URL บล็อก ...ณ มิตร... = http://silhouette.bloggang.com/ นะครับ..
ZogZag Vol.13 Himeji Castle, Kobe Japan by Piggy…


ZogZag Magazine หายหน้าไปนานไม่รู้มีคนคิดถึงมั่งรึเปล่า...ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปซ่อกแซ่กถ่ายรูปนำเที่ยวที่ไหน เพราะอากาศในแต่ละประเทศมันหนาวเย็นยะเยือกกันไปหมด

ไม่ค่อยถูกกับอากาศหนาวๆครับ... มันโรแมนติคไปหน่อย...

แต่งานนี้ ถึงแม้ Jazza และ ผีน้อยคิวทาโร่ จะไม่ได้ไปเอง แต่ก็มีบล็อกมาลงให้อ่านกันครับ...

ต้องขอขอบคุณ เจ้าหนู Piggy มากๆ.. ตัวเดียว คนเดียว ที่แอบไปซ่อกแซ่กญี่ปุ่นซะหลายสัปดาห์… แล้วยังขยันทำตามที่ Jazza ขอ
โดยเตรียมทั้งภาพ, ข้อมูล และเรื่องเล่ามาลงใน ZogZag Magazine กันครับ

อ่ะ... ปรบมือให้ดังๆ หลายๆที... แต่ไม่มีค่าต้นฉบับนะเว้ย!

ที่จริงก็วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันแหละครับ... แต่มาแอบรู้ทีหลังว่า เจ้า Piggy มันกินจุมากกกก แล้วค่าอาหารที่ญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ถูกๆ... ถ้าไปด้วยคงหมดตัว... ก็เลยชิ่งดีกว่าเรา... อิอิ...


มะ... เริ่มได้ละ...


ไปเที่ยวกันดีกว่า...


ป.ล. เนื่องจาก เจ้า Piggy นำเที่ยวแบบเขียนเรียงความส่งเข้าประกวดมาให้ Jazza อ่านแล้วง่วง... ขอญาตเติมมุกฮาแทรกเข้าไป หากทะลึ่งหรือตลกฝืดประการใด... เจ้า Piggy ไซร้จงรับผิดชอบแต่ผู้เดียว.. อิอิ...







ZogZag V.13 Himeji Castle, Kobe Japan by Piggy…


051203 วันที่หนึ่ง ของการเดินทาง – ถึงญี่ปุ่น, ซื้อตั๋วรถไฟ


Piggy นั่งเครื่องมา จาก BKK to KIX สนามบินคันไซ 5 ชั่วโมง [ไฟลท์อะไรใครขับก็ไม่บอก! นี่แน่ะ ] วิวแถวสนามบินคันไซสวยมากเพราะมันสร้างโดยการถมทะเลเข้าไป
กัปตันบอกว่าอุณหภูมิข้างนอก 10 องศาเซลเซียส



[รูป สนามบิน KIX : Kansai Int'l Airport]




ออกมาข้างนอกสนามบิน อากาศดี ไม่หนาวมาก สบายๆชอบมากกกกคร้าอากาศอย่างนี้ ตอนแรกกะซื้อตั๋ว 4 วัน
JR 4 วัน 6000 เยน แต่มีอีกอันแนะนำ 3 วัน 5000 เยน เป็น Kansai Thru Pass แล้วตั๋วนี้ก็นั่งรถบัสได้ทั้ง โอซาก้า เกียวโตแล้วก็โกเบเลย ตามแผนที่ ที่เป็นสีฟ้าอ่อน แล้วก็ขึ้นรถไฟได้หลายสายกว่า JR รถไฟใต้ดินก็ได้แถมได้ข่าวว่าเกียวโตเนี้ย ต้องนั่งรถบัส อืม… เอาอันนี้ก็ได้....

พอซื้อเสร็จก็เพิ่งรู้ว่าตั๋วนี้มีส่วนลดค่าเข้าชมบางที่ได้ด้วยตามคู่มือเล่มเล็กที่มันให้มากะแผนที่ ลดไม่เยอะหรอกส่วนมากลด 100 เยน
[ เปรียบเทียบค่าครองชีพในญี่ปุ่นให้นิดนึง...
100เยน หรือประมาณ 36บาท ซื้อ ชุกุวะ โอเด้ง 7-11 ได้หนึ่งชิ้น
ก็ประมาณลูกชิ้นเอ็นหมูปิ้งหนึ่งไม้ในบ้านเราครับ]



เปรียบเทียบราคาตั๋ว
ถ้าเป็น JR – West Rail Pass นั่งได้แต่รถ JR ใช้ได้จาก คันไซแอร์พอท ไปจนถึงสถานนีฮิเมจิที่โกเบ และยังใช้ได้กับเกียวโต นารา และ ยามะชิตะทางตะวันออกอีกด้วย แต่ใช้กับรถไฟประเภท Limited Express และ shinkan-sen ไม่ได้

ราคาตั๋ว
1 วัน . . . ผู้ใหญ่ 2000 เยน / เด็ก 1000 เยน
2 วัน . . . ผู้ใหญ่ 4000 เยน / เด็ก 2000 เยน
3 วัน . . . ผู้ใหญ่ 5000 เยน / เด็ก 2500 เยน
4 วัน . . . ผู้ใหญ่ 6000 เยน / เด็ก 3000 เยน


