All Blog
|
เมื่อรถถึงวัยต่อต้าน "สอบเป็นไงมั่ง?" "ทำได้ไหม?" ขอตอบตรงนี้สำหรับคนที่อยากรู้เลยล่ะกันว่า "ทำไม่ได้ และ ไม่ได้ทำ" ถึงจะถามไปงั้น ๆ ก็เหอะ...แต่มันทำร้ายจิตใจเรามากมาย T^T~~ มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง... วันก่อนวางแผนหนีออกจากบ้าน เป็นเรื่องปกติในช่วงสอบ ที่เราจะไม่อยู่บ้าน จริง ๆ ก็กลับบ้านทุกวันน่ะล่ะ แต่กลับช่วงกลางวัน ซึ่งไม่มีใครอยู่บ้านกัน กลับไปอาบน้ำแล้วก็ออกมาสอบ ตอนเย็นก็กลับไปอาบน้ำแล้วก็ออกมาอ่านหนังสือกับเพื่อน แล้วก็ไปขอนอนบ้านกิ๊ก(?) ขอย้อนอดีตไปถึง คืนวันศุกร์นิด.. ที่นี้ วันจันทร์ก็มาถึง วันที่เราว่าจะหนีออกจากบ้านน่ะล่ะ สาย ๆ แม่ก็โทรมาถามว่า "วางเงินไว้ให้บนโต๊ะ เห็นรึยัง?" เราตอบไปว่า "ไม่เห็น" แม่เลยบอกว่า "ยังอยู่ข้างบนล่ะสิ" อ่าว แม่รู้ได้ไง... เอ้ย ไม่ใช่นะ... อยู่ข้างบนน่ะจริง แต่ตื่นนานแล้ว ลงไปกินข้าวแล้วถึงขึ้นมาชั้นบนตะหาก แต่ก็ไม่เห็นเงินจริง ๆ น่ะล่ะ สงสัยพี่จะหยิบไป พี่เข้ากะเช้าด้วยวันนี้ สักพักแม่ก็เลยกลับบ้าน เอาเงินมาให้ T/\T~~ ขอบคุณครับ ส่วนไอ่กะรัน พอได้เงินก็ลัลลา~~ ไปช๊อปปิ้ง แหม๋ จะหนีออกจากบ้าน ก็ต้องเตรียมเสบียงไว้ด้วยสิ อุปกรณ์เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด จะให้ไปรบกวนเพื่อน ๆ ทุก ๆ อย่างก็ใช่ที่ (เดี๋ยวเค้าจะไม่ให้ไปนอนบ่อย ๆ 555...) ทำไปทำมา ใช้เงินไปมากกว่าเงินที่แม่ให้ซะอีก O[]o~ สรุปคือ เข้าเนื้อตัวเองอีกแล้ว แกลบเลย กรรม...ยังเหลืออีกตั้งหลายวันกว่าจะสิ้นเดือน แล้วจะกินอะไรล่ะเนี่ย T^T~~ ตอนเย็น ไปทำงาน เป็นเรื่องที่ตลกมากอยู่อย่างหนึ่ง คือ วันจันทร์ปกติจะเป็นเวรเรา ที่นี้ วันอังคารสอบ เราก็เลยไม่ลงเวร (กะว่าจะอ่านหนังสือ) ก็ปรากฏว่า ไม่มีใครยอมลง(เพราะทุกคนก็จะสอบ) พี่ผู้จัดการเลยยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่มีใครลงจริง ๆ เราก็ต้องลง เราก็เลยไปออดอ้อน+อ้อนวอน ให้เพื่อนที่อยู่เวรเช้ามาลงให้ ประมาณว่าน๊อครอบน่ะล่ะ ตอนแรกเค้าก็ไม่ยอม เพราะว่า หอเค้าปิดช่วงคริสต์มาส แล้วเค้าไม่มีที่นอน เค้าเลยจะกลับบ้าน(ต่างจังหวัด) จะให้ค้างบ้านเราก็ไม่ได้ เพราะเราจะหนีออกจากบ้าน แต่สุดท้ายก็ยอมลงให้ เราก็คิดว่า วันจันทร์ได้หยุดชัวร์ ๆ ปรากฏว่า คืนวันศุกร์ เพื่อนอีกคนที่อยู่เวรเย็น(อยู่แล้ว) โทรหาเรา บอกว่า เลิกสอบทุ่มครึ่ง O[]o!!! ก็คือ อยู่เวรไม่ได้น่ะล่ะ ก็พบกันครึ่งทาง เราอยู่แทนแค่ถึง 2 ทุ่ม แล้วกลับ ลูกค้าที่สนิท ๆ กันก็แปลกใจ ว่า ไหนไอ่กะรันบอกว่าแลกเวรแล้ว ทำไมยังมาเข้าเวรอยู่ -"- 2 ทุ่มกว่า ๆ เราก็ขับรถไปมอ ด้วยอารมณ์ชิว ๆ ขับช้า ๆ ไม่เปิดแอร์ด้วย เพราะว่า หนาวมั่ก ๆ แต่เปิดวิทยุ ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ เจอไฟแดงซะส่วนใหญ่ แต่เพราะรู้สึกชิว ๆ เลยไม่เดือดร้อน เลี้ยวเข้าทางหน้ามอ...