|
|||||||||||
แปลเพลง - All of the stars - Ed Sheeran - The Fault In Our Stars OST คุณทำอะไรบ้างครับเวลาที่คุณคิดถึงใครซักคน?
เราทุกคนมีความทรงจำที่ดีกับคนที่เรารักไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คู่รักของเรา หรือเพื่อนของเรา ความประทับใจเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นในสถานที่และสถานการณ์ต่างๆ นึกถึงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่ความโศกเศร้าให้เราได้เสมอครับ บางครั้งการได้ไปเยือนตามสถานที่ต่างๆเหล่านั้นอีกครั้งไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็อาจจะพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาเหล่านั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ เรื่องนี้จะ emotional มากๆหากคนที่เราคิดถึงเป็นคนที่ล่วงลับไปแล้ว และนั่นอาจทำให้เราอยากจะทำอะไรซักอย่างที่เราเคยทำในอดีตร่วมกันกับเค้าเพื่อเค้าอีกซักครั้ง เคยเป็นเหมือนกันรึเปล่าครับ? ^_^-..
เพลงของความคิดถึง ยังคงทำให้เราซาบซึ้งได้เสมอเลยนะครับ วันนี้ยังคงเป็นเพลงประกอบภาพยนต์จากเรื่อง The Fault in OurStars ครับ ต่อจากคราวที่แล้วที่เราแปลเพลง Not About Angels กัน วันนี้บล๊อกนี้เลยกลายเป็น sequel blog ของเพลงในหนังเรื่องนี้ไป :) เพลงนี้แต่งได้ดีมากครับและแต่งขึ้นมาเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะด้วยเช่นกัน เพลงทั้งเพลงเป็นเรื่องของการ setup context กับคนฟัง สร้างฉากทั้งฉากให้เราเห็นและฉายให้เราเห็นเหตุการณ์และอารมณ์ไปพร้อมๆกัน เป็นเพลงที่ทำให้แปลไปน้ำตาร่วงไปอีกแล้วครับ มันสวยงามและเจ็บปวดไปพร้อมๆกัน (จะเห็นว่าผมแปลไปน้ำตาร่วงไปหลายเพลงมาก เข้าใจว่าเพราะผมมี empathy และ connectedness เป็น strength ครับ เพิ่งมาสังเกตตัวเองเวลาแปลเลยรู้ว่าเราเอา empathy มา sense & feel เข้าไปในเพลงแล้ว connect กับเพลง) Source: Kristina Youtube Channel All Of The Stars
It's just another night And I'm staring at the moon I saw a shooting star And thought of you I sang a lullaby By the waterside and knew If you were here, I'd sing to you You're on the other side As the skyline splits in two I'm miles away from seeing you I can see the stars From America I wonder, do you see them, too?
So open your eyes and see The way our horizons meet And all of the lights will lead Into the night with me And I know these scars will bleed But both of our hearts believe All of these stars will guide us home
I can hear your heart On the radio beat They're playing'Chasing Cars' And I thought of us Back to the time, You were lying next to me I looked across and fell in love So I took your hand Back through lamp lit streets I knew Everything led back to you So can you see the stars? Over Amsterdam You're the song my heart is Beating to
So open your eyes and see The way our horizons meet And all of the lights will lead Into the night with me And I know these scars will bleed But both of our hearts believe All of these stars will guide us home
And, oh, I know And oh, I know, oh I can see the stars
From America ดวงดาวทุกดวง
ก็ยังคงเป็นอีกคืน ที่ชั้นนั่งมองดูจันทร์ เห็นดาวตกแล้วก็คิดถึงเธอ ชั้นเลยร้องเพลงกล่อม เพราะหากเธอยังอยู่ข้างชั้นที่ริมธารด้วยกันตอนนี้ ชั้นก็คงกำลังร้องเพลงกล่อมเธออยู่ แต่ตอนนี้เธออยู่ไกลเหลือเกิน คนละฝั่งของฟากฟ้าที่แบ่งโลกเป็นวันและคืน เกินกว่าสายตาจะหาเธอเจอ แต่ชั้นมองเห็นดวงดาวนะ จากฝั่งอเมริกาที่ชั้นอยู่ตรงนี้ สงสัยจังว่าเธอจะเห็นเหมือนชั้นมั้ย?