ถ้าตั๋วที่ Piggy ซื้อเป็น Surutto Kansai Kansai Thru Pass ใช้ได้ทั้ง รถไฟธรรมดา รถไฟใต้ดิน (แต่นั่งเจอาร์ไม่ได้นะ) รถบัสที่เป็นรถบัส Local ของรัฐวิ่งในบริเวณคันไซ
มันดีกว่าตั๋วเจอาร์ตรงที่นั่งรถไฟประเภท Limited Express ได้ (ยังไง Shinkan-sen ก็ยังนั่งไม่ได้อยู่ดี)

ราคาตั๋ว
2 วัน . . . 3800 เยน
3 วัน . . . 5000 เยน


รถไฟแบบที่ Piggy ขึ้นได้ตามตั๋ว Kansai Thru Pass ก็มีแบบ Local, Express, limited Express
แบบ Local ก็จะจอดทุกสถานีเลย
แบบ limited Express จะจอดเป็นบางสถานี เพราะฉะนั้นไปแบบ limited Express จะเร็วกว่า
ถ้ามั่นใจว่าสถานีที่เราจะลงจอดจริงๆ [พูดอย่างกับเครื่องบินลงจอด ]
ส่วนแบบ Express ไม่ได้ลองขึ้นอะเลยไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหนอาจจะจอดน้อยก่า Local แต่จอดเยอะกว่า limited Express ก็ได้ งง งง มะ อิอิอิ

[ ผิดนะคร้าบ.. limited จอดน้อยกว่าคร้าบ... หักหนึ่งคะแนน โทษฐานข้อมูลไม่แม่น อิอิ...]


*** เอาข้อมูลมาฝาก จาก Japan-guide.com***
[ //www.japan-guide.com/e/e2016.html ]
Train categories
From local trains to shinkansen (bullet trains), Japanese trains are typically classified into the following categories:

Local (kakueki-teisha or futsu-densha)
Local trains stop at every station.

Rapid (kaisoku)
Rapid trains skip some stations. There is no difference in the ticket price between local and rapid trains.

Express (kyuko)
Express trains (kyuko) stop at even fewer stations than rapid trains (kaisoku). In case of JR (Japan Railways), an express fee has to be paid in addition to the base fare.

Limited Express (tokkyu)
Limited express trains stop only at major stations. A limited express fee has to be paid in addition to the base fare. It is typically between 500 and 4,000 Yen. In case of some non-JR railway companies, no "limited express fee" has to be paid.

Super Express (shinkansen)
Shinkansen (bullet trains) are only operated by JR (Japan Railways). Shinkansen use separate tracks and platforms. A limited express fee has to be paid in addition to the base fare. It is typically between 800 and 8000 Yen.



[รูป แผนผังรถไฟ ดูเต็มๆกดเอาที่รูปได้ครับ]



จบการเดินทางวันที่หนึ่งแบบหน้าตาเฉยครับ...


[ หัก เจ้า Piggy อีกหนึ่งคะแนน… ห้องพักในโรงแรมเป็นงัย ราคาเท่าไหร่อยู่แถวไหก็ไม่บอก ได้ข่าวว่าถูกมาก.. คนอื่นจะได้ไปมั่ง... นี่แน่ะ.. อิอิ...]







051204 วันที่สอง ของการเดินทาง – ปราสาทฮิเมจิ มรดกโลกแห่งโกเบ


วันนี้จะไป ปราสาทฮิเมจิ เย้ อยากไปที่นี่ที่สุดเพราะเคยดูสารคดีมาแล้ว ชอบ แต่ขอบอก ตื่นสายเลยออกมาช้าเลย
แต่พอลงมาด้านล่างโรงแรมปรากฏว่า ฝนตก ง้า
ที่เค้าเตอร์โรงแรมใจดีให้ยืมร่มใสๆที่คนญี่ปุ่นค้าฮิตใช้กันเพราะลืมเอาร่มมานี่แหละมันราคาถูกเหมาะแก่การซื้อแก้ขัดเราเลยได้โอกาสดีใจได้ใช้ร่มใส อิอิอิ


ปราสาทฮิเมจิ 姫路城 (ひめじじょう HimejiJou) อยู่ที่โกเบ
ไปโกเบก็ เริ่มจากสถานนี Namba (なんば) [เจ้า Piggy พักอยู่แถวสถานี Shin Imamiya ครับใกล้กับ Namba ] ขึ้นสาย Midosuji ไปสถานี Umeda 梅田(うめだ) สถานีใหญ่มาก มักจะมีอาการเอ๋อทุกทีที่เดินออกจากรถไฟ เนื่องจากสถานีใหญ่ จะเดินไปต่อรถไฟตรงไหนต่อดีฟร้า

เดินขาลากเลยแล้วไอ้อาการเดินตามทางที่เค้าชี้บอกไปเรื่อยๆๆ ก็ดีอยู่หรอก แต่อยู่ๆ ป้ายบอกทางก็หายไป เฮ้ยย
เราพลาดตรงไหนเนี้ย!

