หากจะย้อนเวลาไปหาอดีตเมื่อประมาณ 28 ปี (ประมาณ พ.ศ. 2523) ที่ผ่านมา หลายท่านที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้อาจจะยังไม่เกิด หรือเกิดแล้วอาจจะยังเป็นเด็กเล็กๆ

ในสมัยนั้นมีธุรกิจขายอาหารที่ฮือฮากันมากในสังคมกรุงเทพ คือผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่สมัยนั้น คือกลุ่ม PSA ซึ่งมีกองบัญชาการตั้งอยู่ที่ปลายถนนศรีอยุธยาติดกับสี่แยกมักสัน และตั้งอยู่ในอาคารสูงหลายชั้นที่ติดกระเบื้องโมเสคสีดำทั้งหลัง ผู้คนในกรุงเทพสมัยนั้นเรียกขานกันโดยทั่วไปว่า "ตึกดำ"


กลุ่ม PSA ทำธุรกิจหลายประเภท เรียกง่ายแบบชาวบ้านว่าทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ อาทิ บริษัทประกันชีวิต (อินเตอร์ไลฟ์) บริษัทเงินทุน บริษัททัวร์ (ทัวร์รอแยล) บริษัทรถเช่า โรงแรมชั้นหนึ่งระดับสี่ดาว (รร.รามาทาวเวอร์ สีลม) บริษัทซักรีดเสื้อผ้า บริษัทออกแบบก่อสร้าง ลฯล

ทั้งหลายที่กล่าวมายังไม่น่าแปลกใจเท่ากับกลุ่มธุรกิจนี้ประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ ในนาม "ข้าวแกงรามา" มีที่มาเล่าขานกันว่าผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มธุรกิจนี้ ขออนุญาตเอ่ยนามท่าน คือ คุณสุธี นพคุณ มีแนวความคิดว่า อยากจะให้คนชั้นกลางลงมาที่กินข้าวแกงตามริมถนน ได้มีโอกาสลิ้มรสข้าวแกงระดับห้องอาหาร รร.ชั้นหนึ่งบ้าง นั่นคือการเปิดร้านข้าวแกงติดแอร์ตามที่ชาวบ้านเขาเรียกขาน ตั้งอยู่ในอาคารย่านชุมชนของกรุงเทพ อาคารต้องตกแต่งอย่างสวยงาม ติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พนักงานขายต้องมีเครื่องแบบสวยงาม เรียบร้อย ผู้จัดการร้านต้องมีวุฒการศึกษาจบระดับปริญญาตรี เรียกว่าทุกอย่างต้องเลิศหรูอลังการ





ที่ได้ชื่อว่า "ข้าวแกงรามา" เพราะต้นแบบมาจาก รร.รามาทาวเวอร์ ข้าวแกงรามาสาขาแรกเปิดที่ศูนย์การค้าสยามสแควร์ ปัจจุบันเป็น รร.ชั้นหนึ่งระดับห้าดาว และขยายสาขาอย่างรวดเร็วไปทั่วย่านชุมชนต่างๆของกรุงเทพ อาทิ สาขารามกำแหง สาขาราชวิถี สาขาราชดำริ สาขาสุดท้ายก่อนจะปิดฉากลงคือ สาขาพรานนก ข้าง รพ.ศิริราช


ผมมีโอกาสเข้าไปร่วมงานกับ "ข้าวแกงรามา" โดยการชักชวนจาก อ.ไพบูลย์ สำราญภูติ ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารรามา จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของ "ข้าวแกงรามา" และยังมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท อินเตอร์ไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด อีกด้วย


ผมเข้าไปตอนนั้น "ข้าวแกงรามา" ธุรกิจเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ถ้าเปรียบกับคนเป็นมะเร็ง ก็เข้าระยะที่สองแล้ว และกำลังจะเข้าระยะที่สาม ที่เป็นอย่างนี้เพราะมีปัญหามากมายในการบริหารจัดการ หากจะพูดโดยละเอียดต้องเขียนเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก

อ.ไพบูลย์ เข้าไปบริหารเปรียบเสมือนหมอที่ต้องรักษาคนไข้อาการหนัก แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ พยายามทุกอย่างที่จะกอบกู้สถานะการณ์ของบริษัทให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา อาทิ ปรับปรุงการบริหารจัดการทุกด้าน ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แสวงหาธุรกิจใหม่ๆเพิ่มเติม เช่น การจัดส่งอาหารปิ่นโตตามบ้าน การผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้อง เข่น น้ำปลารามา เนื้อเทียมรามา บริการจัดเลี้ยงอาหารนอกสถานที่ เป็นต้น

แต่ถึงจะพยายามอย่างไร "ข้าวแกงรามา" ก็ไปไม่รอด คณะกรรมการบริหารมีคำสั่งยุบกิจการลงในปี พ.ศ. 2524 เป็นอันปิดฉากลงอย่างสิ้นเชิง

ผมมีภาพบางภาพมาให้ท่านชมครับ


อ.ไพบูลย์ ตรวจความเรียบร้อยก่อนจะเปิดสาขาสุดท้ายคือสาขาพรานนก

เจ้าป้า เจ้ากอแก้ว ประกายกาวิลฯ ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิด

งานเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ รร.รามาทาวเวอร์ คุณชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ (ซ้ายมือ)ให้เกียรติมาร่วมงาน โดย อ.ไพบูลย์ สำราญภูติ (ขวามือ) ให้การต้อนรับ

บอสส์ใหญ่ของกลุ่ม PSA สุธี นพคุณ ก็ให้เกียรติมาร่วมงาน