งั้นลองลืมตาขึ้นสิ แล้วมองไปตรงที่ขอบฟ้าของเราบรรจบกัน แล้วเส้นแสงทั้งหมดเหล่านั้นจะพาเธอล่วงเวลากลางวันเพื่อข้ามมาสู่เวลากลางคืนที่ชั้นอยู่ตรงนี้ ชั้นรู้ว่าการทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้เราเจ็บปวดขึ้นไปอีก แต่เราต่างก็เชื่ออยู่เต็มหัวใจว่าดวงดาวทุกดวงเหล่านั้น จะนำพาเรากลับมาเจอกันยังบ้านของเรา
วิทยุกำลังเล่นเพลง Chasing Cars แล้วเหมือนชั้นได้ยินเสียงหัวใจของเธอในจังหวะเพลง มันทำให้ชั้นคิดถึงเรื่องของเรา คิดไปถึงตอนที่เธอนอนฟังเพลงนี้อยู่ข้างๆชั้น ตอนนั้นชั้นมองไปที่เธอ และเป็นตอนที่ทำให้ชั้นต้องหลงรักเธอ ชั้นเลยจูงมือเธอและพาเธอเดินฝ่าน้ำค้างท่ามกลางแสงไฟส่องทางข้างถนน ทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างทำให้ชั้นต้องคิดถึงเธอ แล้วเธอเห็นดวงดาวจากอัมสเตอร์ดัมที่เธออยู่ตอนนี้มั้ย? ได้ยินเสียงเพลงแห่งตัวเธอที่หัวใจของชั้นใช้เต้นอยู่นี้ด้วยรึเปล่า?
งั้นลองลืมตาขึ้นสิ แล้วมองไปตรงที่ขอบฟ้าของเราบรรจบกัน แล้วเส้นแสงทั้งหมดเหล่านั้นจะพาเธอล่วงเวลากลางวันเพื่อข้ามมาสู่เวลากลางคืนที่ชั้นอยู่ตรงนี้ ชั้นรู้ว่าการทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้เราเจ็บปวดขึ้นไปอีก แต่เราต่างก็เชื่ออยู่เต็มหัวใจว่าดวงดาวทุกดวงเหล่านั้น จะนำพาเรากลับมาเจอกันยังบ้านของเรา แต่ชั้นมองเห็นดวงดาวนะ จากฝั่งอเมริกาที่ชั้นอยู่ตรงนี้...
Source: shutterstock preview อรรถาธิบาย
เพลงนี้เป็นการรำพึงรำพันครับ รำพึงรำพันกับตัวเราคนเดียวตรงนี้โดยหวังว่าเธอที่อยู่ไกลถึงตรงโน้นจะได้ยินและทำตามสิ่งที่เรารำพึงรำพันแนะนำออกมา (ในเพลงคือคนนึงอยู่อเมริกา อีกคนอยู่อัมสเตอร์ดัม) คำแปลของเพลงนี้ยาวมากเพราะมันอธิบายความรู้สึกไปด้วยในตัวครับ แต่ก็ยังไม่พออยู่ดี ต้องพกออกมาอธิบายต่อข้างนอก เนื้อเพลงค่อนข้างจะใช้ศัพท์ที่ง่ายและแปลได้ตรงตัว ดังนั้นขออธิบายความรู้สึกในเฉพาะบางจุดครับ
หนังเรื่องนี้ยังได้ฝากข้อความอื่นๆที่เป็นข้อคิดสำคัญๆของชีวิตไว้ด้วยครับเช่น การตัดสินใจของออกัสตัส พระเอกที่เป็นมะเร็งกระดูกจนต้องตัดขาและอยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยวัยเพียง 18 ปีตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ชีวิตทุกวันด้วยการเป็นที่จดจำโดยโยนความกลัวทิ้งไว้เบื้องหลัง และให้คำจำกัดความตัวเองว่า "เคย" เป็นมะเร็ง การแสดงออกในช่วงสุดท้ายของชีวิตของเค้านั้นเป็นไปในทางบวกต่ออารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างมากๆ เราดูๆไปยังคิดว่าเฮ้... คนเป็นมะเร็งยังดูร่าเริงกว่าเราซะอีกแน่ะ ในขณะที่เฮเซลเกรซ นางเอกอายุ 17 ปีมีมุมมองชีวิตที่ว่าไม่มีใครหลีกเลี่ยงการถูกหลงลืมได้ สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่เราต้องพิเศษกับคนหมู่มาก แต่ควรเป็นคนพิเศษกับคนที่พิเศษกับเราต่างหากเพราะเราอาจได้มีเวลาเจอกันแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น
คนเรานั้นถึงแม้จะมีความเจ็บปวดแต่เราก็อยู่กับความเจ็บปวดได้ครับ นึกถึงคนที่ป่วยจนต้องตัดขา ผ่าตัดจนมองไม่เห็น หรือคนในครอบครัวต้องเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ เราแค่ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันครับ เราไม่ได้เลือกที่จะเกิดมาเจ็บ แต่เราเลือกคนที่ทำร้ายเราได้ เราเป็นคนเลือกว่าจะให้ใครพิเศษหรือไม่พิเศษกับเราครับ
Happy reminiscence krub. ป.ล. เข้ามาแก้คำผิด เพิ่มลิงค์ & เปลี่ยน video ^^' เพลงอื่นจาก Ed Sheeran ที่แปลที่นี่:
เพลงอื่นจากหนังเรื่องเดียวกันที่แปลที่นี่:
จำไม่ได้ค่ะว่าอยู่ฉากไหน ^^'
ช่วงอรรถาธิบาย ทำให้เพลงเพราะลึกซึ้งขึ้นรึป่าวคะ รู้สึกอย่างนั้นนะ พี่น่าจะสื่อได้ลึกซึ้งกว่าคนเขียนเพลงอีกนะคะ .. แต่เราเลือกคนที่ทำร้ายเราได้ ชอบตรงนี้จังค่ะ ช่วงแปลเพลง นิคค่อยกลับมาย่อยอีกทีนะคะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Sweet_pills Food Blog ดู Blog เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog บูรพากรณ์ Cartoon Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:36:22 น.
