สวัสดีค่ะพี่ๆและเพื่อนๆทุกท่านนะคะ แค่เห็นชื่อบล๊อกวันนี้ก็แสดงให้เห็นได้ว่าเราเป็นคนที่อัพเดทตัวเองตลอด(โฮ่ โฮ่) ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนจะถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว จ๊าก...ยังไม่ลงทริปตะลุยเที่ยวชมซากุระที่ญี่ปุ่นเลย มาค่ะ...ตามไปเดินตะลุยเที่ยวกันค่ะ

เราเดินทางไปถึงสนามบินนิวชิโตะเส่ะกับการบินไทยวันที่ 3 พ.ค.2556ค่ะ ก่อนไปวางแผนการไว้คร่าวๆสองแผน เพราะไม่แน่ใจว่าซากุระตรงไหนจะบานแล้วหรือตรงไหนไม่บานบ้าง แถวซัปโปโรนี่อากาศยังเย็นอยู่มากค่ะ ต้นไม้ใบก็ยังโกร๋นอยู่ค่ะ เราต้องเปลี่ยนแปลงการจองโรงแรมด้วยซิมเน็ตที่สั่งซื้อออนไลน์มาจากเมืองไทย(มารับซิมที่ไปรษณีย์ที่สนามบินค่ะ) ซิมนี้เบ็ดเสร็จตกพันกว่าบาทใช้งานคุ้มค่ามากๆค่ะ แถมเน็ตญี่ปุ่นนี่แรงจนปลื้มค่ะ

วันต่อมา..ลองไปชิมลางแถบบริเวณทางตอนใต้สุดของเกาะฮอกไกโดดูก่อนค่ะ..นั่งรถไฟไปชั่วโมงกว่าค่ะจากฮาโกะดาเตะ(Hakodate)ไปลงที่สถานีคิโคไน่(Kikonai)นั่งรถบัสตรงหน้าสถานีต่อไปอีกชั่วโมงกว่า ส่วนใหญ่รถบัสจะวิ่งลัดเลาะชายฝั่งไปค่ะ  ระหว่างทางเริ่มเห็นอนาคตค่ะเพราะอากาศแถบนี้ยังค่อนข้างเย็นพอๆกับซัปโปโร ต้นไม้แม้แต่ใบก็ยังไม่ผลิ แล้วดอกจะมาผลิได้อย่างไร ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไรค่ะคิดเสียว่าโปรแกรมวันนี้คือ Sightseeing ก็แล้วกัน

จุดหมายที่ดั้นด้นมาก็คือจะมาชมซากุระที่ปราสาทมัตสึมาเอะนี่แหละค่ะ ทั่วทั้งบริเวณมีเจ้าซากุระที่เอาไว้รับแขกอยู่ สี่ห้าต้นที่เห็นนี่แหละค่ะที่บานสวยต้อนรับนักท่องเที่ยวค่ะ

 เพราะฉะนั้นใครมาถึงแล้วก็ต้องรุมถ่ายกันใหญ่ค่ะ ที่นี่คงต้องอีกสักสองอาทิตย์ถัดไปค่ะคงจะสวยมากทีเดียว แต่ตอนที่ไป ยังไม่เป็นตุ่มเลยค่ะ ธรรมชาติจะไปบังคับเขาไม่ได้นี่คะ วันนี้แป่ว...แต่พรุ่งนี้ต้องโป๊ะเชะบ้างล่ะนะ..

 เราเลยใช้แผนสองโดยการเดินทางลงใต้ลงไปอีก ไปแถบภูมิภาคโทโฮคุ(Tohoku) แต่ก็ประสบปัญหาอยู่บ้างค่ะตรงช่วงเวลานั้นตรงกับช่วงโกลเด้นวีคของญี่ปุ่นพอดี โรงแรมห้องพักส่วนใหญ่จะเต็มค่ะ ไม่มีให้เลือก ตรงไหนมีห้องว่างพอนอนได้นอนทั้งนั้นค่ะ เพราะเราใช้บัตรเจอาร์พาสอยู่แล้วนั่งรถไฟไกลหน่อยไม่เป็นไรค่ะ

วันนี้ลงมาถึงสถานีคะคุโนะดาเตะ(Kakunodate)มีการจัดการแสดงด้วยค่ะ ประทับใจเชียว

 แอบลุ้น แอบลุ้นค่ะ ซากุระที่นี่จะเป็นยังไงน้า

เย้....เจอต้นแรกหน้าสถานีรถไฟ ชีวิตเริ่มมีความหวังค่ะ ความรู้สึกดีกว่าเมื่อวานขึ้นมากค่ะ