จากสถานี Umeda ก็ต่อรถไฟสาย
Hankyu ไปโกเบก็ขึ้น Hankyu Kobe line 阪急神戸本線 (はんきょうこうべほんせん HankyuKoubeHonsen) พอดีรถที่นั่งจาก namba ไปเป็นแบบ local มันสุดที่สถานี shikaichi (新開地) แล้วพอดีมันมีรถไฟสาย sanyo electric railway mainline 山陽電鉄本線 (さんよでんてつほんせん) ที่ไปสุดสายที่ปราสาทฮิเมจิพอดี


สถานี sanyo-himeji 山陽姫路
เนื่องจากนั่งแบบ local มันเลยใช้เวลานานไปหน่อย กว่าจะถึงใช้เวลา 110 นาทีแนะ [แล้วใครใช้ให้นั่งรถหวานเย็นจอดทุกป้ายหละ อิอิ...]
เค้าบอก่วาถ้าไปเร็วๆ ก็ถึงในเวลา 90 นาที สองข้างทางรถไฟ บ้างเมืองแถวโกเบสวยมาก ถึงแม้ว่าบ้านจะเยอะดูแออัด แต่มันก็แออัดแบบเป็นระเบียบคงเป็นเพราะตอนแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ตอนปี 1995 (มั้งถ้าจำไม่ผิด) เมืองพังเค้าเลยสร้างเมืองใหม่เหมือนประชดเลย มันก็เลยออกมาเป็นระเบียบดีมาก แต่ว่าที่แย่คือ เนื่องจากฝนตก ดังนั้น ใบไม้แดง ที่เราต้องการมันก็เลยโดนน้ำฝนร่วงมาตามพื้นให้เห็นซะเยอะกว่าอยู่บนต้นซะแล้ว

นี่ๆ ระหว่างทางขอแนะนำ สถานี maiko-kouen舞子公園 เพราะมองเห็นสะพาน akashi kaikyo ohashi เป็นสะพานที่ข้ามจากโกเบไปเกาะ awaji 淡路島 เห็นแล้วสวยดีว่าขากลับจะแวะมา
แต่ลืมอะ...แฮะๆๆ [ หักอีกหนึ่งคะแนน... นี่แน่ะ.. ]






ถึงปราสาทฮิเมจิตอน11.50 [ออกเดินทางกี่โมงก็ไม่บอก... นอกจากตื่นสายแล้วยังขี้ลืมอีก... ขอเดาว่า 9 โมงนิดๆเด้อ ]
ออกมาจากสถานีด้วยอาการเอ๋อเช่นเดิม ไปทางไหนดีฟร้า
หนาวมากด้วยเพราฝนตก ออกมานึกว่าอยู่ซัปโปโรซะอีก (เนื่องจากหนาว แถมต้นไม้ข้างทางเป็นใบเหลือง แนวยาวเหมือนเคยเห็นในรูปเลยเพ้ออยากไปจัด ) เลยเดินกลับไปถามทางคนขายของในสถานีอีกที่ว่าปราสาทฮิเมจิไปทางไหน [HimejiJou dochira desuka. แถมเสียงในฟิล์มให้ฟรี อิอิ...]
ปรากฎว่าถ้าเมื่อกี้เราก้าวออกมาจากสถานีกว่านี้อีกนิดแล้วหันไปทางซ้ายก็จะเห็นปราสาทเลย เดินไปประมาณ 10นาทีได้





เจอปราสาท ตามหลักเลย ต้องมีน้ำล้อมรอบ ดูสวยดีประตูใหญ่ก็สวย เข้าประตูใหญ่ไปก็จะเป็นลานกว้างงงงงงมากกกก ปราสาทในญี่ปุ่นนี้จะเหมือนๆ กันหมด
เข้าประตูไปแล้วเป็นลานกว้างงงง มากกกก (ยังกะสนามบอล)

วิธีซื้อบัตรเข้าชมปราสาท มีตู้กดกะซื้อจากคนขายที่เค้าเตอร์ ค่าเข้าชมปราสาท 600เยน
แต่เรามี บัตรลดที่มากะตั๋ว Kansai Thru Pass ที่นี่ ลด 20% เหลือ 480 เยน











[แดงได้ใจดีจัง]





ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทสีขาวสร้างด้วยไม้อยู่บนภูเขาฮิเมะ เป็น World Cultural Asset-registered castle เรียกว่าไรอะ มรดกโลกเหรอ

ปราสาทฮิเมจิยังรักษาความเก่าไว้อยู่ด้วยคือภายในปราสาทก็ยังรักษารูปแบบ พวกห้อง พื้นยังเป็นไม้อยู่ประมาณเนี้ย เหมือนแบบโบราณไว้อยู่ (ไม่เหมือนปราสาทโอซาก้า ทำใหม่ซะลืมไปเลยว่าเดินอยู่ในปราสาท) ถ้าจำไม่ผิดปราสาทฮิเมจิ เริ่มมีประวัติการสร้างปราสาทหลังแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1346 โดย Akamatsu Sadanori โครงสร้างของปราสาทก็จะมีแกนกลางคือไม้ท่อนใหญ่มากกกกก จำไม่ได้ว่าเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าไหร่ 2 ท่อน เป็นแกนยึดโครงสร้างปราสาท 5 ชั้นไว้




