แปลเพลง - Space Oddity - David Bowie - The Secret Life Of Walter Mitty - สิ่งแปลกปลอมในอวกาศ
คุณปฏิบัติต่อความไม่รู้ที่ต้องเผชิญอย่างไรครับ?

เมื่อพูดถึงความไม่รู้ มักจะทำให้นึกถึงเรื่องธรรมะนะครับ ความไม่รู้คืออวิชชา ไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุแห่งทุกข์ ไม่รู้ความดับทุกข์ ไม่รู้หนทางนำออกจากทุกข์ ไม่รู้ว่าทุกข์เกิดที่อายตนะ ไม่รู้ว่าทุกข์ที่อายตนะลำดับมาจากสฬายตนะ ไม่รู้ว่าเพราะมันเกิดจากผัสสะ ไม่รู้ว่ามันถูกปรุงแต่งจากสังขารแล้วก่อให้เกิดความเข้าไปยึดถือ เกิดภพ ชาติ ชรา มรณะ ฯลฯ และตรงนี้เองที่มันง่ายต่อเราที่สุดที่จะไม่รู้จักสิ่งที่เราคุ้นเคยกันที่สุดก็คือไม่รู้จักมรณะคือความตายนี่แหล่ะครับ พอเราไม่รู้จักมันเราก็กลัวมัน เพราะมันง่ายที่สุดแล้วในการปฏิบัติต่อความไม่รู้ที่น่ากลัวนี้ เคยอ่านเจอที่ไหนซักแห่งเค้าพูดว่ามนุษย์มักจะใช้ชีวิตเหมือนไม่รู้จักความตาย ท่านดาไลลามะพูดไว้รึเปล่าไม่แน่ใจ ถ้าผมจะถามว่าคุณปฏิบัติต่อการไม่รู้จักความตายอย่างไรก็ดูจะเป็นคำถามที่โหดเกินไปซักหน่อยและอาจเป็นคำถามที่ดูไม่ดีสำหรับการเตรียมตัวเพื่อจะเริ่มปีใหม่ ดังนั้นผมเลยเปลี่ยนจากมรณะเป็นสิ่งอื่นครับ (จะว่าไปแล้ว ผมไม่ได้บล๊อกเกี่ยวกับธรรมะมาหลายปีแล้วนะเนี่ย)

คงเป็นเอนทรี่แปลเพลงเอนทรี่สุดท้ายของปีนี้ครับ คำถามสุดท้ายที่จะส่งคุณเข้าสู่ปีใหม่เพื่อให้คุณเตรียมตัวรับกับสิ่งที่รอคุณอยู่เบื้องหน้า พูดถึงปีหน้า อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนักว่าส่งให้คุณเตรียมพร้อมเข้าสู่ความไม่รู้ เพราะบางคนวางแพลนไว้อย่างดีแล้วว่าปีหน้าจะทำอะไร ดังนั้นจึงอาจจะรู้แน่ชัดแล้วว่าปีหน้าจะต้องเจอกับอะไร แต่เมื่อมีเรื่องที่สามารถแพลนได้ก็ต้องมีเรื่องที่ unplan เข้ามาได้เหมือนกัน ความไม่รู้ในเรื่อง unplan นี้เองที่จะเปิดมุมมองอีกด้านนึงให้เราใช้ความคิด และคุณอาจจะได้การเตรียมตัวใหม่ในมุมมองที่แปลกจากเดิมในการเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ครับ




Space Oddity - David Bowie

Source: Be Ferreto Youtube Channel



Ground Control to Major Tom
Ground Control to Major Tom
Take your protein pills and put your helmet on

Ground Control to Major Tom
Commencing countdown, engines on
Check ignition and may God's love be with you

(spoken)
Ten, Nine, Eight, Seven, Six, Five, Four, Three, Two, One, Liftoff

This is Ground Control to Major Tom
You've really made the grade
And the papers want to know whose shirts you wear
Now it's time to leave the capsule if you dare

"This is Major Tom to Ground Control
I'm stepping through the door
And I'm floating in a most peculiar way
And the stars look very different today

For here
Am I sitting in a tin can
Far above the world
Planet Earth is blue
And there's nothing I can do

Though I'm past one hundred thousand miles
I'm feeling very still
And I think my spaceship knows which way to go
Tell my wife I love her very much she knows"

Ground Control to Major Tom
Your circuit's dead, there's something wrong
Can you hear me, Major Tom?
Can you hear me, Major Tom?
Can you hear me, Major Tom?
Can you....

