ด่านที่ 2 : เอกสารยื่นขอวีซ่ามีอะไรบ้าง

เอกสารของผู้สมัคร

1. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ พื้นหลังสีขาว : จะรวบหรือไม่รวบผมก็ได้ พื้นหลังสีขาวคือต้องขาวจริงๆ แต่ทางที่ดีควรถามสตูดิโอถ่ายรูปก่อนว่ารับถ่ายรูปทำวีซ่าไปอังกฤษหรือเปล่า จะได้เข้าใจตรงกันว่าเราถ่ายเฉพาะกิจ
2. Passport ตัวจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด : ถ้ามีเล่มเก่าให้เอาไปด้วย และอายุ passport ไม่ควรต่ำกว่า 6 เดือน
3. สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นรับรอง 1 ชุด เตรียมตัวจริงไปด้วย
4. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรอง 1 ชุด เตรียมตัวจริงไปด้วย
5. Transcript ตัวจริงและต้องเป็นภาษาอังกฤษ
6. จดหมายรับรองคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยว่าสำเร็จการศึกษาตัวจริง
7. ใบรับรองการตรวจร่างกายจาก IOM : ต้องไปทำเอง เดี๋ยวหัวข้อถัดไปจะเล่าอีกทีว่าต้องทำยังไงบ้าง
8. ใบเปลี่ยนชื่อตัวจริงและสำเนาพร้อมเซ็นรับรอง 1 ชุด

เอกสารเพิ่มเติม ถ้าสามารถหามาได้จะดีมากๆ

1. ใบรับรองจากสถาบันสอนภาษาที่เคยเรียนภาษาอังกฤษตัวจริง เป็นภาษาอังกฤษ
2. หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบัน และ/หรือ หนังสือรับรองการทำงานที่เกี่ยวข้องกับคอร์สที่ลงเรียน เป็นภาษาอังกฤษ
3. Statement ย้อนหลัง 6 เดือน : ถ่ายเอกสารหน้าสมุดบัญชีแล้วเซ็นรับรองหรือเอาสมุดบัญชีฉบับจริงไปยื่นเลยก็ได้
4. โฉนดที่ดินที่เป็นชื่อของเราฉบับถ่ายเอกสาร พร้อมเอกสารการประเมินราคาจากกรมที่ดินตัวจริง เป็นภาษาไทยไม่ต้องเอาไปแปล อย่าลืมเซ็นรับรองฉบับถ่ายเอกสารด้วย ข้อนี้เราว่ามีผลช่วยได้มากเลยแหล่ะ ถ้ามีก็ยื่นๆ ไปเถอะ ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ถ้าฉบับไหนยังมีภาระผูกพันกับทางธนาคารอยู่ก็อย่ายื่นเลย

-----------------------------------------------------------------------------

เอกสารของสปอนเซอร์

1. จดหมายรับรองฐานะทางการเงินที่ธนาคารออกให้ : เป็นเอกสารหน้าเดียว ที่ระบุชื่อสปอนเซอร์ และชื่อนักเรียน พร้อมหมายเลขบัญชีและยอดเงินในบัญชี ถ้าเป็นของ ธนาคารกรุงเทพเค้าจะคำนวณด้วยว่าเงินของเราเท่านี้คิดเป็นเงินปอนด์ได้เท่าไหร่ ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นอย่าลืมถ่ายเอกสาร passport ของนักเรียนให้ธนาคารด้วย จะได้สะกดชื่อได้ตรงกัน ถ้าขอในกรุงเทพที่สำนักงานใหญ่วันเดียวได้เลย แต่ถ้าขอจากต่างจังหวัดต้องรอประมาณ 2-3 วัน
2. Staement ย้อนหลัง 6 เดือน : ถ่ายเอกสารหน้าสมุดบัญชีที่จะใช้ support แล้วเซ็นรับรองทุกหน้า
3. สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นรับรอง 1 ชุด
4. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรอง 1 ชุด
5. ใบรับรองการทำงาน(ตัวจริง) หรือใบจดทะเบียนการค้า(สำเนา) สำหรับเจ้าของกิจการ
6. จดหมายรับรองว่าจะ support นักเรียน เป็นภาษาอังกฤษ

เอกสารเพิ่มเติม(ถ้ามีก็ดี)

1. โฉนดที่ดินพร้อมใบประเมินราคาตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด : ยิ่งเยอะยิ่งดี
2. กรมธรรมประกันชีวิตตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด : ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ตัวจริงหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้ยื่น
3. พันธบัตรรัฐบาลตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
4. หลักฐานการถือหุ้นต่างๆ
5. ใบรับรองความสัมพันธ์และรับรองศักยภาพทางการ support จากทนายพร้อมสำเนา 1 ชุด

แล้วก็จะมีเอกสารที่เรียกว่า VAF3 เป็นเอกสารสอบถามข้อมูลทั่วๆ ไป ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลของสปอนเซอร์ ข้อมูลโรงเรียนและคอร์สเรียน ก็กรอกไปตามข้อมูลที่มีอยู่ให้สัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ที่เราจะไป

ส่วนอีกอันคือ Student of Purpose เป็นหนังสือที่เราต้องแต่งเองเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ บรรยายสรุปเกี่ยวกับตัวเราเอง ทั้งเรื่องเหตุผลและวัตถุประสงค์ที่ต้องการไป รวมถึงความสัมพันธ์กับสปอนเซอร์และ statement อื่นๆ ด้วย ไม่จำเป็นต้องมีทุกคน แต่ถ้ามีจะดีมากๆ เพราะบางที VAF3 อาจจะถามไม่ครอบคลุม เราอาจจะเม้าท์ไม่ถนัด ก็เขียนลงในนี้แหล่ะ บางทีเอกสารเยอะๆ ทำไว้ให้สถานฑูตอ่าน เค้าจะเข้าใจเรื่องราวของเราได้มากขึ้น

เอกสารมีเกินไม่เป็นไร แต่ถ้ามีไม่ครบจะโดนเรียกให้ส่งเพิ่มอีก ดีไม่ดีโดนสัมภาษณ์ด้วย แต่มีเยอะแล้วไม่ผ่านก็มีเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับทาง Embassy ว่าเค้าพิจารณายังไง

-----------------------------------------------------------------------------

จะประเมินราคาโฉนดที่ดินได้ที่ไหน?
- ที่กรมที่ดินที่สังกัดอยู่ การยื่นคำร้องเจ้าของที่ดินต้องไปยื่นเอง หรือมอบฉันทะ(ต้องมีเอกสารมอบฉันทะด้วย) โดยต้องเตรียม โฉนดที่ดินฉบับจริง, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และค่าธรรมเนียมในการประเมิน ถ้าเป็นที่กรุงเทพ แค่ 15 นาทีก็เสร็จ แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดก็รอนานหน่อย ประมาณครึ่งวัน เท่าที่รู้ตอนนี้ต่างจังหวัดประเมินเฉพาะราคาที่ดินไม่รวมตัวบ้าน แต่ที่กรุงเทพจะประเมินรวมด้วย ส่วนราคาประเมินอาจจะต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงเยอะอยู่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ

Create Date : 08 เมษายน 2551		2 comments
Last Update : 8 เมษายน 2551 22:53:38 น.
Counter : 3170 Pageviews.
Share Tweet