กำแพงล้อมรอบปราสาทก็จะแบบเป็น 3 โซน โซนนอกสุด เรียกว่า Sannomaru เข้าไปอีกชั้นเรียกว่า Ninomaru เข้าไปตรงตัวปราสาทเรียกว่า Honmaru รูปแบบการสร้างปราสาทนี้ สร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรูโดยเฉพาะ มันจะออกแนวจิตวิทยากดดันศัตรูด้วย เช่นประตูตอนเข้าปราสาทจะใหญ่โตสวยงามทางเดินไปปราสาทก็จะกว้าง ใหญ่ พอเดินๆ เข้าไปก็ต้องผ่านประตูอีกหลายชั้นกว่าจะถึงตัวปราสาทซึ่งประตูในแต่ละชั้นที่เข้าไปนั้น ก็จะค่อยๆเล็กลงเรื่อย ๆ ทางก็แคบลงเรื่อย ๆ บันไดก็จะขั้นสูง ๆแถมประตูอันสุดท้าย จะเข้ายังต้องระวังหัวเลย (เนื่องจากเล็กมากคงสูงสักประมาณ 150 ซม มั้งเดาเอา)









มันก็เหมือนกับว่าถ้าศัตรูเข้ามาเยอะตอนแรกทางก็เดินสบาย ถนนกว้าง แต่พอเข้ามาแคบเข้าแคบเข้า ก็เหมือนแถวทหารก็ต้องโดนบีบลงเรื่อย ๆแถมเวลาเดินเข้าประตูเล็กๆ ไปแต่ละอันเข้าไปก็จะเจอพวกกำแพงหินสูง ๆ ดูวังเวง (คือเข้าประตูเสร็จเป็นกำแพงเพราะเราต้องเดินเลี้ยวไง) อย่างประตูสุดท้ายถ้ามองผ่านประตูเข้าไปจะเป็นบันไดขึ้นไปสูงเกือบมองไม่เห็นทางต่อแนะ เพราะมันจะเป็นบันไดขั้นสูง ทำให้ความชันมีเยอะ แถมประตูก็เตี้ย ขึ้นบันไดไป(จริงๆก็มีไม่กี่ขั้นแหละ แค่ขั้นมันสูงเฉยๆ ) ก็เจอฐานปราสาทที่ทำด้วยหินอีก ฐานปราสาทก็สูงถ้าเงยหน้ามองปราสาทเข้าไปก็จะรู้สึกว่าปราสาทนี้ดูใหญ่โตน่าเกรงขาม (หรือเราอินจัด คิดไปเองฟร้า วันที่ไปฝนตกอีกตะหาก ใช่เลย เราปราสาทโดนกดดันแล้วววว! )











อ้อ ตามกำแพงที่เดินเข้าไปจะมีช่องเป็นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมเล็ก ๆเอาไว้ ดักยิงศัตรูด้วย ถ้ามองตามช่องพวกนี้ออกจะไปเห็นว่ามุมมันจะพอดีเห็นแนวกำแพงถ้าศัตรูปีนขึ้นมาหรือเห็นประตูถ้าศัตรูเดินเข้ามา ยิ่งได้เลย









ก่อนเข้าปราสาทเค้าให้ถอดรองเท้า ไม่ต้องห่วงมีสลิปเปอร์ให้ มีถุงพลาสติกให้ใส่ร้องเท้าหิ้วไป เข้าไปข้างในปราสาทก็จะมืด ๆ ก็มันเป็นปราสาทที่รักษาความเก่าอยู่ไงพื้นเป็นไม้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้หมด (ก็ปราสาททำด้วยไม้นี่)

ชั้นแรก จะเป็นลานทำอาหาร เรียกง่ายๆ ก็ห้องครัวนะเอง





ขึ้นไปชั้น 2 กับชั้น 3 เค้าบอกว่าเป็นที่เก็บอาวุธ
ซึ่งใน 2 ชั้นนี้จะเป็นที่แสดงพวก ประวัติปราสาท, ตราประจำตระกูล ที่เก็บอาวุธต่างๆ ชุดเกราะที่ใช้รบ(ปกติเห็นชุดเกราะญี่ปุ่นในรูป เหมือนมันมีหนวดเลย พอเห็นของจริง หนวดจริง ๆ
ด้วยสงสัยทำให้ดูน่ากลัวขึ้น แต่เรากลัวจับใจเลยแหละ ตอนเด็กๆ อะ)


[น่ากลัวจริงด้วย หนวดนั่น..]



ชั้น 4 เป็นไรน้า จำได้แต่ว่าที่กำแพงมันจะมีห้องลับเล็กๆ ไว้ให้ทหารแอบซุ่มอยู่ในนั้นด้วย [หักอีกหนึ่งคะแนน.. เจ้า Piggy ขี้ลืม.. ]




ชั้นบนสุดชั้น 5 เป็น ศาลโอซาก้าเบ เป็นศาลเจ้าเล็กๆ เค้าบอกว่าศาลเจ้านี้เมื่อก่อนอยู่บนยอดเขาที่สร้างปราสาทฮิเมจินี่แหละแต่พอสร้างปราสาทขึ้นก็ต้องถูกรื้อออกไป หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นภาษาไทยคงเรียกว่าอาเพศเนอะเค้าก็เลยสร้างใหม่ขึ้นในปราสาทเลย เค้าว่ากันว่าเป็นที่ ที่วิญญาณของ Musashi Miyamoto นักดาบคู่ชื่อดังของญี่ปุ่นสิงอยู่ด้วยแหละ
[Jazza Recommend : หนังสือ “มุซาชิ” น่าอ่านมากๆ คำนิยมในเล่มโดยอดีตนายก ชวน หลีกภัย]