แถบนี้มีชื่อเสียงมากค่ะเพราะเป็นย่านถิ่นที่อยู่อาศัยของซามูไรในสมัยก่อน บางบ้านก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคุณซามูไรด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าซากุระจะยังไม่บานสะพรั่งมากนักแต่เที่ยบกับเมื่อวานก็ถือว่าดีกว่ามากค่ะ

เพราะว่าตรงกับช่วงโกลเด้นวีคและก็เป็นวันอาทิตย์ด้วยค่ะนักท่องเที่ยวก็เลยเยอะมาก คึกคักดีค่ะ

ตอนที่เราถ่ายรูปนี้ตอนแรกเราคิดว่าต้นนี้สวยมากแล้ว เพราะดูบานมากว่าต้นอื่นๆแถวนั้น แต่..เป็นยังไงติดตามต่อกันนะคะ

ที่นี่บรรยากาศดีและมีต้นซากุระให้ชมอย่างมากมายค่ะ เราเดินเลาะจากย่านหมู่บ้านของซามูไรเลยมาถึงริมแม่น้ำ มีการออกร้านขายของกินด้วยค่ะ และยิ่งเดินมาก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจกับงามของซากุระ (ถ่ายออกมาได้เท่านี้เองค่ะ ของจริงงามกว่าค่ะ)

เราใช้เวลาช่วงบ่ายมาอีกที่หนึ่งคือมาลงที่สถานีคิตาคะมิในจังหวัดอิวาเตะ(Kitakami) ในขณะที่อื่นๆยังไม่บานและยังไม่ค่อยบาน แต่ที่นี่ดอกร่วงไปเยอะแล้วจนใบเขียวเริ่มออกเยอะแล้วค่ะ แต่ก็ยังคงพอเห็นความงามอยู่ค่ะ

ที่แม่น้ำนี้มีบริการนั่งเรือชมความงามของซากุระด้วยนะคะ เราไปถึงเกือบสี่โมงเย็นแล้วเลยได้แต่เดินอย่างเดียวค่ะ วันนี้ได้ชมซากุระสองที่นี้ ได้ขนาดนี้ก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ ลืมเหตุการณ์ที่มัตสึมาเอะไปเลยค่ะ ต้นซากุระที่นี่ปลูกเรียงรายยาวไปตามริมฝั่งแม่น้ำ ถ้าเดินตรงกลางก็เหมือนเดินในอุโมงค์ของซากุระเลยค่ะ ริมๆทางยังมีความน่ารักของดอกแดฟโฟดิลให้ชมอีก

วันนี้เป็นวันที่ 5พ.ค เป็นวันเด็กผู้ชายของญี่ปุ่น จะนิยมแขวนปลาคาร์ฟให้ไปแหวกว่ายบนท้องฟ้านัยว่าให้เด็กๆแข็งแรงค่ะเพราะว่าปลาคาร์ฟเป็นปลาที่เขาเชื่อว่าแข็งแรงค่ะ

 ชมซากุระที่นี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสวยงามมากมายค่ะ นักท่องเที่ยวไม่ยอะจนแน่น จนเกินไปเดินเล่นกันแบบสบายๆค่ะ

ทางตอนต้นของแม่น้ำดอกซากุระร่วงไปพอสมควร แต่เดินมาตอนปลายๆ แถวนี้กำลังฟลูบูมสวยมากทีเดียวค่ะ ตอนนั้นคิดในใจว่าวันนี้ได้ไปชมสองแห่งนี้ก็คุ้มค่าสำหรับทริปนี้แล้วค่ะ แต่..กลับเป็นว่าวันแรกผิดหวัง หลังจากนั้น..ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นค่ะ

วันรุ่งขึ้นมาที่ปราสาทฮิโรซะกิ(Hirosaki Castle) พอนั่งรถไฟมาลงที่สถานีฮิโรซากิเดินออกมาก็มีรถบัสจอดรอให้บริการเพื่อส่งนักท่องเที่ยวหน้าปราสาทสะดวกมากค่ะ แค่เห็นต้นซากุระที่กำลังฟลูบูมอยู่ริมถนนด้านหน้า ดิฉันก็แทบอยากจะกรี๊ดให้ตัวเองเป็นลงล้มชักไปซะเลยค่ะ โอ้แม่เจ้า...ช่างสวยงามเสียนี่กระไร เมื่อวานว่าสวยสุดยอดแล้ว วันนี้สวยหนักกว่าเมื่อวานอีก (พูดถึงในแง่ความบานนะคะ ไม่เกี่ยวกับสถานที่) ที่นี่พรึบไปหมดค่ะ

