|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
คำพิพากษาของผู้ช่วยครูใหญ่ที่มีต่อลูกชายวัย ๘ ขวบของเรา
จริงๆอยากจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษไปลงในเว็บไซด์ ที่คนในเมืองแม่ปูอยู่อาศัยกันจะได้รู้ได้ระวังกันไว้ให้ทั่วหน้า แต่ภาษาอังกฤษตัวเองไม่ได้เรื่องเลย สามีก็ไม่ค่อยชอบเขียน แต่ถนัดที่จะพูดมากกว่า ในกรณีนี้ พ่อบ้านเป็นฮีโร่ของลูกจริงๆ ตัวเองได้แต่อยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจ คอยเสริมในสิ่งที่คิดว่าพ่อบ้านจะลืม
ตัวเองเขียนอะไรยาวๆไม่ค่อยเก่งเหมือนกัน แต่จะพยายามเล่าเหตุการณ์ที่ประสบมาเมื่อวานนี้ให้ฟังค่ะ ใช้เวลาคุยกับครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่นานประมาณ ๑ ชั่วโมงกว่าค่ะ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีโทรศัพท์จากผู้ช่วยครูใหญ่โทรศัพท์ไปถึงพ่อบ้านแม่ปู แจ้งว่า มีแม่ของเด็กซื่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของนิคกี้โทรศัพท์มาแจ้งเรื่อง (นิคกี้ว่าเป็นเพื่อนซี้กันด้วย เล่นด้วยกันบ่อยๆที่โรงเรียน) แม่ของเด็กคนนั้นโทรศัพท์มาโวยวาย ทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ใหญ่โตมาก(ครูประจำชั้นเล่าให้ฟัง) ส่งรูปเจ้าปัญหามาให้ครูทางอีเมล์ ให้เอาเรื่องนิคกี้ว่าวาดรูปที่ไม่เหมาะสมออกมาอย่างนี้ได้อย่างไร
ตรงนี้เกินความสามารถของครูประจำชั้น ก็ได้ส่งเรื่องไปให้ผู้ช่วยครูใหญ่(Assistant Principal)
ซึ่งเป็นผู้แก้ไขปัญหาต่างๆในโรงเรียนเป็นคนจัดการ
ผู้ช่วยครูใหญ่เล่าว่าลูกชายวัย ๘ ขวบของเรา ได้วาดรูปผู้ชาย กับผู้หญิง เปลือยกาย กำลังทำท่าXXXกันอยู่ พ่อบ้านได้สอบถามว่า เป็นรูปการ์ตูนสติ๊กฟิงเกอร์ใช่ไหม เวลาเด็กๆวาดรูปส่วนใหญ่วัยนี้มือไม้มันจะออกมาเป็นเส้นๆ เหมือนรอยตีนไก่บ้านเรา ที่นี่เค้าเรียกสติ๊กฟิงเกอร์ ผู้ช่วยครูใหญ่ก็ว่าไม่ใช่ ก็อธิบายให้พ่อบ้านฟังว่าเป็นรูปแบบไหน อยากให้พ่อบ้านมาดูรูปด้วยตัวเอง พ่อบ้านกำลังทำงานอยู่ ก็เลยบอกผู้ช่วยครูใหญ่ไปว่า ให้เอารูปใส่ซองส่งไปที่บ้านก็แล้วกัน
คือในใจยังคิดอยู่ว่า รูปมันคงจะไม่เท่าไหร่ ลูกเราจะไปจินตนาการวาดอะไรพิเรนๆได้ยังไง ในเมื่อไม่เคยให้ลูกดูหนังโป๊ๆ หนังสือโป๊ก็ไม่มีในบ้าน ที่บ้านไม่รับสัญญาณทีวี ไม่มีรายการทีวีแบบปรกติที่ลูกจะมาเปิดเห็นฉากอย่างว่าได้ และการ์ตูน หรือหนังที่ให้ลูกดู ก็จำกัดเรท เหมาะสมกับวัยของลูกทั้งนั้น ยังคิดอยู่ว่าแม่ของเพื่อนทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