หลังคาที่ปราสาทในญี่ปุ่นจะสังเกตเห็นปลายหลังคาจะมีรูปเป็นสัญลักษณ์อยู่ด้วย สัญลักษณ์เหล่านี้คือสัญลักษณ์ประจำตระกูล และที่อยู่ติดกับหลังคาก็เพื่อเป็นการบ่งบอกว่า สิ่งก่อสร้างชิ้นนี้เป็นจักพรรดิองค์ไหนเป็นคนซ่อมแซมหรือสร้างขึ้น








อืมเดินชมปราสาทอยู่ตั้งนาน ออกมานอกตัวปราสาทก็เดินๆ ไปเจอบ่อน้ำอันนึงเลยเดินเข้าไปดูสักหน่อย ชะโงกหัวไปดูลึกมากกกกกก มองไม่เห็นก้นบ่อเลย ดีนะเค้าเอา

ตระแกงกั้นไว้เลยเปิดคู่มือแผ่นพับที่เค้าให้ตอนเข้าปราสาทมาอ่าน โอ้วววว มีเกี่ยวกับบ่อนี้ด้วย อ่านไปมา อ้าวววว (จำไว้วันหลังอ่านก่อนแล้วค่อยดู) ปรากฎว่าบ่อน้ำนี้คือ บ่อ Okiku เป็นบ่อที่เค้าเชื่อว่ามี ผีโอคิคุ อยู่ โอคิคุเป็นสาวใช้ในครัวที่บังเอิญไปได้ยินหัวหน้ามหาดเล็กวางแผนที่จะฆ่าเจ้าปราสาทนี้เพื่อตั้งตนแทนโอคิคุได้ช่วยเจ้าปราสาทไว้ (ไม่รู้ว่าช่วยยังไงแฮะ) ต่อมาหัวหน้ามหาดเล็กคนนั้นรู้ว่าโอคิคุเป็นผู้ขัดขวางเลยขโมยจานล้ำค่าไปและทำโทษข้อหาทำจานหายจนเธอตายแล้วเอาศพไปทิ้งในที่บ่อน้ำนี้
(ปรือ ดีนะชะโงกไปเมื่อกี้ไม่เจอไรแปลก ๆ )
[ในเวปเค้าบอกว่า ชะโงกหน้าไปแล้วฟังให้ดีๆ จะได้ยินเสียงนับจาน อิชิ, นิ, ซัง... ไปเรื่อยๆ... เจ้า Piggy ได้ยินแล้วบอกว่าไม่ได้ยินรึเปล่า? ]




ชมปราสาทเสร็จออกมาทางออก (อยู่ข้างๆกะที่ซื้อตั๋วไปชมปราสาทนะแหละ) เจอท่านโชกุน อิอิอิ
พูดเล่น ก็อ่านก่อนมากะ พี่ Jazza ว่าถ้าเจอคนแต่ตัวเป็นโชกุนอย่างนี้ เค้าคือไกด์ภาษาอังกฤษ ให้เค้าพาชมปราสาทได้เลย อ้าวววว
มาเจอเอาตอนจะกลับ เลยขอถ่ายรูปด้วย แต่เค้าดูหยิ่งๆมากเลยอะ ไม่เหมือนคนเป็นไกด์เลย


[ลุงแกก็ดูยิ้มๆดีออก แหม...]



รวมเดินเอ้อระเหยอยู่ที่ฮิเมจิ 3 ชั่วโมงกว่า (ทำไปได้) ก็จริงๆ มาญี่ปุ่นตั้งใจมาที่นี่เป็นหลักเลยใช้เวลาตามใจฉันอินจัดคิดว่าตัวเองเป็นทหารเดินไปเดินมาไม่ดูเวลาเลย

โปรแกรมจะที่ไปที่อื่นต่อก็เลยหมดเนื่องจากเวลาไม่เอื้อ เลยตัดสินใจไปดูหอโกเบดีกว่า
[ใครใช้ให้ตื่นสายหละ... อิอิ... ]




ไปหอโกเบก็นั่งรถไฟออกจากฮิเมจิ กลับไปทางเดินนะแหละ แต่ไปลงที่สถานี Hanakuma 花隈 อาการเอ๋ออีกแล้ว ออกจากสถานีแล้วไงต่อฟร้า เพิ่งจะหกโมงเย็นเองมืดอะไรขนาดนี้ เลยเดินมั่ว ๆ ออกจากสถานีเดินไปทางขวาหน่อยนึง พอเจอแยกก็หันไปทางซ้าย ข้ามถนนไป เหลือบมองไปที่สูงๆ (ถ้าหอโกเบอยู่แถวนี้ก็น่าจะมองเห็นนะ ว่าแต่เปลี่ยวดีจัง หึหึหึ) [อันตรายต่อคนรอบข้าง Piggy ครับ ขอบอก...] อะ มองเห็นจริงๆ ด้วย แดงๆ แว๊บๆ
เลยเดินตามมันไป ระหว่างทางก็เดินผ่านย่าน motomachi เป็นย่านชอปของโกเบ แต่ว่าเราขอมุ่งหน้าไปยังหอโกเบก่อนนะ ยิ่งเดินไปยิ่ง เปลี่ยว ในที่สุดก็เจอหอโกเบ มันอยู่แถวๆ ท่าเรื่ออะ
แถวนั้น สวยยยย และก็มักจะเห็นคนเดินกันเป็นคู่ๆ ซะด้วย ก็อยู่ริมน้ำนี่นา ว่าไปก็เปลี่ยวเหมือนกัน หนาวววววด้วยยย ถ่ายรูปมือสั่นไปหลายรูปเลย