สวยที่สุดเลยค่ะ

เดินเข้ามาด้านในมีการออกร้านขายของกิน ของที่ระลึกค่ะ เราก็หาซื้อของกินจากที่นี่แล้วก็ไปหาที่นั่งกินทำตัวกลมกลืนไปกับคนญี่ปุ่น เพราะหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าครั้งนี้จะไป นั่งปูเสื่อใต้ต้นซากุระชิลล์ให้สบายใจค่ะ

ช่วงเช้ามาคนยังไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ค่ะ กำลังสบายๆ เดินชมความงามของดอกซากุระตัดกับมุมของปราสาท เมื่อยก็นั่งพัก บริเวณส่วนด้านนอกปราสาทนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ

แต่เข้ามาบริเวณด้านในนี้ต้องเสียสตางค์เพิ่มค่ะ ซึ่งสามารถเข้าไปชมด้านในของปราสาทได้ด้วยค่ะ ด้านในนี้มีซากุระหลายสายพันธุ์ให้ชมค่ะซึ่งดูแล้วแต่ละต้นน่าจะปลูกมานานแล้วด้วยค่ะ ซากุระบางพันธุ์ก็มีกลิ่นหอมด้วยค่ะ เราเห็นคนญี่ปุ่นไปยืนดม เราก็ตามดมกับเขาบ้าง

สวยไปอีกแบบนะคะกับอีกสายพันธุ์

มีต้นซากุระให้ชมมากมายทีเดียวค่ะและที่นี่คนนิยมนำอาหารมาทานกันค่ะเผื่อเพื่อนพี่ๆได้ไปอย่าลืมเตรียมเสบียงไปปิคนิคกันด้วยนะคะ

วันรุ่งขึ้นนั่งชินคันเซ็นจากอาโอโมริมาไกลถึง Chichibu เพราะอยากมาเห็นเจ้าชิบะซากุระ หรือพิงค์มอส ค่ะ งานที่นี่จัดมานานแล้วปรกติคงจะเสียสตางค์ค่าเข้าชม แต่วันที่เราไปให้เข้าฟรีแล้วค่ะ เพราะดอกโรยไปเยอะแล้ว ชอบพี่ยุ่นตรงนี้อีกแหละไม่เอาเปรียบผู้บริโภค

 วันรุ่งขึ้นตัดสินใจหวนกลับไปที่เดิมที่หมู่บ้านซามูไรที่ Kakunodate อีกครั้ง ตัดสินใจไม่ผิดและคงเสียใจมากถ้าไม่ได้กลับไปรอบสองเพราะซากุระกำลัง full bloom สวยสะพรั่งเป็นที่สุดค่ะ

ดอกซากุระที่ห้อยย้อยลงมาเป็นพวง ตัดกับรั้วบ้านแบบโบราณสวยเป็นเอกลักษณ์แบบซากุระในหมู่บ้านซามูไร 

ต้นเดียวกันกับรูปด้านบนที่มาเมื่อสองวันก่อนค่ะ ผ่านไปแค่สองวันนารีเป็นอื่นจริงๆค่ะ เธอสวยขึ้นมากทีเดียวค่ะ เขาถึงบอกกันว่าหลังจากเริ่มบานอยู่ได้แค่ประมาณเจ็ดวันเธอก็ไปแล้วค่ะ รอยลความงามของเธอใหม่ปีหน้าแล้วกัน

สวยงามเป็นที่สุด ขอบคุณตัวเองที่ครั้งนี้ตัดสินใจถูกหวนกลับมาที่เดิมซ้ำอีกครั้ง

角館町　Kakunodate in Akita

 ซากุระภูมิภาคนี้ความงามก็ไม่แพ้ใครนะคะ

ก่อนวันเดินทางกลับได้เดินทางไปที่ป้อมดาวเพื่อดูซากุระด้วยค่ะแต่อากาศแถบนี้ที่ยังเย็นอยู่ทำให้ซากุระยังเป็นตุ่มอยู่เลยค่ะ คงต้องไว้โอกาสหน้าค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเที่ยวชมความงามของซากุระมาด้วยกันนะะคะ ยินดีและขอบคุณอีกครั้งสวัสดีค่ะ