แปลเพลง - Beautiful - Christina Aguilera - เพลงที่เสริมกำลังใจสำหรับความมั่นใจของตัวเอง

คุณเคยกลายเป็นคนที่ถูกมองดูแปลกๆในสายตาของคนอื่นรึเปล่าครับ?

บางครั้งการเป็นตัวของตัวเองในสังคมเมืองตาหลิ่วก็เป็นเรื่องที่ลำบากเหมือนกันนะครับสำหรับการที่จะต้องระวังตัวให้ "ดูดี" หรือ "ปกติ" ในสายตาของคนอื่นตลอดเวลาและใช้เวลาส่วนใหญ่เก็บซ่อนตัวตนของตัวเองไว้ภายใต้ความเป็นปกตินั้น ส่วนคนที่รู้จัก เข้าใจ และเข้าถึง inner ในความเป็นตัวตนของตัวเองจะเริ่มมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปครับ inner เหล่านั้นจะค่อยๆถูกขับดันออกมาเริ่มจากเล็กน้อยจนถึงระดับ passion ซึ่งในที่สุดการแสดงออกเหล่านั้นก็จะเลื่อนหลุดออกจากคำว่าปกติและกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมในสายตาของคนอื่น อย่างที่เคยเขียนไว้ในบล๊อกเพลง Falling Slowly ครับว่าการถูกคนอื่นมองเราด้วย perception ที่บิดเบี้ยวนั้น (หรือจนถึงขั้นที่นินทาว่าร้ายกัน) สร้างความเจ็บปวดให้เราได้พอสมควรทีเดียว  และการที่คนบางคนจะกลับมายืนหยัดให้ได้อีกครั้งนั้นต้องอาศัยกำลังใจพอสมควรเลยครับเพื่อจะให้สามารถกลับมาถึงยังจุดเดิมได้

เมื่อวันก่อนได้ดู The Voice โดยเฉพาะโชว์ของน้องอิมเมจในเพลง Beautiful ของ Christina Aguilera ครับซึ่งทำให้อินพอสมควรจึงต้องหาต้นฉบับฟังจนได้เพราะไม่ได้ฟังนานแล้วและโชว์ของน้องอิมเมจทำให้ยิ่งคิดถึงต้นฉบับเข้าไปอีกครับ พอดูต้นฉบับแล้วก็ยิ่งอินเข้าไปใหญ่เลย ทีนี้เลยต้องมาแปลเพลงนี้ครับ ^^' ต้นฉบับเพราะมากและ music video ทำออกมาสื่อความหมายได้เยี่ยมยอดครับ




Beautiful - Christina Aguilera

Source: CAguileraVEVO Official Youtube Channel



(don't look at me)

Day is so wonderful
Suddenly it's hard to breathe
Now and then I get insecure
From all the pain, I'm so ashamed

I am beautiful no matter what they say
Words can't bring me down
I am beautiful in every single way
Yes, words can't bring me down, oh no
So don't you bring me down today

To all your friends you're delirious
So consumed in all your doom
Trying hard to fill the emptiness, the piece is gone
Left the puzzle undone, ain't that the way it is?

You are beautiful no matter what they say
Words can't bring you down, oh no
You are beautiful in every single way
Yes, words can't bring you down, oh no
So don't you bring me down today

No matter what we do
(No matter what we do)
No matter what we say
(No matter what we say)
We're the song inside the tune
Full of beautiful mistakes

And everywhere we go
(Everywhere we go)
The sun will always shine
(Sun will always shine)
But tomorrow we might awake on the other side

'Cause we are beautiful no matter what they say
Yes, words won't bring us down, oh no
We are beautiful in every single way
Yes, words can't bring us down, oh no
So don't you bring me down today

Don't you bring me down today,

Don't you bring me down today




งดงาม

(กระซิบ: อย่ามองมาที่ชั้นเลย)

วันคืนที่ผ่านมาของชั้นช่างสวยงามมากมาย
แต่ทันใดนั้นอากาศรอบกายกลับยากเหลือเกินที่จะสูดหายใจเข้าไป
หลังจากนั้นจนถึงบัดนี้ชั้นรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
จากความรวดร้าวทั้งหลาย ชั้นช่างน่าอายเหลือเกิน