อืม..ไม่ได้ใช้เส้นทางนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ เลี้ยวผ่านศาลาธรรม... ปุด ๆ ๆ... อืม...เพลงนี้ใครร้องหว่า...ดนตรีแปลก ๆ นะนั่น ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ปุด ๆ ๆ... หือ...ไม่ใช่ล่ะ...เสียงมันมาจากหน้ารถนี่หว่า.. หรือว่า... /me มองสเกลความร้อนที่ขึ้นถึงขีดสุด...O[]o!!! ซวยแล้วไง... ชะลอความเร็ว เอารถเข้าข้างทาง แล้วก็โทรหาพี่ทันที เครื่องร้อนมั่ก ๆ ไอ่เสียงที่ได้ยิน มันคือเสียงน้ำเดือด...ไม่ใช่น้ำเดือดธรรมดา แต่น้ำแห้งด้วย กรรม...รถฉัน..มาเป็นอะไรตอนนี้เนี้ย หรือว่าถึงวัยต่อต้านแล้ว O[]o!!! พี่บอก...ถ้าไม่ใช่เพราะพัดลม ก็หม้อน้ำรั่ว ชัวร์! เออ..จะอะไรก็ช่าง มาก่อนได้ไหม จอดอยู่หน้าหอสมุดเนี่ย ก็รอพี่อย่างเดียว เพราะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี มันยังร้อนอยู่ ระหว่างนั้นก็โทรไปโวยวาย (เป็นพวกชอบโวยวาย ^^") กับเฮียว่า "เฮียทำอะไรรถผม" แต่เฮียไม่ยอมรับน่ะนะ แล้วก็โทรไปโวยวายต่อกับเฟิร์สว่า รถกะรันเสีย T^T~~ จะไปถึงช้าหน่อย รอกะรันด้วยน๊าาา >_<~~ เฟิร์สก็คุยด้วยอารมณ์ประมาณว่า 'จะอ่านหนังสือ ไม่ได้จะฟังแกบ่น' อะไรแบบนั้น จะโทรไปโวยวายกับคนอื่นต่ออีกเหมือนกัน แต่เกรงใจ ก็เลยยืนรอพี่ต่อไป อื้ม...มีคนใจดีจอดรถถามด้วยว่า "รถเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? มีอะไรให้ช่วยไหม?" ด้วยความเกรงใจ เลยปฏิเสธไป ก๊าซซซ จริง ๆ แล้วเค้าก็หน้าตาดีนะ ถ้าใส่แว่นด้วย ไอ่กะรันคงจะฉุด เอ้ย ขอให้อยู่รอพี่เป็นเพื่อนแล้ว >_<~~ อาจจะแบบว่า แลกเบอร์เป็นการตอบแทนอะไรแบบนั้น พร้อมนัดเลี้ยงขอบคุณสักมื้อ หรือไม่ก็ส่งถ้วยชายี่ห้อดังไปให้ เป็นการขอบคุณ หึหึหึ พี่ยังไม่มาสักที ก็พอจะเข้าใจนะว่าบ้านเราน่ะ ไกลมั่ก ๆ เพราะเคยขอให้เพื่อนไปส่งบ้านแล้ว เค้าไม่ไป บอกว่า บ้านเราไกลไป -"- ก็เลยคิดแผนหนีออกจากบ้าน แผน B (แผน A ล่มไปแล้วนี่นา) แผน B ก็ประมาณว่า จะให้พี่ขับรถกลับบ้านแล้วเราจะอ่านหนังสือกับเพื่อนใต้หอ แล้วก็ไปนอนบ้านใครสักคน (คาดว่าจะเป็นพลอยรุ้ง) พอพี่มาถึง ดูรถให้ เติมน้ำ แล้วก็เล่าแผน B ให้พี่ฟัง พี่ปฏิเสธอ่ะ เพราะว่า ไม่อยากจอดมอ'ไซต์ทิ้งไว้ มีคำถามแทรกเข้ามา... แล้วทำไมกะรันไม่ใช้มอ'ไซต์พี่แทนล่ะ คำตอบก็คือ... กะรันขี่มอ'ไซต์ไม่เป็น ^^""~ ขับเป็นแต่รถยนต์นะครับ ที่บ้านห้ามด้วย(ห้ามเฉพาะเรา) พี่บอกว่า