"Here am I floating round my tin can
Far above the Moon
Planet Earth is blue
And there's nothing I can do."


เพลงเต็ม
Source: Teach Senpei Youtube Channel



สิ่งแปลกปลอมในอวกาศ

หอบังคับการภาคพื้นดินถึงผู้พันทอม
หอบังคับการภาคพื้นดินถึงผู้พันทอม
รับโปรตีนเม็ดของคุณและสวมหมวกนักบินอวกาศได้แล้ว

หอบังคับการภาคพื้นดินถึงผู้พันทอม
เริ่มนับถอยหลังเดินเครื่องจรวดขับดัน
ตรวจระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์และขอให้ความรักของพระเจ้าสถิตย์อยู่กับคุณ

(เสียงนับถอยหลัง)
สิบ, เก้า, แปด, เจ็ด, หก, ห้า, สี่, สาม, สอง, หนึ่ง, ปล่อยจรวด

จากหอบังคับการภาคพื้นดินถึงผู้พันทอม
คุณทำได้เยี่ยมยอดมาก
ตอนนี้เหล่าสื่อทั้งหลายอยากรู้แม้กระทั่งคุณสวมเสื้อยี่ห้ออะไร
แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วทึ่คุณต้องออกจากกระสวยถ้าคุณกล้าพอ

จากผู้พันทอมถึงหอบังคับการฯ
ผมกำลังก้าวออกจากประตูกระสวย
และตอนนี้กำลังลอยเคว้งในท่าประหลาด
และดวงดาวช่างดูแตกต่างจากทุกวันที่เคยเห็นเหลือเกิน

ณ ที่ตรงนี้...โอ้...
ผมแค่กำลังนั่งอยู่ในกระป๋องเหล็กบางๆ
ที่ลอยเหนือโลกอยู่ไกลแสนไกลหรือนี่?
โลกคือดวงดาวสีน้ำเงินนี่เอง
และผมก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

แม้กระสวยจะล่องพาผมมาไกลเป็นแสนๆไมล์แล้วก็เถอะ
แต่ผมก็ไม่รู้สึกกลัวเลย
ผมคิดว่ามันคงจะรู้ทางว่ากำลังจะไปไหน
ฝากบอกภรรยาผมด้วยว่าผมรักเธอมาก ซึ่งเธอคงทราบดีอยู่แล้ว

ภาคพื้นดินถึงผู้พันทอม
แผ่นวงจรกระสวยของคุณเสียหาย มีบางอย่างผิดปกติ
คุณได้ยินมั้ยผู้พันทอม?
คุณได้ยินรึเปล่าผู้พันทอม?
คุณได้ยินมั้ยผู้พันทอม?
คุณได้ยิน...

... ณ ที่ตรงนี้...
ผมแค่กำลังนั่งอยู่ในกระป๋องเหล็กบางๆ
ที่ลอยเหนือดวงจันทร์อยู่ไกลแสนไกลหรือนี่?
โลกคือดวงดาวสีน้ำเงิน
และตอนนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว




อรรถาธิบาย

อารมณ์เพลงเป็น story เรื่องนึงเลยครับ เป็นการสื่อสารระหว่าง หอบังคับการภาคพื้นดินที่ควบคุมการปล่อยจรวด กับ ผู้พันทอม ผู้ซึ่งเดินทางไปกับจรวดลำนี้ ขอ set ความเข้าใจให้ตรงกันก่อนนะครับ เพลงนี้ release เมื่อ 11-กรกฎาคม-1969 ซึ่งเป็นยุคแรกๆของการเดินทางในอวกาศครับ ยานอวกาศหรือกระสวยอวกาศยังไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกระสวยอวกาศสมัยนี้แถมยิ่งห่างไกลจากยานอวกาศในหนังนิยายวิทยาศาสตร์ลิบลับ กระสวยอวกาศสมัยนั้นรูปร่างเป็นกระป๋องจริงๆครับ เหมือนกรวยตัดปลายแล้วปิดหัว-ท้าย (กระสวยอวกาศยุคปัจจุบันรูปร่างเหมือนเครื่องบิน) เวลาจะส่งขึ้นวงโคจรก็ต้องผูกติดกับจรวดขับดัน พอพ้นชั้นบรรยากาศก็แค่ล่องลอยไปตามแรงขับดันเล็กน้อย ดังนั้นเพลงที่แต่งในยุคนั้นย่อมมีจินตนาการต่อกระสวยอวกาศของยุคนั้นครับ ในเนื้อเพลงมีถ้อยคำบรรยายถึงกระสวยของเค้าว่าเป็นเพียงกระป๋อง ก็หมายความตามนั้นจริงๆครับ เข้าใจว่าเพลงนี้รีบปล่อยในช่วงนั้นเพราะเหตุผลทางการตลาดครับ เพราะห่างจากวันที่สหรัฐอเมริกาปล่อยกระสวยอวกาศ Apollo11 แค่ 9 วันเท่านั้นก่อนที่นิล อาร์มสตรองจะเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ

  • Ground control to major Tom ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงวิทยุจากหอบังคับการเรียกถึงผู้พันทอมครับ

  • Take your protein pills and put your helmet on - อาหารในอวกาศสมัยนั้นจะเป็นโปรตีนอัดเม็ดครับ (protein pills) และ helmet ก็คือหมวกหรือที่ครอบศีรษะของชุดนักบินอวกาศครับ ตรงนี้หอบังคับการแค่เรียกเตือนผู้พันทอมให้ไปรับโปรตีนอัดเม็ดและเตรียมตัวขึ้นบินได้แล้ว

  • Ten . . . Liftoff ก็คือนับถอยหลังจุดระเบิดจรวดขับดันครับ Liftoff ก็คือปล่อยจรวด

  • Made the Grade ตรงนี้น่าสนใจครับ มันเป็นคำชมสำหรับผลงานที่เยี่ยมยอดมาก เพราะเกรดคือการแบ่งระดับชั้น made the grade คือการทำระดับชั้นขึ้นมาเลย เหมือนผลงานชิ้นนี้มันเป็นอีกระดับนึงไปแล้ว

  • And the papers want to know whose shirts you wear - papers หมายถึงหนังสือพิมพ์ครับ รวมความหมายถึงสื่อ และเพราะมี s ซึ่งเป็นพหูพจน์ก็เลยหมายถึงเหล่าสื่อทั้งหลาย whose shirts you wear หมายถึงยี่ห้อเสื้อที่ใส่ครับ ประโยคนี้แซวผู้พันทอมว่ากลายเป็นคนดังแล้ว แม้แต่ยี่ห้อเสื้อที่ใส่ก็มีคนอยากรู้ เหมือนดาราที่โฆษณาให้แบรนด์สินค้านั่นแหล่ะครับ

  • But it's time to leave the capsule if you dare - capsule คือลักษณะของกระสวยครับ ลักษณะเป็นกระป๋องแคปซูล ตรงนี้หอบังคับการเตือนว่าได้เวลาออกไปสำรวจแล้ว กล้าพอมั้ย

  • ผู้พันทอมเค้าก็สื่อสารกลับครับว่าออกมาแล้ว พอออกมาก็ลอยเท้งเต้งด้วยท่าแปลกๆ (peculiar way) แต่ที่ทำให้เพลงมีความหมายขึ้นมาหน่อยคือ and the stars look different today ซึ่งทุกวันมันดูเป็นแบบที่เราเห็นจากบนโลก มันชิน มันมีแค่มุมเดียว แต่วันนี้ชั้นขึ้นมาดูจนถึงตรงนี้ มันช่างไม่เหมือนทุกวันที่เคยเห็นครับ

  • Fore here เป็นการรำพึงรำพันครับ ณ ที่ตรงนี้ ณ จุดนี้ รำพึงรำพันอะไรครับ? Am I sitting in a tin can far above the world? ตรงนี้เป็นการรำพึงรำพันถามตัวเองว่านี่ชั้นกำลังนั่งอยู่ในกระป๋องลอยได้ที่อยู่ไกลแสนไกลจากโลกรึนี่?

  • Planet Earth is blue and there's nothing I can do เลยเหมือนเพิ่งระลึกได้ว่าจริงๆแล้วโลกก็เป็นแค่ดวงดาวสีฟ้าดวงใหญ่และเราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ในวิถีของมันครับ เมื่อเทียบกันแล้วชั้นมันช่างเล็กเหลือเกินแล้วก็นั่งอยู่ในกระป๋องเหล็กเล็กๆเท่านั้นเองถึงมีความรู้สึกว่า there's nothing I can do อ้อ.. Tin แปลว่าดีบุกนะครับ แต่ก็แปลว่ากระป๋องได้ด้วย ซึ่งเพราะคำว่า tin can นี่เองที่ทำให้ผมต้องค้นเยอะมากว่ากระสวยแบบ Apollo นั้นสร้างด้วยดีบุกจริงๆรึเปล่าเพราะดีบุกทนความร้อนได้มากกว่าเหล็กถึงหนึ่งพันองศาเซลเซียส (เหล็กจุดเดือดที่ 1,538 C ส่วนดีบุกจุดเดือดที่ 2,602 C) ทนความร้อนได้มากกว่าในกรณีที่นักบินอวกาศต้องกลับสู่โลกซึ่งก็ดูมีเหตุผลดี แต่ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็น thin ซึ่งแปลว่าบางมากว่าครับเพราะมันสื่อการเปรียบเทียบตัวตนมากกว่าจะนำเสนอเหตุผลทางวิศวกรรม

  • Though I'm past one hundred thousand miles, I'm feeling very still. ตรงนี้เป็นประโยคเดียวกันครับ ตรงนี้ผู้พันทอมรู้ตัวแล้วว่ากระสวยของเขามีปัญหา เพราะกระสวยมันล่องลอยออกจากโลกมาเรื่อยๆเป็นแสนไมล์แล้ว และอาจจะบังคับทิศทางไม่ได้ แต่เค้าก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร (I'm feeling very still รู้สึกเฉยๆ) แล้วก็โยนไปที่ตัวกระสวยเองเลยว่ามันคงรู้นะว่ามันต้องไปทางไหน เหมือนช่างมันกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เหมือนเค้าทำใจก่อนเข้าโครงการนี้มาแล้วว่าอาจจะเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นมาได้และรับได้กับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะเค้าทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว (there's nothing I can do) ถึงได้พูดแบบนี้ขึ้นมาและฝากบอกภรรยาด้วยว่ารักเธอมาก ซึ่งก็อาจจะลากันมาก่อนแล้วถึงได้บอกว่า she knows

  • จากนั้นหอบังคับการฯก็พยายามสื่อสารบอกผู้พันครับว่าวงจรกระสวยของเค้าเสียหาย มันมีบางอย่างผิดปกติแล้ว ได้ยินรึเปล่า ซึ่งตอนนั้นเค้าไม่ได้ยินแล้ว ขาดการติดต่อไปแล้ว และในเนื้อเพลงก็ได้เล่นคำกับคำว่า Hear และ Here ครับช่วงที่มันต้องต่อกันพอดี Can you hear me major Tom, can you [hear/here] am I sitting in a tin can far above the moon? คำว่า hear (ได้ยิน) มันมาเชื่อมและเล่นกับ here (ตรงนี้) ว่าชั้นปลิวมาไกลถึงดวงจันทร์แล้วหรือนี่? มองกลับไปที่โลกก็ยังเห็นเป็นสีฟ้า และตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว


กระสวยอวกาศแบบ Apollo ในยุคเดียวกับเพลง



กระสวยอวกาศยุคปัจจุบัน


ผมเคยฟังเพลงนี้มาก่อนสมัยเรียน ม.ต้น หลังจากได้ดู "มหัศจรรย์เขาวงกต (Labyrinth) (1986)" ครับซึ่งนำแสดงโดยเดวิด โบวี่ และเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ ดูแล้วก็ไปหาเพลงของผู้ชายคนนี้มาฟัง แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่ชอบที่สุดในอัลบัมเพราะตอนขึ้นต้นเพลงช่วงนับถอยหลังนั้นมีเมโลดี้ที่ dark มากๆซึ่งผมไวต่อเมโลดี้พวกนี้และไม่ชอบเอาซะมากๆ เวลาฟังก็ต้องกรอกเทปผ่านเพลงนี้ไปก่อนแล้วค่อยฟังต่อจนเทปแทบจะยืด เนิ่นนานผ่านมาเพลงที่ชอบกลับจำไม่ได้ครับแต่กลายเป็นว่าพอได้ยินเมโลดี้ของเพลงนี้ปุ๊บดันจำได้ทันที :D ซึ่งตอนนี้ที่เราสามารถ connect กับเพลงและ empathy กับเพลงได้แล้วนั้นทำให้ได้รู้ว่าเพลงนี้ไม่ธรรมดาครับ เนื้อเรื่องสร้าง context ได้ดีเยี่ยม แถม dark melody ช่วยขับเน้นความ drama ของเรื่อง ถึงกล่าวไว้ตั้งแต่บล๊อกก่อนหน้านั้นว่าต้องขอพูดถึงเพลงนี้ด้วยครับ

อีกแง่นึงที่ต้องพูดถึงของเพลงนื้คือเรื่องของการเผชิญหน้ากับความไม่รู้ด้วยนี่แหล่ะครับ เพลงนี้พูดถึงความกล้าหาญเมื่อต้องรู้ว่ากำลังจะไปไหนและอาจต้องเจอกับอะไร ทำใจยอมรับมันได้มั้ย แล้วก็ตัดสินใจ ใช้ความกล้าหาญ ถ้าจะนำมาประยุกต์กับชีวิตของเราก็คงจะเหมือนกับการทำ risk management มังครับ เรา foreseen ให้ได้ว่ากำลังจะทำอะไรและอาจจะต้องเจอกับปัญหาอะไร ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราจะต้องการอะไรต้องใช้อะไรบ้าง ในการรับมือและแก้ไข เราจะได้รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนที่จะเข้าไปสู่เรื่องนั้นๆครับ เหมือนกับทำ risk mitigation plan นั่นเอง

ขอให้เข้าสู่ปีถัดไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่นนะครับ มีผลลัพธ์ต่างๆที่ดีรออยู่ทุกท่านครับ :)



Happy New Year 2558/2015




เพลงอื่นจากหนังเรื่องเดียวกันที่แปลที่นี่:


<< เพลงที่แล้ว : Heart Like Yours - Willamette Stone Beside You - Simply Red : เพลงถัดไป >>




Create Date : 24 ธันวาคม 2557
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 9:37:13 น.
Counter : 14232 Pageviews.

14 comments
  
สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ
มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรงนะคะ

เดี๋ยวมาใหม่นะ
โดย: pantawan วันที่: 24 ธันวาคม 2557 เวลา:23:25:43 น.
  
พาเด็กมาอวยพรวันคริสต์มาสค่ะ

โดย: pantawan วันที่: 25 ธันวาคม 2557 เวลา:23:37:14 น.
  
แวะมาฟังเพลง
และส่งกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ 
ผู้เขียน Blogหมวดเนื้อหาBlog ได้รับโหวต
AppleWiBeauty Blogดู Blog
ดอยสะเก็ดLiterature Blogดู Blog
เนินน้ำFood Blogดู Blog
KarzMusic Blogดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: pantawan วันที่: 26 ธันวาคม 2557 เวลา:23:36:02 น.
  
สตอรี่แบบนี้แบบว่าไม่ค่อยรู้จักอ่ะครับ
เกิดไม่ทันนะ คงต้องไปคุยกะเจ้าหนี้มาก่อน
แล้วค่อยมาโม้ใหม่

ปีใหม่จะไปเที่ยวไหนมั่งเอ่ย จะตามไป
ขักคอ ส่วนพี่จะกลับบ้านป่า ตามไปขัดคอ
ได้เลย หาคนช่วยทำสวนอยู่

สวัสดีปีใหม่ไว้เลยเด้อครับ
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 27 ธันวาคม 2557 เวลา:20:34:29 น.
  
ความไม่รู้คืออวิชชา.. ซึ่งนำมาถึงความไม่รู้ทั้งหลาย
แต่ที่แย่อีกอย่างนึงคือ คนมักจะชอบแถว่า --ไม่รู้คือไม่ผิด
อันนี้แย่พอๆกับการใช้ชีวิตเหมือนไม่รู้จักความตายมั๊ยคะพี่ต้น

เพลงนี้ท่วงทำนองแปลกดี แต่ว่าออกมาเกาะกระแสในช่วงนั้นพอดีเนอะ
ซึ่งน่าจะดังมากๆด้วยค่ะ เดาเอาน่ะ
ไม่งั้นไม่เอามาใช้ซ้ำอีกหลายเรื่องนะคะ



ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 27 ธันวาคม 2557 เวลา:21:20:32 น.
  

@Pantawan ขอบคุณคุณปานมากๆครับ สวัสดีปีใหม่นะครับ :)

@nulaw.m ปีใหม่อยู่กทมครับ ไปเยี่ยมแม่มาก่อนหน้านี้แล้วครับ กลัวมหกรรมรถติดระดับชาติ ^^'

@Nicky พี่ว่าคำว่าไม่รู้คือไม่ผิดนั้นใช้ได้กับคนที่มีความรับผิดชอบเท่านั้นจ้ะ และต้องไม่ได้พูดเองด้วยนะ คนอื่นต้องพูดให้ ถ้าคนที่ไม่รับผิดชอบเอาคำพูดนี้ไปใช้มีแต่ทำให้ตัวเองดูแย่ลง บางทีการไม่รู้ก็ไม่ได้ผิดอะไรเท่าไหร่หรอกนะ (บางทีบางกรณี) แต่มันเสียเวลา มีสุภาษิตจีนเคยว่าไว้ (น่าจะเป็นสุภาษิตจีนนะ) "รู้มากหน่อยก็เสียเปรียบน้อยหน่อย" ^^'




โดย: Karz วันที่: 29 ธันวาคม 2557 เวลา:7:45:40 น.
  
Karz Music Blog

มาฟังเพลงนี้ทันจากเรื่อง mitty ค่ะ
แปลเพลงแล้วมีเกล็ดความรู้ให้ด้วย ชอบค่าา

มุมมองที่เห็นจากนอกอวกาศนี่ คงต่างจากที่เราจิตนาการยามอยู่บนพื้นโลก มากมายจริงๆนะ

ปล. โปรตีนอัดเม็ด จะอิ่มไหมนั่น

สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะคะ
โดย: กาบริเอล วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:15:53:41 น.
  



สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้มีความสุขกายสุขใจตลอดปีและตลอดไปค่ะ
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:16:43:04 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

โดย: เนินน้ำ วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:22:29:48 น.
  
เพิ่งได้ฟังเพลงครับ ขอบคุณสำหรับคำแปลและคำอธิบายครับ เข้าใจความรู้สึกในเนื้อเพลงเลย
โดย: นักสำรวจ วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:22:18:50 น.
  
It's very good translation
โดย: Leo walker IP: 139.99.104.93 วันที่: 4 มกราคม 2564 เวลา:23:44:27 น.
  
It's very good translation
โดย: Leo walker IP: 139.99.104.93 วันที่: 4 มกราคม 2564 เวลา:23:44:36 น.
  
It's very good translation
โดย: Leo walker IP: 139.99.104.93 วันที่: 4 มกราคม 2564 เวลา:23:45:13 น.
  
ขอบคุณพี่ใหญ่ แคนนาดา iss,ทอม(ผู้หญิง),แม่เฮิอร์ค,ดาวเฮิอร์คและยานซูยูท
โดย: Sgt.Monkol Photakul (ส.อ.มงคล โพธิ์ตากูล) IP: 182.232.168.113 วันที่: 30 พฤษภาคม 2564 เวลา:14:09:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Karz
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 126 คน [?]





สงวนลิขสิทธิ์
ธันวาคม 2557

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog