bloggang.com mainmenu search


Rove-Beetle01

แมลงก้นกระดกกลายเป็นกระแสฮือฮาเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีผู้ได้รับพิษจากแมลงชนิดนี้แล้วเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรง โดยมีรายงานการพบผู้ป่วยจากหลายพื้นที่ในประเทศไทย จึงมีการเฝ้าระวังเหตุและการแพร่ระบาดของแมลงก้นกระดก แต่ความเป็นจริงแล้ว แมลงชนิดนี้มีอันตรายหรือมีพิษร้ายแรงจริงหรือไม่ สามารถศึกษาได้จากข้อมูลต่อไปนี้

แมลงก้นกระดกเป็นอย่างไร ?

แมลงก้นกระดกหรือด้วงก้นกระดก (Rove Beetle) เป็นแมลงขนาดเล็ก มีลำตัวยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ส่วนหัวเป็นสีดำ ช่วงอกเป็นสีส้ม ส่วนปีก ลำตัว และหางเป็นสีดำ โดยมีส่วนท้องที่เป็นสีส้ม ซึ่งแมลงชนิดนี้มักงอส่วนหางขึ้นเมื่อตัวอยู่บนพื้น จึงเป็นที่มาของชื่อแมลงก้นกระดก

แมลงก้นกระดกล่าแมลงชนิดอื่นกินเป็นอาหาร โดยจะออกมาหากินใกล้แสงไฟในเวลากลางคืน ความน่ากลัวของแมลงก้นกระดกไม่ใช่พิษที่เกิดจากการกัดหรือต่อย แต่แมลงชนิดนี้มีสารพิษพีเดอริน (Pederin) อยู่ในเลือดของมัน ซึ่งหากผู้ใดตบ บด หรือสัมผัสโดนตัวแมลงก้นกระดก ก็อาจได้รับสารพิษชนิดนี้จนเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและเกิดผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดก (Paederus Dermatitis) ตามมาได้

อาการป่วยจากพิษของแมลงก้นกระดก

เมื่อสัมผัสโดนสารพิษพีเดอริน ผิวหนังจะเกิดการระคายเคือง เปลี่ยนเป็นสีแดง และจะมีอาการแสบร้อนหรือคัน ซึ่งความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของสารพิษที่ได้รับด้วย
จากนั้น อาจเกิดผื่นที่มีตุ่มพองน้ำหรือตุ่มมีหนองที่ทำให้รู้สึกคันและเจ็บปวด ซึ่งอาจยังไม่เกิดขึ้นทันทีหลังสัมผัสพิษ แต่อาจปรากฏอาการหลังผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมงไปจนถึง 4 วัน
หากเกาตามผิวหนังที่ได้รับพิษ หรือหากเกิดผื่นบริเวณข้อพับต่าง ๆ ผื่นก็อาจแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ ได้
ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดกอาจคงอยู่นานถึง 10 วัน แต่ผื่นหรือแผลจะค่อย ๆ ตกสะเก็ดและหายไปเอง
หลังหายจากผื่น อาจมีรอยดำปรากฏระยะหนึ่งแล้วหายไป โดยมักไม่เกิดรอยแผลเป็น แต่หากผื่นเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียด้วย ก็อาจเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นหลังผื่นหายได้เช่นกัน
หากเกิดผื่นเป็นบริเวณกว้าง ผู้ป่วยอาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ คลื่นไส้ หรืออาเจียนได้
หากพิษเข้าตา อาจทำให้ตาบอดได้


ควรทำอย่างไรหากเผลอไปสัมผัสโดนแมลงก้นกระดก ?

รีบล้างบริเวณที่โดนตัวหรือพิษของแมลงก้นกระดกด้วยน้ำสบู่ทันที
ประคบเย็นในบริเวณดังกล่าว
รับประทานยาแก้แพ้
ทาว่านหางจระเข้บริเวณที่มีอาการปรากฏ
สังเกตสัญญาณของอาการที่เกิดขึ้น หากมีเพียงรอยแดงในบริเวณนั้น อาการอาจดีขึ้นและหายไปภายใน 2-3 วัน
หากเกิดผื่นแพร่กระจายลุกลามหรือมีตุ่มพองน้ำเพิ่มมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยรักษาตัวด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ใช้ยาสเตียรอยด์ทาบริเวณที่เกิดอาการ
หากผื่นมีตุ่มพองน้ำเป็นบริเวณกว้างหรือมีแผลไหม้ อาจประคบด้วยน้ำเกลือครั้งละ 5-10 นาที วันละ 3-4 ครั้งจนแผลแห้ง
รับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
รับประทานยาแก้คัน เพื่อบรรเทาอาการคันในผู้ป่วยบางราย
วิธีป้องกันการสัมผัสพิษจากแมลงก้นกระดก

ไม่สัมผัสตัวหรือบดขยี้แมลงก้นกระดก แต่หากพบเห็นหรือแมลงมาเกาะตามร่างกาย ให้เป่าแมลงออกไปแทน
ทำความสะอาดบริเวณที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเตียงนอน
สวมใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวในขณะนอนหลับ เพื่อปกปิดผิวหนังให้มากที่สุด
ปิดประตูหน้าต่างให้สนิททั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันแมลงบินเข้ามาในบ้าน
เปิดไฟเท่าที่จำเป็น เนื่องจากแสงไฟสว่างอาจล่อแมลงชนิดนี้ให้เข้ามาในที่พักอาศัยได้
แมลงก้นกระดกมักอยู่อาศัยใกล้แหล่งน้ำและพบได้มากในบริเวณพื้นที่ด้อยพัฒนา ดังนั้น ควรให้ความรู้และสร้างความตระหนักภายในชุมชนว่าควรรับมืออย่างไรเมื่อพบเห็นแมลงชนิดนี้

ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน 

คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com

Create Date :08 ตุลาคม 2561 Last Update :8 ตุลาคม 2561 15:14:01 น. Counter : 363 Pageviews. Comments :0