ขนาดรถยนต์มันยังขับชน ขี่มอ'ไซต์มันคงตายไปแล้ว คือ พอถูกปฏิเสธก็เลยต้องล้มเลิกแผน B ไปอย่างน่าเสียดาย แผน C ก็เลยเกิดขึ้น แน่นอนว่า แผน C ก็คือกลับบ้าน อ่านเอง แต่ก่อนกลับก็แวะไปเอาชีทที่เพื่อน ซึ่งก็แน่นอนว่า กะรันไปโวยวายต่อใต้หอน่ะนะ จนเพื่อน ๆ เอือมและไล่กลับ แต่ละคนทำหน้าดีใจ ประมาณว่า 'ดีแล้วที่รถมันเสีย ไม่งั้นคงอ่านหนังสือไม่สงบสุขแน่ ๆ' กลับถึงบ้าน อาบน้ำแล้วก็ไปอ่านหนังสือ ตอนแรกกะอ่านถึงเช้า แต่ไม่ไหว เลยนอน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้ามั่ก ๆ กะลุกขึ้นมาอ่านอีกรอบ ตั้งไว้ 2 ครั้ง ห่างกันครึ่งชั่วโมง อีกอย่าง เราบอกแม่ว่า จะต้องเคลียร์ของในรถออกก่อน ถึงจะเอารถไปซ่อมได้ แม่เลยบอกว่า แม่จะไปทำงานแต่เช้า ให้เราตื่นให้ทันประมาณนั้น เราเลยวางใจ อย่างน้อย ถ้านาฬิกาปลุกไม่ตื่น แม่ก็คงจะมาปลุก ที่ไหนได้...สายแล้วไอ่กะรันเพิ่งรู้สึกตัว... ดีนะที่สอบเที่ยง ยังพอมีเวลา อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว สักพักแม่ก็โทรมา บอกว่า เคลียร์ของจากรถเสร็จแล้วให้โทรหาแม่ แล้วฝากกุญแจรถไว้ที่แม่บ้าน แล้วแม่จะให้คนมาเอารถ เจอแม่บ้าน ก็ทวนประโยคเดิมที่แม่พูดไว้ตะกี๊เป๊ะ แต่สุดท้ายตอนที่เค้ามาเอารถ เราก็ยังไม่ได้ออกจากบ้านน่ะนะ วันนี้เลยต้องใช้บริการรถแดงที่ไม่ได้ใช้มานาน ^^ ไปสอบแล้วก็เลยไปทำงานต่อ กลับบ้านก็ให้แฟน...แฟน(ว่าที่)พี่สะใภ้ (ซึ่งก็คือ พี่เราน่ะเอง) มารับ หนาวมั่ก ๆ แค่จากที่ทำงานกลับบ้าน ขนาดใส่เสื้อกันหนาวยังหนาวเลย (ได้ข่าวว่าเสื้อคณะกันอะไรไม่ค่อยจะได้) รถยังไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ แต่คาดว่า ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืน ไม่รู้ว่า ที่มันหนาวเนี่ย เพราะกะรันอ่านหนังสือ หรือว่า เพราะกะรันจะต้องอยู่บ้าน เพราะออกไปไหนไม่ได้(ไม่มีรถ) (รู้สึกจะเป็นข้อหลัง เพราะถ้าเป็นข้อแรก คงไม่ใช่หนาวธรรมดา แต่หิมะคงตกเลย 555..) ขอบคุณ..หลาย ๆ คนในที่เราโทรไปรบกวน(โวยวาย) โดยเฉพาะเฮียและเฟิร์ส แล้วก็ขอบคุณเฟิร์สด้วยที่ขี่มอ'ไซต์ไปส่งกะรันถ่ายเอกสารชีททั้ง ๆ ที่หนาวมั่ก ๆ กะรันเสียด๊ายเสียดายล่ะที่ไม่ได้ไปนอนบ้านพลอยรุ้ง >_<~~ (ได้ข่าวว่าพลอยรุ้งดีใจยิ่งกว่าได้ A วิชาดีไวซ์) ปล. ตารางสอบ อยู่ที่กลุ่มแรกนะ(แค่อยากจะบอก) คลิกเลือกด้านซ้ายบนเองล่ะกัน ก็จะไปส่งพี่ยุ้ยที่โรงแรมตรงหัวมุมสี่แยก<<<<<<<เอ้ยยๆๆๆๆ
รถเอาไปซ่อมแล้ว เอามาใช้อีก ก็ยังเสียอีกเหรอ = ='' ดีแล้วที่ไม่ไปเสียที่เปลี่ยวๆ เดี๋ยวพลเมืองดีใส่แว่นจะโดนฉุด โดย: Diabolic Angel วันที่: 20 ธันวาคม 2549 เวลา:19:49:18 น.