เดินไปทางอ่าวหน่อยก็จะมีเรือ Nihon maru ชื่อมันคุ้น ๆ มันคงเป็นเรืออะไรสักอย่างนี่แหละ หึหึหึ แต่สวยดีลักษณะมันคล้ายเรือใบ แล้วตรงสายระโยงรยางค์ของใบเรือเค้าติดไฟเลยทำให้ตอนกลางคืนอย่างนี้มันสวยขึ้นมาทันที แถวนั้นคงเป็นสวนสาธารณะ บรรยกาศถ้ามีคนคงดีกว่านี้ เพราะตอนนี้รู้สึกเปลี่ยวเหลือเกิน [จะได้มีคนให้ Piggy ทำร้าย] เดินๆ ไปตามทางก็จะมีเรือให้ดูหลายแบบ ก็คือเค้าจะเจาะพื้น (หรือว่าไอ้ที่เรายืนเนี้ยเค้าสร้างมันขึ้นมาบนทะเลกันแน่นะ) เค้าจะเจาะพื้นให้เรือลอยอยู่บนน้ำ แล้วรอบๆก็เป็นพื้นที่เรายืนล็อกเรือไว้ให้เราชมนะเอง ดูไปดูมา มืดๆ + เปลี่ยวๆ + หนาวมาก มองลงไปในน้ำทะเล อาการกลัวฉลามกำเริบแฮะ ไปเดินชอปที่ Motomachi ดีกว่า




ชื่อคุ้นๆนั่นคงหมายถึงเรือ nippon maru Ship for Southeast Asian Youth (เรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ) เรือที่นำเยาวชนจากแปดประเทศ (รวมไทยด้วย) มาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโดนล่องเรือไปด้วยกันสามเดือน จะแวะมาเมืองไทยทุกๆเดือนพย. ครับ...


//www.asseay.org/ship.htm

แต่ก่อนวงดุริยางค์สวนกุหลาบเป็นวงบรรเลงรับและส่งเรือออกจากท่าเรือคลองเตย บรรยากาศตอนเรือกำลังจะออกจากท่านะ... ซึ้งมาก... เยาวชนในเรือจะโยนริบบินลงมาให้คนข้างล่างที่ท่าเรือรับและถือไว้.. เรือก็ค่อยๆห่างออกไป เพลง Nippon Maru ก็บรรเลงไปเรื่อย... ประทับใจมากครับ... เพลง Nippon Maru
//www.asseay.org/nm_thai_version.htm
กับประสบการณ์จากปากเยาวชนไทยที่ไปร่วมกิจกรรม //embjp-th.org/th/jics/pub4_47/pub10.htm



ที่ ถนนสาย Motomachi นี้ 2 ข้างทางมีร้านค้ายาวเหยียดเลยนี่ก็ทุ่มกว่า ๆแล้ว ทำไมย่านชอป Motomachi ร้านปิดเร็วจังเลย [ Piggy หนาวเป็นคนเดียวเหรองัย คนขายก็หนาวเว้ย เลยปิดร้านหนี...] แต่ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่น 2 ทุ่มร้านก็ปิดแล้ว เดินนี่สักพักก็เลย กลับดีกว่า




ตอนกลับก็เหมือนเดิมกับตอนไปฮิเมจิ กลับทางเดิม จาก สถานี hanakuma ไปต่อรถที่สถานี sannomiya 三宮 แล้วขึ้นสาย Hankyu kobe line ไปลงที่สถานี Umeda 梅田 (ข้อดีของการอยู่ญี่ปุ่น เริ่มจะจำได้ว่าคันจิตัวนี้อ่านว่าอะไร) อาการยังไม่อยากกลับมีอยู่ในจิตใจเลยตัดสินใจเดินเล่นแถวๆ อูเมดะก่อน ร้านค้ายังไม่เห็นจะรีบปิดเหมือนที่ motomachi เลย ถนนช้อปที่นี่ใหญ่มาก ร้านเยอะมากก เพลินดี แต่ที่ดีใจสุดก็เห็นเป็นเพราะเจอร้านขายซีดีมือ 2 โอ้ววว ระหว่างทางเที่ยวก็หาๆ มาตลอด ดีใจมาเจอที่นี่นะเอง พวกซิงเกิ้ลมือ 2 ที่นี้ แผ่นละ 105 เยนเอง [100เยน บวกภาษี 5%] แต่เพลงที่เราอยากได้ไม่มีแฮะ เห้อ เลยหาๆ ซื้อมาได้ 2 แผ่น ดีใจมาก ก็ตกแผ่นละ 105 เยนนี่ เทียบกับตอนซื้อราคาเต็ม แผ่นละ 1130เยนเพลงก็ไม่เก่าเกินไป มันจะมีเป็นอัลบัมมือ 2 ไหมน้า อยากได้ >_< (เดินไปเดินมาร้านก็เริ่มปิดคนแจกทิชชู่แถวนี้ก็ชอบชวนคุยซะงั้นแถมคนตั้งบูธแพกเกตอินเตอร์เนตอีกก็บอกแล้วว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่นยังจะถามว่าอยู่ญี่ปุ่นรึเปล่า ถ้าอยู่ก็เอาแพกเกตไปใช้ได้นะ เห้อ -_-!)
วันนี้ก็กลับดึกจะได้ สมใจซะงั้น โทษฐานที่เมื่อเช้าตื่นสาย (หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่สายนะ)





"ถ้าไม่อยากให้หลงตัวเองก็ช่วยมาหลงเราที!"