แต่ชั้นนั้นงดงาม ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม
แค่คำพูดพวกนั้นไม่อาจจะดึงให้ชั้นรู้สึกแย่ลงมาได้หรอก
เพราะชั้นนั้นงดงาม ในทุกๆด้านทุกหนทางของชั้น
ใช่ แค่คำพูดพวกนั้นน่ะ ไม่อาจจะดึงให้ชั้นรู้สึกแย่ลงมาได้หรอก ไม่หรอก
ฉะนั้น วันนี้จะไม่มีใครทำให้ชั้นรู้สึกแย่ได้หรอกนะ

สำหรับในสายตาของเพื่อนทุกๆคนของเธอ เธอเป็นดั่งคนเพ้อคลั่ง
ที่ถูกสูบกลืนลงไปในความย่ำแย่ทุรนทุรายของเธอ
พยายามอย่างยากลำบากที่จะใส่อะไรซักอย่างลงไปในความว่างเปล่า แต่ชิ้นส่วนที่จะใส่นั้นมันกลับหายไป
ปริศนานี้เลยไม่เคยถูกแก้ได้สักที เธอรู้สึกแบบนี้อยู่ใช่มั้ย?

แต่เธอนั้นงดงามนะ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม
แค่คำพูดพวกนั้นน่ะ ไม่อาจจะดึงให้เธอรู้สึกแย่ลงมาได้หรอก ไม่หรอก
เพราะเธอนั้นงดงาม ในทุกๆด้านทุกหนทางของเธอ
ใช่ แค่คำพูดพวกนั้นน่ะ ไม่อาจจะดึงให้เธอรู้สึกแย่ลงมาได้หรอก ไม่หรอก
ฉะนั้น วันนี้อย่าให้ใครทำให้เธอรู้สึกแย่ได้นะ

ไม่ว่าเราจะทำอะไร
(ไม่ว่าเราจะทำอะไร)
ไม่ว่าเราจะพูดอะไร
(ไม่ว่าเราจะพูดอะไร)
เรางดงามดั่งเพลงที่อยู่ในท่วงทำนอง
เต็มไปด้วยความผิดพลาดที่สวยงาม

และในทุกๆที่ๆเราไป
(ทุกๆที่ๆเราไป)
ดวงอาทิตย์จะฉายแสงส่องมาให้เราเสมอ
(ฉายแสงส่องมาให้เราเสมอ)
แต่เราอาจจะตื่นขึ้นมาบนอีกด้านในวันพรุ่งนี้

เพราะเรานั้นงดงาม ไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ตาม
ใช่ แค่คำพูดทั้งหลายน่ะไม่อาจดึงให้เรารู้สึกแย่ลงมาได้หรอก ไม่หรอก
พวกเรานั้นงดงาม ในทุกๆด้านทุกหนทางของเรา
ใช่ แค่คำพูดพวกนั้นน่ะ ไม่อาจจะดึงให้เรารู้สึกแย่ลงมาได้หรอก ไม่หรอก
ฉะนั้น วันนี้อย่าให้ใครทำให้เรารู้สึกแย่ได้นะ

ฉะนั้น วันนี้อย่าให้ใครทำให้เรารู้สึกแย่ได้นะ
ฉะนั้น วันนี้อย่าให้ใครทำให้เรารู้สึกแย่ได้นะ




อรรถาธิบาย

อารมณ์ของเพลงนี้คือการให้กำลังใจกับคนที่กำลังรู้สึกแย่ๆกับการถูกเข้าใจผิดจนเหมือนกลายเป็นสิ่งผิดปกติสำหรับคนอื่นเหมือนกันครับว่าเราต้องมั่นใจในตัวเอง (เปรียบดังความงดงาม) เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจกับเสียงนกเสียงกาที่คอยจะพาให้เรารู้สึกแย่ลงๆเท่านั้น