**
ริวเอ๊ยย!!.. วันนั้นท่าทางจะง่วงเกินพิกัดจริงๆด้วย เจ๊ก็อุตสาห์นะ..บอกให้แวะเข้าไปนั่งเล่น นอนเล่นซักคืน เรารึอุตสาห์อ่อยให้เต็มที่แล้ว ยังขับเลยอีก แหม่ๆ.. เศร้าจายยย แต่วันที่รถเสียนี่.. สงสัยว่าลืมเจ๊ ไม่เห็นโทรมาโวยวาย คริๆ (แอบดีใจ กรูรอด ^^) เรื่องหม้อน้ำก็อย่างที่ฟ้าบอกอ่ะ ห้ามเปิดเด็ดขาด!!! เพราะท่านพ่อเจ๊เคยลองมาแล้ว โดนลวกไปทั้งแขน (ดีนะไม่โดนหน้า) นึกแล้วยังสยองอยู่เลยอ่ะ บรื้ออ.. ว่าแต่ฟ้าถึกจังอ่ะ (= =)" ไว้วันไหนรถเจ๊เสียกลางทาง อาจจะโทรไปรบกวนนะ ฮี่ๆ (แอบเลวแระ) ช่วงนี้มันหนาวอ่า.. หนาวโคะๆ น่านอนแบบไม่ลุกเลยจริงๆ ** โดย: Sephil IP: 202.28.27.6 วันที่: 20 ธันวาคม 2549 เวลา:21:42:29 น.
เรียนขับรถยนต์มา แต่ขับไปชน เลยไม่มีบุญได้ขับอีก
มอเตอร์ไซต์ ขับเป็น แต่ที่บ้านไม่ให้ขับ.. โดย: KMS&หมาป่าสำราญ วันที่: 20 ธันวาคม 2549 เวลา:22:19:12 น.
|
riar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เอาเป็นว่า เราก็ขับรถเป็นแต่รถยนต์เหมือนกัน มอไซค์ก็ไม่เป็น
และก็แอบรู้สึกว่ากะรันโชคดีนะ
ที่ยังมีคนมีน้ำใจ(บวกหน้าตาดี ก๊ากซ) คิดช่วย
เรายังไม่เคยไปรถเสียคนเดียว เคยไปรถเสียกับแม่
รู้สึกเหมือนโลกนี้มีแค่เรากับแม่สองคนเลย เอิกส์ๆ
. . . แต่ก็ไม่คิดอะไรมากนะ
แล้วเวลาจอดรถที่มอชออ่ะ มันชอบมีรถมาจอดนอกซองขวาง
สาว(?)แกร่งแรงเหลือน้อย ได้เข็นเองประจำค่ะ วะฮะฮ่า
ไม่เดือดร้อนหรอกนะ เพราะแรงเราเยอะจริงๆ เนื่องจากกินเยอะและน้ำหนักเยอะ
แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่า . . .
วันไหนใส่ชุด นศ เต็มยศไป มันจะมีพลเมืองดีมาช่วยเข็น
แต่วันไหนใส่เชิ้ตกับยีนไปเรียน หรือทำตัวแมนๆ เออ ไม่มีคนช่วยวุ้ย
แล้วคิดดูว่าปีๆ นึงเราใส่ชุด นศ นับวันได้เลยล่ะ เอิกส์ๆ
สงสัยหม้อน้ำจะรั่วแฮะ เพิ่งเติมไปได้แปปเดียวหมดอีกแล้ว
เรื่องเช็ครถก็ทำไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน ได้แค่น้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำกลั่นไปตามประสา
รถเราเก่ามากๆๆ แล้วอ่ะ พังเป็นเรื่องปกติไปซะละ เฮ้อ
ดีแล้วที่มันเดือดละไม่ทำอะไรเน่อ
ห้ามเปิดหม้อน้ำเด็ดขาดนะ !! ไม่งั้นแย่แน่ๆ
เพราะน้ำที่กำลังเดือดๆ มันอาจจะพุ่งขึ้นมาใส่ได้เลยน่ะ