หลังจากที่พ่อบ้านคุยกับผู้ช่วยครูใหญ่เสร็จไปแล้ว ก็โทรหาแม่ปู แจ้งข่าวว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ ถ้าเจอลูกก็อย่าเพิ่งถามลูก อย่าทำให้ลูกตกใจกลัว เดี๋ยวพ่อกลับบ้านจะมาคุยกับลูกเอง
หลังจากเด็กๆเลิกเรียนแม่ปูก็ไปรับลูกตามปรกติ ก็มีเจ้าหน้าที่มายืนรอ คือมาคอยยื่นซองรูปให้เราแบบไม่ให้ลูกเราเห็น เค้ายื่นซองรูปเจ้าปัญหาให้ ก็ถามเราว่าคุยกับมิสเตอร์ทีแล้วใช่ไหม (ชื่อสมมุติของผู้ช่วยครูใหญ่) แม่ปูก็ว่าสามีของฉันคุยกับเค้าแล้ว แอบรู้สึกไปว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นทำหน้ายิ้มเยาะ คงจะอวยพรให้ฉันโชคดีละสิ..(ประชด) ส่วนตัวเองก็คิดต่อไปว่า รูปสติ๊กฟิงเกอร์ มันจะขนาดไหนเชียว...
พอลูกขึ้นมานั่งในรถ แม่ปูก็ ทักทายลูกตามปรกติที่เคยทำทุกๆวัน ถามลูกว่าวันนี้ที่โรงเรียนสนุกไหม กินข้าวกลางวันหมดหรือเปล่า ใครมีปัญหาอะไรที่โรงเรียนไหม หรือใครมีอะไรที่ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษบ้าง คือถามให้ลูกเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังตามปรกติ ลูกก็หน้าซึมๆ บอกว่าวันนี้ไม่ค่อยสบาย ตอนกลางวันก็ไม่ได้เล่นอะไร นั่งอยู่เฉยๆ ก็ถามลูกว่าปรกติลูกไม่เคยนั่งเฉยๆ วันนี้มีอะไรผิดปรกติอยากจะเล่าให้แม่ฟังหรือเปล่า ลูกก็ว่า ขอไม่พูดถึงได้ไหม เราก็เลยไม่เซ้าซี้ถามลูก ก็คุยเล่นกับลูกปรกติ
จนกลับถึงบ้าน ให้ลูกเอาข้าวของกระเป๋าไปเก็บ ตัวเองก็รีบวิ่งเข้าห้องนอน เปิดดูรูปเจ้าปัญหา พอเห็นรูปแล้วช็อค!!!!!!!ค่ะอึ้งไปเลย เป็นรูปผู้หญิงทำท่าโก้งโค้ง มือยันพื้น ก้นโด่งขึ้น ผู้ชายยืนอยู่ข้างหลัง ติดกับก้นผู้หญิง กำลังทำท่าXXX ดูแล้วไม่เชื่อ ไม่คิดว่าลูกเป็นคนทำแน่ๆ จะต้องมีการเข้าใจผิดอะไรเกิดขึ้นแน่นอน กลับออกมาจากห้องนอนเปิดการ์ตูนให้ลูกดู รีบโทรไปหาพ่อบ้าน บอกว่าไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือลูกแน่ๆ คุณกลับบ้านเร็วๆนะ ฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว พ่อบ้านก็หัวเราะ บอกว่าทำใจให้สบาย ผมกำลังคุยอยู่กับเพื่อนที่เป็นนักจิตวิทยาอยู่ ((เออ..พอเห็นรูปแล้วคุณจะช็อคเหมือนฉัน))