  • Day is so wonderful ผมแปลว่า "วันที่ผ่านมา" จะเห็นว่าคำแปลมันเหมือนเป็นรูปอดีต ทั้งๆที่ต้นฉบับเป็น present simple ซึ่งโดยปกติแล้ว present simple นั้นจะใช้อธิบายปัจจุบันที่เกิดขึ้นเป็นปกติครับ ดังนั้นถ้าจะแปลให้ถูกต้อง ต้องแปลว่า "ทุกๆวันมันช่างดีเยี่ยม" ซึ่งมันดีเยี่ยมแบบนี้มาทุกๆวันจนเป็นปกติ แต่พอประกบเข้ากับท่อนต่อมาคือ suddenly it's hard to breath ซึ่ง suddenly มันแปลว่า "ทันใดนั้น" ซึ่งคำนี้มันทำให้ท่อนตะกี๊กลายเป็นอดีตไปทันทีครับ ทำให้มองเห็นได้ว่าทุกๆวันที่มันดีเยี่ยมเป็นปกตินั้น มันดีเยียมมาเป็นปกติจนถึงเมื่อกี๊ที่เป็น suddenly แล้วมันก็หยุดความดีเยี่ยมลง กลายเป็นแย่ลงเพราะแม้แต่อากาศที่จะหายใจยังยากที่จะสูดเข้าไปได้เลย (hard to breath) ดังนั้นคำแปลเลยต้องปรับให้รับกับเหตุการณ์ที่ถูกอธิบายไปครับ มันเลยอยู่ในรูปของอดีตซึ่งหมายถึงวันที่ผ่านๆมาครับ

  • Now and then I get insecure ตรงนี้ now and then ยิ่งมาเน้นย้ำให้ present simple ของ day is so wonderful เมื่อกี๊กลายเป็นอดีตชัดเจนขึ้นไปอีกครับ เพราะ now and then หมายถึงจากเหตุการณ์ที่ suddenly นั้นมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งพอถึงตรงนี้มันก็มีข้อมูลมากพอที่จะทำให้เราสามารถจินตนาการ context ของเหตุการณ์ได้แล้ว ว่าเค้าคงจะเคยเป็นตัวของตัวเองจนและรู้สึกดีจนทุกๆวันของเค้าเป็นวันที่ดีเยี่ยม (ซึ่งตรงนี้ใช้คำว่า beautiful ในการอธิบาย) แต่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับเค้าจนทำให้เค้ารู้สึกแย่ถึงขนาดแค่จะสูดอากาศหายใจยังทำได้ยากเลย ซึ่งเหตุการณ์นั้นมันทำให้เค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย (insecure) หมายถึงรู้สึกกลัวก็ได้ครับเพราะ insecure แปลว่า afraid, unsafe ทั้งนี้เค้ารู้สึกแบบนี้เพราะอะไรครับ?

  • เค้ารู้สึกแบบนี้เพราะเจ็บปวดและรู้สึกอับอายครับ (from all the pain, I'm so ashamed) เหตุการณ์นั้นที่ทำให้เค้ารู้สึกแบบนี้ได้คืออะไรครับ?

  • I'm so beautiful แต่ชั้นนั้นงดงาม no matter what they say ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม Words can't bring me down แค่คำพูดพวกนั้นไม่อาจจะดึงให้ชั้นรู้สึกแย่ลงมาได้หรอก อันนี้ตรงตัวและตรงตามความรู้สึกด้วยครับ และยังเฉลยด้วยว่า สิ่งที่ทำให้เค้ารู้สึกแบบนั้น หรือเหตุการณ์นั้นก็คือ "คำพูดของคนอื่น" นั่นเองครับ (what they say - สิ่งที่พวกเค้าพูด)

    in every single way แปลว่า "ในทุกๆทาง" หมายถึงทางชีวิต การดำเนินชีวิต ไลฟสไตล์ครับ

    don't you bring me down today เป็นเหมือนกับการบอกตัวเอง (หลังจากเตือนตัวเองมาแล้วว่าชั้นนั้นงดงามอยู่แล้วไม่ว่าใครจะพูดอะไรยังไง) ว่าไม่ต้องมาทำให้ชั้นรู้สึกแย่หรอก เพราะชั้นเชื่อมั่นตัวเองว่าชั้นงดงามพอ คำพูดพวกนั้นไม่มีผลกับชั้นหรอก