^
^ ^
[อันนี อารายอะ... คำจบบล็อกเหรอ??? อิอิ.. ]



จบการเดินทางวันที่สองแบบฉงนอีกครับ... อิอิ...



ขอบคุณน้อง Piggy Pigwidgeon มากนะครับ.. ขยันจริงๆ...

เที่ยวต่อกันกับ

วันที่สามช่วงเช้า
ZogZag Vol.13.2 อาราชิยามะ ทางรถไฟสายโรมานติก @ Osaka, Japan {by Piggy}


ได้เลยนะครับ...





Create Date : 26 ธันวาคม 2548
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 17:24:11 น. 18 comments
Counter : 3027 Pageviews.

 
เพลงประกอบเพราะๆนี้ชื่อ

Give Me Your Love

OST จาก ITV Asian Series เมื่อสี่ปีที่แล้วครับ...

ใครเคยดูมั่ง??


โดย: namit วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:14:35:49 น.  

 
อ้าว เหมือนทริปน้องเค้ายังไม่จบเลยนะนั่น
หายไปดื้อๆซะงั้นอ่ะ


โดย: P'A IP: 202.12.97.100 วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:14:52:48 น.  

 
=== quote ===
ส่วนแบบ Express ไม่ได้ลองขึ้นอะเลยไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหนอาจจะจอดน้อยก่า Local แต่จอดเยอะกว่า limited Express ก็ได้ งง งง มะ อิอิอิ

[ ผิดนะคร้าบ.. limited จอดน้อยกว่าคร้าบ... หักหนึ่งคะแนน โทษฐานข้อมูลไม่แม่น อิอิ...]
==========

คุณ piggy ไม่ได้ผิดนี่น่า express จอดมากกว่า limited ก็ถูกแล้วหนิ (ไม่เคยไปหรอกนะ แต่ logic จากข้างความข้างบนมันเป็นอย่างนี้ local < express < limited) คุณณมิตร เอาคะแนน คืนคุณ piggy ด้วยน้า


โดย: :) IP: 221.128.100.63 วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:16:23:10 น.  

 
น้องพีช


โดย: 26 ธันวาคม 2548 IP: วันที่: 16:42:00 เวลา:203.151.141.194 น.  

 
แฮะ แฮะ ขอโตดน่ะค้าอันตะกี้กดผิดอ่ะค่าเลยทำให้เปลืองเนื้อที่ไปนิดหน่อยน่ะค้า.....พี่ณมิตร ขา ขอบอกว่าข้อมูลการเที่ยวเนี๋ยะอัดแน่นมัก มัก...ดีค่ะพี่ค่ะน้องเลยจะขออนุญาติ อ่านต่อสัก1สัปดาห์น่ะค้า(จาจบไม๊อ่ะ) หุหุหุเดี๋ยวจะมาโพสใหม่


โดย: น้องพีชvol2 IP: 203.151.141.194 วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:16:48:09 น.  

 
ยาวจังเจ้าค่ะ ยกยอดไว้อ่านต่อนะ

...ถ้ามารบกวนขอโทษนะเจ้าคะ...


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:17:56:40 น.  

 


เคยได้ยินมาว่า คำว่า ฮิเมะ คือดาบชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น

ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าคะ


ชอบปราสาทสีขาวจัง สวยมาก


โดย: มัชฌิมา วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:19:34:59 น.  

 
ดูแล้วถอนหายใจฮะ...

อยากไปซักที


โดย: รู้สึกแปลก วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:19:58:19 น.  

 
ขอบคุณพี่อาร์มหน้ายิ้มมากคร้าบ...

ผมเบลอเอง.. ก็ Piggy มันเขียนให้งงนี่นา..

คืนคะแนนให้ Piggy หนึ่งแต้ม... อิอิ...

ใครอยากไปเดินเล่นในปราสาท ฮิเมจิ แบบ Virtual...

...กดตรงนี้ครับ...


โดย: namit วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:21:26:45 น.  

 
ปราสาทที่ญีปุ่นมีลักษณะทั่วไปคล้าย ๆ กันจริง ๆ ด้วย
แต่ปราสาท Himeji ก็สวยดี มีหลายหลังประกอบกัน
ยิ่งเข้าไปไกล้ยิ่งสวย


โดย: Tai-Sarunya วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:1:28:49 น.  