วางโทรศัพท์หาข้าวหาน้ำให้ลูกกิน คุยเล่นกับลูกปรกติ ไปส่งลูกเข้าคลาสจูเจ็ทสุ กว่าพ่อบ้านจะกลับบ้าน เหมือนกับนานเป็นชาติ ลูกกลับมาบ้านก็ให้ลูกอาบน้ำอาบท่า กินอะไรก่อน พอภาระกิจอะไรต่างๆเสร็จสิ้น ก็ปาไปทุ่มกว่าเกือบสองทุ่ม พ่อบ้านถึงได้เรียกลูกมานั่งคุยกันตัวต่อตัว (แม่ปูแอบอยู่ใกล้ๆ) บอกว่าพ่อมีอะไรจะคุยด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าพ่อรักลูก ไม่โกรธลูก แต่อยากให้ลูกพูดความจริงทั้งหมด พ่อรู้เรื่องที่ลูกเข้าไปพบผู้ช่วยครูใหญ่แล้ว พ่ออยากถามว่าลูกวาดรูปอะไร ลูกก็ว่าวาดรูปคน ยืนเรียงกัน คือเป็นสติ๊กฟิงเกอร์ แล้วก็รูปการ์ตูนอะไรอีกหลายอย่าง วาดรูปเพื่อนๆกำลังวิ่งเล่นกันมั่ง แล้วพ่อก็ว่า แล้วรูปนี้ล่ะ ลูกเป็นคนวาดหรือเปล่า พ่อเอารูปให้นิคกี้ดู พอนิคกี้เห็นรูป นิคกี้ก็ว่า ไม่ได้วาด ไม่ได้วาดจริงๆ
ตอนนี้ลูกเสียงใสแจ๋ว หน้าตาสดชื่น ร่าเริงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แล้วลูกก็รู้ด้วย ว่าเพื่อนคนไหนเป็นคนวาด เพื่อนวาดแล้วก็เอามาให้ดู ดูแล้วลูกก็ว่าเฉยๆ ไม่ได้สนใจ ส่งกลับให้เพื่อน จะด้วยเหตุใดก็ตาม รูปภาพนั้นได้ไปตกอยู่ในมือเพื่อนสนิท แล้วเพื่อนเอากลับบ้านใส่ไว้ในลิ้นชัก จนแม่มาเห็นเข้า พอถามลูกว่าใครเป็นคนให้รูป ใครเป็นคนวาด เพื่อนคนนั้นดันตอบว่านิคกี้เป็นคนวาดนิคกี้เป็นคนให้รูปนี้มา คุณแม่ท่านนั้นรับไม่ได้ค่ะ ก็เลยทำเป็นเรื่องราวใหญ่โต โทรหาครูให้จัดการกับนิคกี้
ตอนที่พ่อบ้านให้ลูกดูรูปภาพ ก็ถามลูกว่า รู้ไหมว่าคนในรูปกำลังทำอะไร ลูกก็ตอบว่าไม่รู้!!!
ตอนเช้าเมื่อวานสามคนพ่อแม่ลูก ไปโรงเรียน ตอนแรกเข้าไปขอพบครูใหญ่(Principal)ก่อนเลย คุยกับครูใหญ่ก่อน แล้วครูใหญ่ก็เรียกผู้ช่วยครูใหญ่เข้ามาคุยด้วย กรณีผู้ช่วยครูใหญ่ ถามลูก โดยเป็นการถามนำให้ตอบ โดยถามว่า นิคกี้เป็นคนวาดรูปผู้ชายกับผู้หญิงเปลือยกายใช่ไหม คำถามคือให้ตอบใช่ หรือไม่ เท่านั้น
ก็แหงละ ลูกเรามันก็วาดอะไรตั้งหลายอย่าง จะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หมา แมว ก็วาดทั้งนั้น
แล้วรูปสติ๊กฟิงเกอร์ที่ลูกวาดมันก็ไม่มีเสื้อผ้าซะด้วย
คนเป็นพ่อแม่ที่มีลูกในวัยนี้ คงจะรู้ดีว่ารูปสติ๊กฟิงเกอร์จะออกมาเป็นแนวไหน พอครูถามอย่างนี้ลูกก็ตอบว่าใช่ดยที่ครูไม่ได้เอารูปเจ้าปัญหานั้นให้ลูกดูเลย แล้วครูก็พิพากษาว่าลูกเราเป็นคนผิด เป็นคนวาดรูป โดนครูตราหน้าว่าเป็นไอ้ลามก
