปในช่องว่าง วิธีการนี้จะรู้สึกว่าลมพัดเข้าบ้าน เป็นหลักง่ายๆ
การดีไซน์บ้าน ให้ได้ฟังก์ชั่นครบและประหยัดพลังงาน ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงจากเมืองนอก แต่สถาปนิก รวมถึงผู้ประกอบการเจ้าของโครงการต้องคิดโจทย์มากกว่าการออกแบบทั่วไป และไม่มีสูตรสำเร็จ
ตายตัว หลายครั้ง ต้องแก้โจทย์ตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น ความชอบของเจ้าของในกรณีที่สร้างบ้านตามออร์เดอร์ ดูความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมการแข่งขันของตลาดในพื้นที่นั้นๆประกอบด้วย
"หัวใจ "สำคัญก็คือ ทำให้คนรู้จักใช้ธรรมชาติอย่างถูกต้อง ประหยัดพลังงานของโลก และช่วยประหยัดเงินให้เจ้าของบ้าน
เคล็ดไม่ลับ..บ้านร่มเย็น-อยู่สบาย
1.วางแปลนบ้านให้ถูกทิศทางที่ลมพัดผ่านเข้าออกได้สะดวก ลมพัดเข้าทางทิศเหนือหรือใต้ และควรเปิดช่องให้ลมพัดออกเพื่อระบายอากาศ
2.เลือกวัสดุกรุผนังที่เป็นฉนวนกันความร้อน เช่น หินเทียม และควรใช้สีอ่อน หากกรุผนังสองชั้นเว้นช่องอากาศไว้จะเป็นฉนวนกันร้อนได้ดี
3.หลังคาควรออกแบบให้สามารถระบายความร้อนได้เร็วขึ้น หรือใช้วิธีเปิดช่องระบายอากาศที่ช่องหลังคาก็ได้ หรือไม่ก็ใช้ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา 4.ปรับสภาพแวดล้อมรอบบ้านทำให้บ้านเย็นลง จัดสวนปลูกหญ้าเพื่อดูดซับความชื้นในดินมาเก็บไว้ หรือปลูกไม้เลื้อยและไม้ใหญ่ช่วยกรองแสง
5.หากพอมีพื้นที่เหลือ ควรสร้างบ่อน้ำหรือสระน้ำในทิศทางที่ลมผ่านทิศเหนือ-ใต้ ลมจะช่วยพัดละอองน้ำเข้ามา แต่ควรเปิดทางระบายอากาศไว้ด้วย
แหล่งข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ
ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน
คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com