เรื่องราวสามหนุ่มสามมุมที่แสนแตกต่าง ที่ประกอบด้วยแอนดรูว์ ตัวแทนเด็กเก็บกดมีปัญหาทางบ้าน และแสนเปลี่ยวเหงา, แม็ท ลูกพี่ลูกน้อง ที่ดูจะใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยตามแบบคนมีอันจะกิน และสตีฟ เด็กหนุ่มผู้ปราชญ์เปรื่อง เป็นที่รักของทุกคนและมีความเป็นผู้นำสูง .... ฟังดูอาจจะเป็นการรวมกลุ่มที่ต่างขั้ว แต่พวกเขาก็ได้มารวมตัวกัน พร้อมด้วยการค้นพบอันมหัศจรรย์ที่ทำให้พวกเขามีพลังพิเศษ ... ในตอนแรกพลังที่ว่าดูจะเป็นแค่กลขำๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป พลังที่ยิ่งใหญ่ก็นำมาสู่ด้านมืดของแอนดรูว์ และนั่นก็นำไปสู่หายนะที่ทั้งสามคงไม่ได้คาดเดาเอาไว้ตั้งแต่ต้น

หนังเหมือนเป็นส่วนผสมของหนังดราม่าชีวิตวัยรุ่นมีปัญหา ผสมผสามกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ และ Carrie หนังเขย่าขวัญสาวน้อยพลังจิตเมื่อยุค 70 ... ซึ่งปั่นรวมกันได้อย่างลงตัว ตัวหนังดูจะเน้นไปที่ปมความขัดแย้งในจิตใจ มากกว่าอภินิหาร บวกกับเทคนิคการเล่าเรื่องผ่านกล้องแฮนดี้แคม คงเป็นงานที่ไม่น่าจะถูกใจ คอหนังแอคชั่น หรือคนที่คาดหวังจะได้เห็นความตื่นตาแบบตรงๆอย่างที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่ผู้พิทักษ์มี ... The Chronicle คือ ความหาญกล้าในการนำเสนอ และให้ผลลัพธ์ในการวิเคราะห์จิตใจวัยรุ่นได้ยอดเยี่ยมมากๆเรื่องหนึ่ง

ตัวเอกของเรื่องคือ แอนดรูว์ ที่ท้ายที่สุด ปัญหาครอบครัว ความเก็บกด และภาวะความไร้จุดยึดในจิตใจ ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อตัวเขาและคนรอบข้าง ไม่ใช่ว่าเด็กมีปัญหาทุกคนจะต้องเดินหน้าเข้าหาความรุนแรง แต่การที่แอนดรูว์ได้พลังมาในจังหวะที่ไม่ค่อยถูกที่ถูกเวลา ความโกรธที่กดเก็บเอาไว้มานาน รวมถึงการเป็นผู้ถูกกระทำมาทั้งชีวิต และไร้ที่พึ่งพิงทางใจ อำนาจจึงกลายเป็นหลุมดำที่ดึงดูดเขาให้เข้าสู่ด้านมืด ... จะว่าไปตัวละครตัวนี้ แอบคล้ายปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ แต่เห็นได้ชัดๆว่า ในขณะที่ปีเตอร์ยังมียายที่ให้ความรักความอบอุ่นและข้อคิดเตือนใจดีๆ แต่แอนดรูว์กลับไม่มีใครเลยสักคน

สรุป ... The Chronicle เป็นหนังไอเดียเจ๋ง ที่ดูจบอาจจะไม่ถึงกับร้องว้าว แต่ก็ทำให้คนที่เริ่มเบื่อหนังฮีโร่ดาษๆ รู้สึกตาลุกวาวได้บ้าง และถ้าจะให้จัดหมวด นี่คงเป็นงานกลุ่มดราม่าวิเคราะห์ปัญหาวัยรุ่น มากกว่าจะจัดไว้ในหมวดเดียวกับหนังตระกูลสไปเดอร์แมนทั้งหลาย เพราะฉะนั้นคิดให้ดีๆ ก่อนจะหยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดูก่อนนะครับว่า คุณกำลังอยากดูอะไร .... B