โดยที่ลูกเราไม่ได้รู้เรื่องใดๆเลย อะไรวะ!! วาดรูปคนก็ผิดด้วย........ .ถ้าให้ลูกดูรูปตั้งแต่แรก เรื่องอย่างนี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น
พ่อบ้านเราก็ว่า คุณทำงานรับผิดชอบเด็กๆอยู่ทุกวัน คำถามที่คุณใช้ถามเด็กคุณคิดว่ามันถูกต้องแล้วเหรอ ซึ่งผู้ช่วยครูใหญ่เค้าคิดว่า เค้าใช้คำถามที่ดีแล้ว ถ้าหากถามแบบพ่อบ้านเราถาม เด็กสามารถจะตอบไปอย่างอื่นได้ว่าวาดรูปอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่รูปเจ้าปัญหานั้น เราฟังแล้วก็เหมือนกับว่าเค้าจะให้ลูกเราตอบว่าใช่เท่านั้น เค้าถึงจะพอใจ
พ่อบ้านก็พูดว่า เค้าทำงานที่มีเพื่อนๆนักจิตวิทยาทำงานกับเด็กๆและครอบครัวที่มีเด็กๆเหมือนกัน ก็คุยกันถึงกรณีนี้ ถึงแม้เด็กจะวาดจริง ก็ไม่ควรทำเป็นเรื่องใหญ่ แล้วนี่ลูกฉันไม่ได้ทำ แล้วคุณมายัดเยียดความผิดให้ จากเด็กที่เรียนดี ได้เกรดA มาตลอด คุณจะทำให้เค้ากลายเป็นคนเกลียดโรงเรียน ไม่อยากมาโรงเรียน คุณควรจะได้รับการเทรนในเรื่องการพูดคุยกับเด็กๆนะ พ่อบ้านก็ว่าไปทำนองนี้ค่ะ
แล้วก็ว่าคุณควรจะขอโทษลูกของผมในสิ่งที่คุณทำลงไป แม่ของเด็กที่โทรมาโวยวายก็ควรที่จะขอโทษลูกผมด้วย คุณรู้ไหมว่าการถามนำอย่างนี้ ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องติดคุกมาแล้ว คุณควรที่จะคุยกับนักจิตวิทยาของโรงเรียนคุณด้วยว่าเค้ามีความคิดเห็นอย่างไร
ก็พูดไปหลายอย่างมาก วันนี้คุณสามีเป็นฮีโร่ของลูกจริงๆ ครูใหญ่ถามลูกว่า กลัวไหม ลูกตอบว่าไม่กลัว เพราะเค้าไม่ได้ทำผิด แล้วเค้าคิดว่า พ่อสามารถปกป้องคุ้มภัยให้เค้าได้ แต่ตอนแรกที่เข้าไปพบผู้ช่วยครูใหญ่คนเดียว ลูกบอกว่าตอนยืนขาสั่นเลย ฮ่าๆๆๆ
เล่าข้ามไปนิดนึง พ่อบ้านก็ขอให้ครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่ ไปดูสมุดวาดภาพของลูกซึ่งอยู่ในห้องเรียน ครูใหญ่ก็เลยให้นิคกี้เดินไปเอามาให้ดู
ก็เอามาเปรียบเทียบกับรูปภาพเจ้าปัญหา ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่นิคกี้จะเป็นคนวาดรูปเจ้าปัญหานั้น ซึ่งจริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ผู้ช่วยครูใหญ่น่าจะทำตั้งแต่ครั้งแรก พิสูจน์หลักฐานต่างๆ เรียกเด็กคนที่เอารูปไปบ้านมาคุยด้วย แต่นี่ถามนำให้ลูกเราตอบว่าใช่หรือไม่ โดยที่ไม่ได้ให้ดูรูปเจ้าปัญหานั้นเลย ครูทุกคนตกลงใจไม่ให้เด็กดูรูปเจ้าปัญหานั้น แต่ถ้าหากเค้าเป็นคนวาดจริงๆทำไมจะดูไม่ได้ฟะ เป็นงงจริงๆ...
