bloggang.com mainmenu search



thaihome11

การทำสัญญาแต่ละครั้งควรมีการตรวจสอบสัญญาซื้อ-ขาย ก่อนลงมือเซ็นสัญญา โดยเฉพาะ เนื้อหาสาระสำคัญของสัญญาไม่ว่าจะเป็นสัญญาจอง สัญญาจะซื้อจะขายต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งผู้ซื้อสามารถศึกษาหาข้อมูลได้ก่อนตกลงเซ็นสัญญา จากแบบสัญญามาตรฐาน 5 ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้จัดทำขึ้นว่าควรมีรายละเอียดอะไรบ้าง ประกอบด้วย

สัญญาจอง กำหนดไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการจองและกำหนดให้ “คู่สัญญา” ต้องลงลายมือชื่อในใบจองทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งผู้รับจองและผู้จอง จะแตกต่างจากการจองทั่วๆ ที่จะลงนามเฉพาะผู้จองเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การจองเป็นสัญญาสองฝ่ายที่คู่สัญญามีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อกันไม่ใช่สัญญาฝ่ายเดียวที่ผู้จองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อผู้รับจองเท่านั้น โดยสัญญาจองจะกำหนดระยะเวลาที่ผู้จองและผู้รับจองจะต้องไปทำสัญญาซื้อขายบ้านหรือที่ดินที่จอง ถ้าฝ่ายใดไม่สามารถทำสัญญาได้ภายในกำหนดในแบบสัญญา ให้ริบเงินจองหรือต้องคืนเงินจองพร้อมดอกเบี้ยอีกฝ่ายหนึ่ง

สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สาระสำคัญของการทำสัญญาคือการกำหนด “หน้าที่” ของผู้ขายที่จะต้องจัดทำสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้แล้วเสร็จ เป็นต้น สัญญาจะว่าจ้างก่อสร้างอาคาร ข้อที่ควรคำนึงเมื่อจะทำสัญญาจ้าง คือ ต้องระบุระยะเวลาที่ผู้รับจ้างจะต้องทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จไว้ในสัญญาด้วย ซึ่งผู้ว่าจ้างควรดูด้วยว่าระยะเวลาที่ตกลงกันนั้นเป็นระยะเวลาที่ต้องใช้ในการการก่อสร้างที่ปกติหรือไม่ และกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย ผู้ว่าจ้างได้แจ้งเหตุสุดวิสัยภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ เป็นต้น

สำหรับ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มีข้อพิจารณาหรือข้อควรระวังของการสัญญาหลักๆ คล้ายกับสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน และสัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร

ส่วน สัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดในอาคารชุด รูปแบบของสัญญาก็จะคล้ายคลึงกับสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง คือ เป็นการซื้อสองรวมกัน คือ ที่ดิน ซึ่งมีเงื่อนไขว่าเป็นที่ดินที่ผู้ซื้อจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และมีสิทธิ์ใช้ร่วมกันกับบุคคลอื่น อัตราส่วนของพื้นที่ห้องชุดที่ตกลงซื้อขายซึ่งกฎหมายกำหนดเป็นทรัพย์ส่วนกลาง และ ห้องชุด ซึ่งเป็นทรัพย์ส่วนบุคคลสัญญาจะกำหนดให้ผู้ขาย ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งโครงการ การจัดทำสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ในโครงการ เป็นต้น

แต่ถ้า ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจในกรุงเทพฯ สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตู้ ปณ.99กรุงเทพฯ 10302หรือโทรศัพท์สายด่วน หมายเลข 1166 ต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่คณะ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด


แหล่งข้อมูล : โฮมบายเออร์ไกด์

ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline  ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน 

คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com

Create Date :05 ตุลาคม 2561 Last Update :5 ตุลาคม 2561 16:31:05 น. Counter : 256 Pageviews. Comments :0