คุณทำอะไรบ้างครับเวลาที่คุณคิดถึงใครซักคน?
ไลน์ไปเลย ยุคนี้มันง่ายงี้แหละ แต่ยังไม่ได้คิดถึงใคร เพราะยังไลน์ไม่เป็น เอ้า จริงๆ ไม่เป็น ย้ำ **** เคยพูดภึงการแปลเพลงของคุณหลายครั้งแล้ว มาจนถึงบัดนี้ เฮียก็มั่นใจนะว่ามองถูก มาอ่าน พอใจแล้วก็คุยเล่นไปเรื่อย ไม่ใช่ไม่สนใจจะ เม้นท์เรื่องราวที่คุณต้นเขียน ครือว่า คนเขียนก็ เล่นซะละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะให้พูดอะไรแีกล่ะเนอะ จริงๆ ก็มีอีกเรื่อง วันนี้ออนเพลงไทย ให้ตายจิเอ้า ได้เนื้อเพลงมาแล้วแก้ซะตาจะพลัดออกมาเต้นระบำ ภาษาไทยเนี่ยนะ ทำกันด๊ายยยย **** ก่อนไปก็ต้องให้กำลังใจกันหน่อย ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต เป็ดสวรรค์ Funniest Blog ดู Blog เนินน้ำ Food Blog ดู Blog เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog tuk-tuk@korat Home & Garden Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog อ้อ Lambert Street ที่อังกฤษก็มีนะ เคยไป เหล่ดอกไม้บ้านแถวนั้น ไปก่อนนะค้าบ ป่านนี้เจ้าหนี้มาแล้วแน่เลย โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:45:58 น.
สวัสดีวันศุกร์และวันสุข
คำเดียวสั้น ๆ "ชอบ" ค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Karz Music Blog ดู Blog โดย: เนินน้ำ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:07:50 น.
มาตอบคำถามค่ะ
เมนูนี้ไม่เหมาะที่จะทอดค่ะ ถ้าจะทอดแบบเมนูเต้าหู้ทรงเครื่อง ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่เต้าหู้แบบนี้จะนิ่ม ต้องชุบแป้ง (แห้ง) ก่อนทอดค่ะ เมื่อทอดแล้วจะไม่ได้เต้าหู้แข็งแบบทีทานกับน้ำจิ้มถั่วนะคะ ^__^ โดย: เนินน้ำ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:17:08:19 น.
สวัสดีค่า ^^
เปิดบล็อคมาเจอเพลงนี้ โหยยย ชอบมากค่ะ อัพบล็อคตอนไหนเนี่ย นุ่นไม่ทันเห็นค่ะ สงสัยเพราะไม่ได้มาสองวันเกือบไม่ได้อ่านเลย ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆ คำแปล+อรรถาธิบายด้วยค่ะ เอาไว้จะขอเอาประกอบบล็อคบ้าง แนวเลยค่ะเพลงนี้ โดย: lovereason วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:38:59 น.
สวัสดีค่ะ คุณต้น ^^
ต้องดูว่าคนที่คิดถึงนี่เราคิดถึงในแง่ไหนด้วยนะคะ แฮ่... แต่หากคิดถึงแบบตอนแอบรักนี่ก็นั่งอมยิ้ม เขินคนเดียวค่ะ ============================ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog lovereason Literature Blog ดู Blog tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog โดย: ปรัซซี่ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:27:08 น.