 
ก็ถามแล้วไง ว่า งง งง มะ สรุปงง จริงๆ ด้วย อิอิอิ
ว่าแต่ไอ้ที่พี่ถามตอนจบปล็อกอะ อันน้านนนน มันเป็น signature จบ e-mail ของ piggy เองงงงงงงงง ไม่เกี่ยวกะปล็อกเลยยยงะ

พี่นี่สุภาพดีนะใช้ dochira ด้วย (ทางไหน)
แต่พิกกี้ไปนะ คำสุภาพมันหายไปไหนหมดเนี้ยยยย กลายเป็น doko (ที่ไหน, ทางไหนเหมืนอกัน) นอกจากคำว่า doko ที่ใช้บ่อยแล้วยังมีอีกคำที่ใช้บ่อย nihonjin jyanai (ไม่ใช่คนญี่ปุ่น ไม่สุภาพเช่นเดิม ขอบอกว่าคำนี้สุภาพน้อยสุดสุดเลย) แทนที่จะ nihonjin dewa arimasen (ไม่ใช่คนญี่ปุ่น แปลเหมือนกันแหละแต่สุภาพกว่าเยอะ)
เออ มารยาทเราหายไปไหนหมดเนี้ย


โดย: Pigwidgeon IP: 203.144.201.130 วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:12:47:01 น.  

 
อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างจังเลยครับ...
ขอบคุณคุณ Pigwidgeon กับคุณ namit นะครับ
ที่พาผมไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบสนุกๆเหมือนได้ไปเองเลย แหะๆ



โดย: Hematite วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:12:58:33 น.  

 
ปรบมือใ้ห้คุณPiggyสามแปะคร้าบ....
ข้อมูลแน่น รูปละเอียดทุกซอก ทุกมุม ทุกรู ดีจังฮะ...
สารภาพว่ายัึงไม่เคยไปแถบคันไซเลยฮะ
อยากไปมากหลังปีใหม่กะว่าจะไปคร้าบ ...ขอจดๆๆข้อมูลนะคร้าบ...
เหมือนยังไม่จบดีหรือเปล่าครับ รอๆชมต่ออ่ะครับ...

เฮียมิตฮะไปเที่ยวHimeijijouมาแล้วเหรอครับพี่...(อิจฉาง่ะ)
ถึงว่าไปรู้ห้องลับแอบซุ่มได้ไง...

ปล. เพลงเพราะมากกกกคร้าบ..!!!





โดย: อัยคุง วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:15:57:09 น.  

 
อัยคุง เฮียแจซซ่าเค้ายังไม่ได้ไปเที่ยวหรอกกก ตอนแรกว่าจะไปกะพิกกี้แต่ว่าเค้าว่าพิกกี้กินเยอะ เค้าเลยบอกให้ทำแผนการเที่ยวให้ละเอียดเพราะเค้าจะไปเที่ยวบ้างวันหลัง

ส่วนรูปที่เขียนบอกห้องลับให้ทหารซุ่มอะ พิกกี้ทำเองค่ะ ขอคะแนนเพิ่มจากเฮียแจซซ่า 2 คะแนน นะ โดนหักไปเยอะ ขอคืน >_<


โดย: Pigwidgeon IP: 203.150.30.31 วันที่: 28 ธันวาคม 2548 เวลา:15:04:02 น.  

 
อิอิ... ไปทำวันที่สามมาดีๆ...
เด๋วเพิ่มคะแนนให้...


โดย: namit วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:9:15:28 น.  

 
ตามมาซ่อกแซ่กๆ ด้วยแร่ะ
ยังไม่เคยไปโกเบเลย อยากไปเที่ยวปราสาท อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองบ้างจัง
แต่ตอนนี้ต้องขอตามเที่ยวในบล๊อกของ น้องณ มิตรไปก่อนแระ


ถ้าได้ไปเที่ยวช่วงซากุระบานคงสวยมากกก


โดย: jan_tanoshii วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:20:05:19 น.  

 
อยากไปเที่ยวปราสาทบ้างจัง ไปแต่โตเกียววิวไม่สวยเหมือนของ ณ มิตร เลย สงสัยต้องเสียเงินไปเองซะแล้ว


โดย: OH IP: 203.154.208.81 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:34:57 น.  

 
หนูเคยไปหลงในปราสาทด้วย น่าอายจังเลย แต่ตอนนั้นไปตอนดอกซากุระบานสวยมาก
แต่ตอนใบไม้เปลี่ยนสีก้อสวยไปอีกแบบ


โดย: Hashy IP: 203.113.45.197 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:18:36:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

namit
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Jazza Silhouette's Blog


เพียงฟ้าจดดิน...

๏ เพียง ลำพังเที่ยวทั้ง....พสุธา
ฟ้า ขอบเขตข้ามมา.......หมดสิ้น
จด จำเรื่องผ่านตา.........มาบอก
ดิน ติดเกือกปาดปลิ้น.....เก็บไว้ในโหล๚




สำหรับพวกชอบมาสาย
จะดู เปิดหมวก

Click ตรงนี้...





เติมหลังไมค์ไว้ใน Blog...
ทำยังงัย???
เฉลยอยู่นี่จ้า...

Special Guest...
Be Tickled by Tinglish
Doctor Manta
กำปงพิราเทวี
ป้าหนอน
มัชฌิมา
แมงปอ
อัยคุง

(เรียงตามลำดับความสั้น...)
อิอิ...




เปลี่ยน เป็น
Code โดย คุณชาเขียว ครับ...


v v v
v v
v
[ เก็บบล็อก ผีคิวฯ ♥ ผีเหม่ง ไว้ในอ้อมใจ ]
^
^ ^
^ ^ ^

CopyLeft @ May 2005
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add namit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.