ตกลงลูกเล่าว่า เมื่อวานเค้าคุยกันกับเพื่อนคนที่แม่โทรมาโวยวายคนนั้น เพื่อนคนนั้นก็บอกว่าเด็กชายเอ็มเป็นคนวาด ไม่ใช่นิคกี้ แต่นี่เป็นการพูดกันเองกับเพื่อนๆ เฮ้อ.. ใจแม่ปูเองน่ะ อยากให้เด็กทุกคนออกมาพูดต่อหน้าผู้ช่วยครูใหญ่เลย ว่าใครวาด แต่พ่อบ้านบอกว่าถ้าทำอย่างนั้น ผู้ช่วยครูใหญ่ก็จะทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนที่ทำกับลูกของเราอีก คิดว่าจบทุกอย่างไว้ตรงนี้ดีกว่า
สรุป ผู้ช่วยครูใหญ่ก็ขอโทษนิคกี้ต่อหน้าครูใหญ่ ต่อหน้าพ่อและแม่ แต่เค้ายังคิดอยู่ว่าคำถามที่เค้าใช้ถามเด็กนั้นเป็นคำถามที่สมควรใช้แล้ว... แม่ปูก็ขอให้ครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่โทรไปแจ้ง แม่ของเด็กที่โทรมาโวยวายด้วยว่าลูกเราไม่ได้ทำ
บอกครูประจำชั้นด้วยว่าให้โทรแจ้งแม่เด็กด้วย ถ้าแจ้งแล้วเมื่อไหร่ให้ติดต่อบอกเราด้วย เราจะได้สบายใจ ว่าชื่อเสียงของลูกเราเคลียร์เรียบร้อย
เช้านั้นนิคกี้ไปเข้าห้องเรียนสาย แต่นิคกี้บอกว่า ครูไม่ให้ผมทำงานย้อนหลังเลย ก็เป็นเรื่องดีใจเล็กๆน้อยๆของเด็กๆค่ะ
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
22 comments |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2554 2:14:36 น. |
Counter : 4604 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Corporate Mom IP: 206.253.190.42 11 กุมภาพันธ์ 2554 3:20:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: Corporate Mom IP: 206.253.190.42 11 กุมภาพันธ์ 2554 3:32:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอม IP: 192.234.212.23 11 กุมภาพันธ์ 2554 7:11:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tristy 11 กุมภาพันธ์ 2554 7:58:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปันฝัน 11 กุมภาพันธ์ 2554 8:38:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: Corporate mom IP: 67.198.65.26 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:21:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Corporate mom IP: 67.198.65.26 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:25:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:29:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 11 กุมภาพันธ์ 2554 12:16:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 11 กุมภาพันธ์ 2554 17:06:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: พังแป้น IP: 58.9.47.153 12 กุมภาพันธ์ 2554 14:18:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: egg yolk 16 กุมภาพันธ์ 2554 13:50:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Thippy IP: 124.149.50.188 2 มีนาคม 2554 19:34:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยุ้ยค่ะ IP: 218.212.6.26, 202.156.14.10 22 มีนาคม 2554 14:11:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Natcha IP: 119.46.172.82 7 เมษายน 2554 7:07:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: EndlessRoad IP: 81.164.67.66 18 กันยายน 2554 19:08:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูอิทค่ะ IP: 172.20.192.81, 180.222.146.66 13 มีนาคม 2555 15:00:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปุ้ม IP: 125.193.44.73 16 มีนาคม 2555 21:29:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|
I have 7 years old boy and let me tell you how much that will hurt me. It like a scare in your life (I hope not for Nick) As a mom you want his life to be perfect. Special when the mistake come from inconsiderate teacher like that. The same time, the teacher should as her/him self what if this happen to your child. The mistaken that will never erase from memory. I give all the wish to your family that it will never happen again. Im sorry that it happen to you. You and your husband do the right thing. What will bother me is how can we know that it will not hurt Nick feeling. I want to cry when I think about if a little heart get hurt. Our Buddha will protect him.
Take care.