แปลซะเห็นภาพตามเลยค่ะพี่
เหมือนฉากนึงที่ยิ่งเศร้า หากว่าเราไกลกันคนละซีกโลก ตรงเส้นขอบฟ้า ตรงจุดเชื่อมต่อของวัน นั่นคือความคิดถึง ดวงดาวเชื่อมยากค่ะพี่ต้น ถ้าดวงจันทร์ เราอาจเห็นได้ในเวลาเดียวกัน ยังงันรึป่าวคะ (คิดว่า..) ก็นิคเองแหละยังเคยคิดเลยว่าบางทีเธออาจเห็นดวงจันทร์ตอนกลางวันจากอีกที่นึงก็ได้นะ :p เลยอยากฟัง Chasing Cars เลยค่ะ ^^ โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 16 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:22:18 น.
เพลงเพราะได้รู้ความหมายด้วย
ชอบๆ โหวตค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: pantawan วันที่: 16 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:51:56 น.
ขอบคุณทุกๆคนเลยครับ :) @พี่ตุ๊ก - ลาวดวงเดือนรู้จักครับ แต่ลาวดำเนินเกวียน...เอ่มมม.. ^^' @พี่หนูหล่อ - ขอบคุณครับ ภาษาไทยผมก็ไม่ชอบภาษาวิบัตินะครับ แต่บางทีก็ใช้ในบางอารมณ์เหมือนกัน :D แต่คำว่า "ชั้น" นี่ใช้ตลอดเลย เพราะผมคิดว่าเสียงสูงของคำนี้ให้ความรู้สึกที่มัน touch เข้าไปไปลึกกว่า "ฉัน" ครับ ^^' @พี่โอ ขอบคุณครับ :) @คุณนุ่น ดีใจที่คุณนุ่นชอบครับ :) @คุณปรัซซี่ คุณปรัซซี่นี่น่าจะโรแมนติกเหมือนกันนะครับ :) @คุณปาน ขอบคุณครับ :) @Nicky - อรรถาธิบายทำให้เรา connect กับเพลงได้น่ะครับ พอ connect แล้ว เข้าใจมากขึ้น เพลงก็น่าจะเพราะขึ้นนะ :D จริงๆใช้ดวงจันทร์สื่อถึงกันก็สะดวกนี้เหมือนกันนะ แถมกลางวันบางวันก็มองเห็นได้ด้วย แต่ถ้าเอาแสงดาวริบหรี่มาร้อยเรียงกันใช้เป็นเส้นนำลงมาหาเลยก็ฟังดูโรแมนติกดีเหมือนกันนะ :) Chasing Car เป็นเพลงของ Snow Patrol ครับ วง Alternative Rock จากอังกฤษ (เพิ่งรู้จักเหมือนกัน) นักร้องนำเป็นเพื่อนกับ Ed Sheeran ซึ่ง Ed ก็เคยเอาเพลงนี้มา Cover ลง youtube ด้วยครับ (แต่แนะนำให้ฟัง original ดีกว่า ^^') original อยู่นี่ครับ https://www.youtube.com/watch?v=GemKqzILV4w อารมณ์เพลงคือคำถามครับ รวมๆรวบยอดแล้วเหมือนจะถามว่าเธอเคยรักชั้นบ้างมั้ย? (If I just lay here, would you lie with me and just forget the world?) ชื่อเพลง Chasing Cars ได้มาจากคำประชดของพ่อของนักร้องนำที่่ว่าลูกชายที่ไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งว่า "You're like a dog chasing a car. You'll never catch it and you just wouldn't know what to do with it if you did." ผมนี่ถ้าโดนว่าแบบนี้ก็คงอึ้งไปเลย ^^' โดย: Karz วันที่: 16 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:50:18 น.
สวัสดีค่ะ
แวะมาฟังเพลงเพราะด้วยค่ะ รอฟังเพลงใหม่ค่ะ โดย: pantawan วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:34:17 น.
สวัสดีครับคุณปาน ขอบคุณนะครับ :) ถ้าวันนี้มีเวลาจะอัพให้นะครับ ^_^ โดย: Karz วันที่: 25 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:27:21 น.
|
Karz
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 126 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ Group Blog All Blog
|
||||||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
อ่านแล้วทำให้คิดถึงเพลง ลาวดวงเดือน หรือลาวดำเนินเกวียน
ที่ท่านเพ็ญพัฒนพงษ์ แต่ง ยามที่ดูดวงจันทร์แล้วคิดถึง เจ้าชมชื่น