เพลงวันนี้ออก hard core หน่อยนะครับแต่ความหมายดีครับ อาจจะเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้เสียด้วยซ้ำ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามนะครับ แต่ผมฟังเพลงของ Linkin Park แล้วน้ำตาไหลมาหลายเพลงเลยครับ ^^' เรา sense เข้าไปในเพลงแล้ว "in" กับความรู้สึกและอารมณ์เพลงมากไปหน่อย เพลงนี้ผมก็เคยหลั่งน้ำตาให้มาแล้วเหมือนกันครับ ^^' หากอยากรู้ว่าทำไมเพลงโจ๋ๆอย่างนี้ทำให้ผมเสียน้ำตาได้ก็ลองตามมาดูในส่วนของคำอธิบายนะครับ
I don't know who to trust no surprise everyone feels so far away from me heavy thoughts sift through dust and the lies trying not to break but i'm so tired of this deceit every time i try to make myself get back up on my feet all i ever think about is this all the tiring time between and how trying to put my trust in you just takes so much out of me
i take everything from the inside and throw it all away cause i swear / for the last time i won't trust myself with you
tension is building inside steadily everyone feels so far away from me heavy thoughts forcing their way out of me
i won't trust myself with you i won't waste myself on you waste myself on you you
heavy thoughts sift through dust and the lies ท่อนนี้ลองนึกถึงของหนักๆนะครับ มันเป็นเป็นของชิ้นใหญ่ๆ เค้าเปรียบเทียบความคิดที่ใหญ่ๆหนักๆหมายถึงความคิดที่เครียดๆใหญ่ๆหนักๆนี้เอามาร่อนผ่านตะแกรงก็จะเหลือแต่ชึ้นเล็กๆละเอียดๆที่ผ่านไปได้ หมายถึงความคิดเครียดหนักๆซี่งเค้าพูดถึงคำโกหกหลอกลวงเหล่านี้ต้องผ่านการไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว (ถึงได้ข้อสรุปในท่อนต่อไป) คำแปลตรงนี้เลยกลายเป็นแปลว่า หลังจากที่ได้ตรองดูคำมดเท็จเหล่านั้นแล้ว
break หมายถึงพังทลาย ตะบะแตก ต่ออะไรครับ? ต่ออะไรหลายๆอย่างที่เค้าอธิบายต่อๆกันมาอันได้แก่ ความเหนื่อยล้าเหลือทนกันการหลอกลวงนี้, ต่อความที่ในทุกๆครั้งที่เกือบจะคิดได้แต่ก็ต้องเหมือนกลับมาเป็นอย่างเดิม, ต่อความพยายามในทุกๆครั้งที่จะเชื่อใจเธอแต่มันก็ยังเป็นแค่คำลวงเหมือนเดิม ซึ่งมัน take so much out of me ซึ่งหมายถึงสิ่งเหล่านี้มันทำอะไรซักอย่างกับเราที่ค่อนข้างจะมีผลมาก ผมจึงแปลท่อนนี้ใน verse แรกว่ามันเป็นสิ่งที่เกินไปสำหรับเรา และมันทำให้เราต้องเป็นยังงี้ใน verse ที่สอง
นอกนั้นก็ธรรมดาแล้วครับ แปลตรงตัวได้เลย อ้อ... ยังมีอีกอัน i won't waste myself on you ผมแปลเป็นจะไม่เปลืองใจก็เพราะว่าเมื่อเราเข้าไป "รู้สึก" ในสถานการณ์นี้แล้วสิ่งที่เราจะรู้สึก waste ได้ก็มีแต่ "ใจ" นี่แหล่ะครับ