  • Delirious แปลว่าคลุ้มคลั่ง เพ้อเจ้อครับ ผมเลยรวมกันซะเลยว่าเพ้อคลั่ง จริงๆแล้วคำนี้ส่วนใหญ่ใช้อธิบายอาการเพ้อคลั่งอันเกิดจากความสุขครับ (จำได้ว่า dictionary WordNet ฉบับอังกฤษ-อังกฤษแปลไว้แบบนั้น) เหมือนอย่างหนังเรื่อง Meet Joe Black, พ่อของนางเอกก็พูดสอนนางเอก (ในฉากคุยกันในเฮลิคอปเตอร์ตอนเริ่มเรื่อง) ว่า Be deliriously happy ซึ่งหมายถึงให้มีความสุขอย่างสุดๆจนถึงขนาดเพ้อถึงความสุขครับ

    ประโยคนี้มีคำที่ช่วยอธิบายการ delirious ด้วยครับคือ consumed in all your doom คำว่า consume คือการบริโภค ผมใช้คำว่า "สูบกลืน" ในการอธิบาย และคำว่า doom แปลว่า "หายนะ" ซึ่งหมายถึงความย่ำแย่ต่างๆซึ่งเมื่อนำมารวมกับลักษณะของความเพ้อคลั่งแล้วเราจะจินตนาการได้ถึงความทุรนทุรายครับ

  • Trying hard to fill the emptiness ตรงนี้เป็นปรัชญาของเรื่องอารมณ์ในการค้นหาปัญหาเพื่อแก้มันครับ เปรียบเหมือนเคล็ดวิชาตัวเลขหนึ่งที่หายไปของลู่เมี่ยวจื่อ (มังกรคู่สู้สิบทิศ) ที่ในทุกๆเรื่องทุกๆอย่างทุกๆสถานการณ์สมควรมีความสมบูรณ์เพียบพร้อมในตัวเอง (ลงตัว เหมือนธรรมชาติ) แต่หากมันไม่อาจสมบูรณ์ได้นั่นก็เป็นเพราะมีตัวเลขหนึ่งที่หายไป มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อาจเหมือนเป็นเฟืองของกลไกชิ้นนึงหายไป (ทำให้ตรงนั้นมัน empty) ซี่งเราต้องหาตัวเลขหรือเฟืองอันนี้ให้เจอ มันเป็นเหมือนชิ้นตัวต่อจิ๊กซอว์ที่เมื่อใส่ลงไปแล้วก็จะแก้ปัญหาอันนั้นได้กลไกจะทำงานต่อไปได้ แต่จิ๊กซอว์ชิ้นนี้กลับหายไปครับ ทำให้เราไม่อาจจะแก้ปัญหาอันนี้ได้ (left the puzzle undone) ซึ่ง verse ยาวๆทั้งหมดนี้เป็นคำถามครับ ถามเธอว่าเธอกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ใช่มั้ย? (ain't that the way it is?)

  • นอกนั้นก็ค่อนข้างตรงตัวครับไปจนถึง but tomorrow we might awake on the other side คำว่า "other side" นี้หมายถึง "ความปกติ (normal)" ครับ เพราะเรากำลังพูดถึงความเป็นตัวของตัวเองที่มันมากเกินจนคนทั่วไปมองว่ามันไม่ปกติ ประโยคนี้เลยหมายถึง มันคงต้องมีซักวันที่ความเป็นตัวของตัวเองของเรามันกลายเป็นสิ่งที่คนจะมองว่ามันปกติ (ยอมรับได้) ครับ

