bloggang.com mainmenu search


rain01

ความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ไม้อันเกิดจากความชื้นที่มีปริมาณสูงในช่วงเวลานี้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้มักบวม พอง ผุ หรือมีเชื้อราเกิดขึ้นหากโดนฝนบ่อยๆ มาดูเคล็ดลับการรับมือกับปัญหาดังกล่าวกันเลยค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ไม้ในร่ม

Fur_out6_650
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ มักไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากแสงแดดและน้ำฝนมากนัก ทำให้อายุการใช้งานยาวนาน วิธีการดูแลทำความสะอาดหรือรักษาทำได้ง่ายๆ ดังนี้

1. หมั่นใช้ไม้ปัดขนไก่หรือผ้าเนื้อนุ่มเช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ

2. ใช้ผ้าหรือฟองน้ำเนื้อนุ่มชุบน้ำยาทำความสะอาดฤทธิ์อ่อนโยนเช็ดให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง ข้อสำคัญคือ ให้ชุบน้ำพอหมาดเท่านั้น อย่าชุบจนเปียกชุ่มเกินไป เพราะทำให้เนื้อไม้เกิดความเสียหาย บวม พอง เสียรูป หรือขึ้นราได้

3. หากต้องการนำเฟอร์นิเจอร์ไปผึ่งแดด ควรเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ เนื่องจากถ้าเป็นช่วงเวลาแดดจัด แสงแดดจะทำให้เนื้อไม้กรอบเปราะหรือหักได้

Fur_out5_650

4. ควรทาหรือฉีดพ่นน้ำยาป้องกันปลวก มอด มด ให้ทั่วชิ้นเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันมิให้แมลงดังกล่าวมากัดกินเนื้อไม้

5. ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น เพื่อช่วยปกป้องเนื้อไม้ เพราะแม้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะไม่โดนฝนโดยตรง แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง จึงมักเกิดการโก่งตัวพองผิดรูปได้ สีกันน้ำสามารถช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้นานขึ้น

6. ในวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก มีแสงแดด ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูให้อากาศถ่ายเทหมุนเวียน จะช่วยลดความชื้นภายในบ้านได้ ส่งผลดีต่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วย

เฟอร์นิเจอร์ไม้กลางแจ้ง

Fur_out1_650
แสงแดดและฝนคือศัตรูตัวร้ายของเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งเหล่านี้ ซึ่งหากดูแลไม่ดี อาจส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายจนถึงขั้นใช้งานไม่ได้ ดังนั้น จึงควรป้องกันหรือแก้ไขดังนี้

1. หากสามารถนำเฟอร์นิเจอร์หลบเข้าร่มได้ ก็ควรทำ หรืออาจจะย้ายเข้ามาอยู่ใต้กันสาดหรือบริเวณที่มีหลังคาบังบ้าง ซึ่งช่วยให้โดนฝนและแดดน้อยลง 

2. รอยคราบน้ำฝนหรือสิ่งสกปรก สามารถกำจัดได้โดยการใช้ฟองน้ำแตะมายองเนสเล็กน้อย แล้วขัดถูบริเวณรอยนั้น  หรือใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดและขัดเงาขัดถูบริเวณที่เป็นคราบก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ทั้งเงางามดูเหมือนใหม่และช่วยขจัดรอยขีดข่วนได้ด้วย  

3. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ถูกต้อง ควรใช้ไม้ปัดขนไก่ปัดฝุ่นออก แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดอีกครั้ง และปล่อยให้แห้ง หากมีรอยเปื้อนฝังแน่น สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง สามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดได้ แล้วใช้น้ำผึ้งทาทับ และใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว และขัดด้วยขี้ผึ้ง  

Fur_out2_650

4. ควรทาพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ด้วยผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาดูแลผิวไม้โดยเฉพาะ เพื่อปกป้องสีของไม้ให้คงทน โดยวิธีการทาที่ถูกต้องคือ ควรใช้แปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยาดูแลผิวไม้ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีก 2 ครั้ง ปล่อยให้แห้ง และใช้กระดาษทรายขัด จากนั้นทาทับด้วยน้ำยาอีกครั้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

แต่ถ้าใครไม่มีน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ อาจมองหาโลชั่นที่เหลือใช้ นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ  บีบโลชั่นใส่เพียงเล็กน้อย แล้วนำไปเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่ปัดฝุ่นแล้ว จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เงางามและฝุ่นเกาะติดยากไปสักพักหนึ่ง เรียกว่าทั้งเงางามแถมหอมอีกด้วย

5.ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น เพื่อช่วยปกป้องเนื้อไม้จากทั้งแสงแดดและฝน รวมทั้งควรทาน้ำยาป้องกันปลวก มด มอดด้วย

เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ยาวนานขึ้น ทั้งยังช่วยให้เนื้อไม้ไม่โก่งตัวหรือบิดงอผิดรูปจนเกิดความเสียหายด้วย ทำให้เฟอร์นิเจอร์คงความแข็งแรงและสวยงาม น่าใช้งานเป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : hafelethailand.com

ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline  ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน 

คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com

Create Date :19 ตุลาคม 2561 Last Update :19 ตุลาคม 2561 16:26:30 น. Counter : 297 Pageviews. Comments :0