  • อ้อ ลืมอธิบายตรงนี้ครับ we're the song inside the tune full of beautiful mistakes - เรางดงามดั่งเพลงที่อยู่ในท่วงทำนอง นำคำว่างดงามมาใช้ตรงนี้ได้ก็เพราะเค้าบอกเอาไว้ว่า we are beautiful ครับ ก็แทนค่าเข้าไปเลย ความหมายตรงนี้หมายถึงการเปรียบเทียบกับความงดงามของเพลง (ประกอบไปด้วยเนื้อเพลง - คือ lyrics - ซึ่งก็คือ song และท่วงทำนอง - คือ melody - ซึ่งก็คือ tune) ครับว่าถึงแม้ตัวเนื้อเพลงจะเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดแต่หากท่วงทำนองมันไพเราะ ภาพรวมก็ยังสวยงามอยู่ หมายถึงตัวเราที่ตอนนี้ถูกมองเหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเหมือนเป็นเนื้อร้องที่ผิดพลาด แต่เราเองก็รู้ดีว่าเพลงแห่งชีวิตของเรานี้มันสวยงามสำหรับเราครับ

    ดังนั้นขอให้เรามั่นใจ ไม่ว่าเราจะทำอะไร พูดอะไร ไปที่ไหน เมื่อมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง ความสดใสหรือวันที่เยี่ยมยอดก็จะอยู่กับเราเสมอ เหมือนมีดวงอาทิตย์คอยฉายแสงส่องให้เราเสมอ (sun will always shine)

แต่ผู้คนสมัยนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกันครับที่ทำได้ไม่ใส่ใจเสียงบั่นทอนกำลังใจจากคนอื่นและให้ความสำคัญกับความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นและโดดเด่นขึ้นมาในสังคมได้ สร้างความยอมรับให้กับคนรอบข้างและสังคมได้ (awake on the other side) แต่สำหรับบางคนกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้อาจต้องใช้เวลาพอสมควรครับซึ่งเพลงนี้ก็ได้ให้กำลังใจแล้วว่าเธอนั้น beautiful และอย่าได้รู้สึกแย่กับคำพูดของใครๆที่บั่นทอนกำลังใจเลย


Have a nice day krub :)



ป.ล. แก้คำผิด

เพลงอื่นที่น้องอิมเมจ The Voice นำมาร้องที่แปลที่นี่:




<< เพลงที่แล้ว : Stay Alive - Jose Gonzalez Heart Like Yours - Willamette Stone : เพลงถัดไป >>




Create Date : 02 ธันวาคม 2557
Last Update : 13 มีนาคม 2558 14:06:34 น.
Counter : 14605 Pageviews.

12 comments
  
สวัสดีค่ะ
มาฟังเพลงและส่งกำลังใจจ้า..
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Karz Music Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 3 ธันวาคม 2557 เวลา:10:12:13 น.
  
ขอบคุณสำหรับโหวตครับ พักนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย
เรื่องปวดหัวเยอะ ไม่มีอารมณ์จะแปลเพลงด้วย แต่
พักนี้คุณดีนะ ขยันแปล แฟนตรึม บอกแล้ว อยู่เฉยๆ
มันเงียบไป ต้องออกไปโชว์หล่อซะมั่ง

คุณเคยกลายเป็นคนที่ถูกมองดูแปลกๆในสายตา
ของคนอื่นรึเปล่าครับ?

ตอบคำถามดีกว่า ง่ายดี เคยมีสายตาคนอื่นมองว่า
ผมแปลกไหมเหรอครับ คำถามมันวนๆชอบกลนะ
หรือผมก๊งก็ไม่รู้ แต่คำตอบก็คือ มีสิ เยอะด้วย แต่
ผมไม่ปล่อยให้เค้ามองว่าผมแปลกอยู่ฝ่ายเดียวหรอก
ผมก็ว่าคนพวกนั้นดูแปลกๆเหมือนกันละน่า ไม่งั้น
เค้าจะว่าผมแปลกเหรอ อิอิ ใครวนก่ากัน 555++

อย่าพยายามตีความมากนะ เดี๋ยวนอนไม่หลับ
นี่รีบมานะ กลัวเจ้าหนี้ตัวเอ้จิมายืนคอย

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 3 ธันวาคม 2557 เวลา:20:18:47 น.
  
แหะๆ ถืออยู่ไม่ยอมวาง ต้องกลับมาใช้
อีกหนึ่งเม้นท์

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
Chic Bossy Funniest Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 3 ธันวาคม 2557 เวลา:20:22:15 น.
  
สวัสดีค่า ^^
มาฟังเพลง ยังนึกเป็นอิมเมจร้องอยู่เลย ><
เพลงนี้ทั้งเพราะและความหมายดี
ขอบคุณสำหรับคำแปลค่า

อรรถาธิบาย เวลาแปลเพลง
ยากเหมือนกันนะคะ
อ่านจบแล้วได้ความรู้ไปด้วย
จะว่าไปการแปลเพลงนี่ไมง่ายเลย
ภาษาไม่ว่าไทยอังกฤษก็ดิ้นได้หมด

ขอบคุณมากๆค่า
มีความสุขมากๆในวันหยุดนะคะ

โดย: lovereason วันที่: 4 ธันวาคม 2557 เวลา:20:31:25 น.
  
-- น้องอิมเมจเธอตีโจทย์แตกค่ะ เพราะกระแสแฟนขับแรงด้วยมีทั้งเชียร์และชัง
แบบอย่ามาเด่นเกินเด็กชั้นเงี๊ยะ
ออกมาตอนแรกจำไม่ได้เลยค่ะ น้องสวยและช่างเลือกเพลงได้เหมาะจังเลย
แต่ตอนท้ายควันจาง.. นิคงงเลยพี่ เธอมั่นมากค่ะ สวยในแบบของเธอซึ่งนั่นยิ่งเหมาะใหญ่
น่าเสียดายที่น้องน่าจะบิดแบบรอบที่ผ่านๆมา ซึ่งเธอเด่นมาก
แบบพี่ต้นว่าละค่ะ ยังดีขึ้นไปได้อีกนิดนึง ^^

แต่พอฟังฉบับของ Aguilera เธอถ่ายทอดอารมณ์ได้เยี่ยมยอดจัง
เมื่อถึงที่สุดของความเจ็บช้ำแล้ว บอกได้คำเดียวว่า อย่าได้แคร์
พออ่านช่วงอรรถาธิบายแล้วนั่งดูมิวสิคอีกหน
พี่ต้นอธิบายได้ละเอียดมากเลยค่ะ
.. perception ที่บิดเบี้ยว ชอบจัง (บอกอีกแล้วเนอะพี่ 555)



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 5 ธันวาคม 2557 เวลา:0:00:22 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณต้น ^^

ในชีวิตโดนดูถูกเยอะมากนะ พอดีอ้วนไงคะ
ก็เลยต้องพิสูจน์เยอะกว่าคนอื่นเค้า

=======================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 5 ธันวาคม 2557 เวลา:23:57:36 น.
  


แวะมาฟังเพลงและส่งกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
วนารักษ์ Dharma Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: pantawan วันที่: 6 ธันวาคม 2557 เวลา:23:48:58 น.
  
Karz Music Blog ดู Blog

ชอบค่ะ เราไม่ต้องให้คนอื่นมาบอกว่าเราเป็นอย่างไร
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 ธันวาคม 2557 เวลา:15:00:33 น.
  
พอดีเจอมาค่ะเรื่องนี้
ขอไว้ล่วงหน้าได้ป่ะคะ (:
อยากฟังแบบเพราะกว่าเดิมค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=WH8pNSUw5ag
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 12 ธันวาคม 2557 เวลา:23:01:19 น.
  
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยม
รอฟังเพลงใหม่คะ
โดย: pantawan วันที่: 17 ธันวาคม 2557 เวลา:0:12:33 น.
  
โหวตให้ค่ะ

เรารักน้องอิมเมจ แล้วเพลงนี้เธอก็ทำได้ดีมากๆ เลยค่ะ

ชอบจัง อัพแล้วบอกกันด้วยนะคะ ขอแอดเป็นเฟรนด์บล็อกด้วยค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 ธันวาคม 2557 เวลา:11:18:36 น.
  
รออ่านบล็อกต่อไปนะคะ ถ้าอัพไปบอกกันหน่อยเนาะ แฮ่...

แสดงว่าจขบ.ชอบกินปูแน่เลย
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 ธันวาคม 2557 เวลา:9:20:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Karz
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 126 คน [?]





สงวนลิขสิทธิ์
ธันวาคม 2557

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog