สวัสดีค่ะ สาวๆ วันนี้เราจะมาแบบวิชาการกันหน่อยเนอะ
เพราะกิ๊บจะชวนมาคุยกันเรื่องการฉีด Botox กันค่ะ
อยากให้สาวๆเข้าใจ และรู้ถึงรายละเอียดก่อนว่าการฉีด Botox คืออะไร
เพราะยังไง มันก็มีรายละเอียดและมีความอันตรายอยู่อ่าเนอะ
รู้ไว้ก่อน ดีกว่าจะสายเกินแก้นะคะ

ปัจจุบันสาวๆก็หันมาสนใจเรื่องการแก้ไขเสริมความงามที่คลินิคผิวหนังกันมากขึ้น
เพราะว่ามันเห็นผลได้รวดเร็วกว่าการบำรุงผิวภายนอกด้วยครีมบำรุงใช่มั้ยคะ
อย่างเรื่องริ้วรอยบนใบหน้านี้ก็เหมือนกัน เป็นปัญหาที่กิ๊บเชื่อว่า
สาวๆทุกคน ไม่มีใครที่จะอดกังวลเรื่องนี้ไม่ได้
ยิ่งพออายุเริ่มเข้าช่วง 20 ตอนปลาย ริ้วรอยเริ่มมา
ผิวหน้าไม่กระชับเหมือนที่เคยเป็น
จะทาครีมแก้ไข ก็ดูใช้เวลานานเหลือเกิน
ปัจจุบัน ก็มีวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยให้สวยได้ง่ายขึ้น รวดเร็ว เห็นผลทันตา
ก็คือการฉีด Botox นั่นเองค่ะ

ข้อมูลที่ได้ มาจากข้อมูลที่อ่านมาจากตำราแพทย์เอง ประสบเอง
และได้ข้อมูลเสริมจาก //www.yasashiijapan.com
www.nitiponclinic.com  ขอขอบคุณมา​ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ




สาร Botox คืออะไร???

จริงๆแล้ว Botox เป็นชื่อการค้าค่ะ ย่อมาจากชื่อจริงของสารที่มาฉีดที่ชื่อว่า
Botulinum Toxin A ซึ่งจริงๆแล้วเป็นสารพิษที่สกัดมาจาก
เชื้อ Clostridium botulinum
ปัจจุบันมีชื่อการค้าอีกหลายยี่ห้อ แต่ที่เรียกกันจนติดปากและเข้าใจตรงกัน
เลยเรียกว่า botox กันยังงี้ค่ะ



Botox ทำงานยังไง???

สาร Botulinum Toxin มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารเคมีบริเวณที่ฉีด
ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหรือต่อมเหงื่อ ทำให้บริเวณนั้นมีการทำงานลดน้อยลง
ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว




Botox สามารถฉีดที่บริเวณไหนได้บ้าง???

โบท็อกซ์มาใช้สำหรับการลดรอยย่นของผิวหนัง เช่นรอยย่นเวลาขมวดคิ้ว เพราะเมื่อกล้ามเนื้อหดตัวแล้ว เวลาขมวดคิ้วกล้ามเนื้อจึงไม่จับกันเป็นก้อนนูนออกมา และยังสามารถช่วยในการปรับแต่งรูปหน้าได้ เช่น ยกคิ้ว ยกมุมปาก ลดปีกจมูก
และสามารถเอามาฉีดลดการทำงานของต่อมเหงื่อได้ เช่นบริเวณรักแร้
ในคนที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวและเหงื่อออกมากค่ะ






Botox แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง???

              เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมและใช้มานานที่สุด
เพื่อการรักษาริ้วรอยลึกต่างๆบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์
ไม่ว่าจะเป็นรอยที่เกิดจาการขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว เลิกหน้าผากเป็นประจำ
การฉีด Botox จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว
ซึ่งถ้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้ง
ริ้วรอยนั้นก็จะหายไปอย่างถาวร

ระงับเหงื่อที่ใต้วงแขน
              ถือเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ได้ผลดี มีความปลอดภัยสูง
โดยฉีด BTX เข้าบริเวณใต้ผิวหนังที่มีเหงื่อออกมาก
โดย BTX จะออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งของสารเคมี Acetycholine
ที่กระตุ้นการหลั่งของเหงื่อบริเวณต่อมเหงื่อใต้รักแร้
ช่วยลดปริมาณของเหงื่อได้ถึง 83%

ลดขนาดน่อง
จะเป็นลักษณะของการคลายกล้ามเนื้อเช่นเดียวกับการรักษาในจุดอื่นๆ
จะทำด้วยการฉีด BTX เข้าบริเวณน่องเมื่อมีการเกร็งขา
BTX จะลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว
น่องจึงค่อยๆเรียวเล็กลงตามธรรมชาติ
ไม่ต้องเจ็บตัวด้วยการผ่าตัดหรือดูดไขมัน

ปรับรูปหน้า
การรักษาด้วยวิธีนี้เป็นที่สนใจของสาวๆ เป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ต้องบอกก่อนเลยว่าการฉีด BTX เพื่อปรับรูปหน้านั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อ
รูปหน้าไม่ได้สัดส่วนอันเกิดจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ
มิใช่เกิดจากโครงกระดูก เพราะการทำงานของ BTX จะมีผลต่อกล้ามเนื้อ
ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นทำงานน้อยลง
รูปหน้าจึงค่อยๆปรับเรียวขึ้น จะเห็นผลที่ค่อนข้างชัดเจนใน 1 เดือน
และต้องฉีดซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง จึงจะได้ผลถาวร




จะเห็นผลหลังการฉีด Botox เมื่อไหร่???

โดยทั่วไปการฉีด Botox จะเห็นผลภายใน 2-3 วัน เห็นผลสูงสุดภายใน 7 วัน
แต่ถ้าเป็นการใช้ BTX เพื่อการปรับรูปหน้าหรือน่องนั้น จะเห็นผลในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน  ผลของ BTX จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและควรรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
สามารถฉีดซ้ำได้เรื่อยๆ เมื่อ Botox หมดฤทธิ์ในตำแหน่งเดิม




Botox ดีกว่าศัลยกรรมยังไง???

เพราการฉีด Botox ง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ฉีดเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้เลย ถ้าฉีดที่บริเวณใบหน้า
จะมีรอยเข็มเล็กๆแทบมองไม่เห็นแค่ประมาณ 1-2 วันและ
สามารถแต่งหน้าต่อได้ทันทีหลังการฉีด
บางครั้งอาจะมีรอยฟกช้ำได้บ้างถ้าเป็นคนผิวบางและมีเส้นเลือดมาก
แต่ก็จะจางไปเองภายในสามวัน
ราคาประหยัดกว่าการผ่าตัด ราคาในการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3000-20000 บาท




Botox มียี่ห้ออะไรบ้าง???

ในประเทศไทยตอนนี้ มี Botox ที่ถูกกฏหมายและใช้ในโรงเรียนแพทย์แค่ 3 ยี่ห้อ

1. ฺBotox หรือ Allergan สัญชาติ อเมริกา





2. Dysport สัญชาติอังกฤษ



3. Neuronox สัญชาติเกาหลี







Botox แต่ละยี่ห้อต่างกันยังไง???

ทั้งสามยี่ห้อได้รับรองความปลอดภัยเหมือนกัน แต่ Allergan ของอเมริกา
เป็นตัวแรกที่มีการผลิตจำหน่าย และมีเอกสารวิจัยทางการแพทย์รับรอง
ความปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้ Allergan ได้มีวิจัยรับรอง
ไม่ทำให้เกิด Antibody หรือสารที่ร่างกายผลิตเพื่อต่อต้านเชื้อ Botox
ในขณะที่ยี่ห้ออื่นยังไม่มีผลการวิจัยรับรองค่ะ

ส่วนตัวกิ๊บเคยฉีด Botox เฉพาะที่บริเวณหน้าผาก
ยาที่เคยฉีดจะเป็น Allergan ของอเมริกาและ Neuronox ของเกาหลี
ส่วนตัว รู้สึกว่า Allergan ออกฤทธิ์อยู่ได้นานกว่า ประมาณ 6เดือน
แต่ Neuronox อยู่ได้ประมาณ 2 เดือนเริ่มคลายค่ะ
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ



ฉีด Botox ต้องเตรียมตัวยังไง???

ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษค่ะ แต่กิ๊บแนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้าไปที่คลินิค
ไปหน้าเปล่าๆเลยเพื่อความสะอาด เวลาฉีดแพทย์จำทำความสะอาดจุดที่จะฉีด
เพื่อป้องกันการติดเชื้ออยู่แล้ว แต่ว่าหน้าที่ไม่มีเครื่องสำอางค์
ก็เป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออยู่ดีนะ

ห้ามรับประทานยาลดการอักเสบ หรือแอสไพริน ก่อนการฉีดยา 1 อาทิตย์
ควรหยุดรับประทานวิตามิน โดยเฉพาะ วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย
และสมุนไพรร้อน เช่น โสม ก่อนการรักษาประมาณ 2-3 วัน
เพราะว่าอาจะทำให้เกิดปัญหาเลือดหยุดยากได้ค่ะ


วิธีการฉีด Botox ต้องทำยังไง???

แพทย์จะทำการตรวจและเลือกบริเวณที่เหมาะสมในการฉีดยา
ส่วนใหญ่จะฉีดโดยเข็มที่เล็กมากๆ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการฉีดยาชาก่อน
แต่ว่าอาจจะทายาชา EMLA บางๆที่หน้า
ข้อดีคือ ไม่เจ็บแน่ๆ
แต่ข้อเสียคือ ต้องรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 1 ชั่วโมง
และยาชาทาแล้วจะแสบหน้านิดๆค่ะ

บางครั้งแพทย์เลยจะฉีดโดยไม่ทายาชาก่อน คือ ใช้น้ำแข็งประคบเย็น
บริเวณที่จะฉีดเพื่อให้เกิดอาการชาแล้วฉีดเลย

ขอบอกว่ากิ๊บฉีดแบบใช้น้ำแข็งประคบเลย มันไม่ค่อยเจ็บหรอกจ้า
แค่เจ็บนิดเดียวตอนเดินยา ไม่เสียเวลาดีด้วยนะ




หลังฉีด Botox ต้องทำยังไง???

ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ ไม่มีแปะแผล ไม่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ
สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องหลบแดด
อ้อ แต่ถ้าฉีด Botox ลดกราม ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้ยากระจายตัวดีขึ้น
ประมาณ 15 นาทีหลังจากฉีด botox
ถ้าฉีด botox ลดขนาดขา ต้องงดใส่ล้นสูง 1 อาทิตย์ค่ะ

นอกจากนี้มีข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดอีกนิดหน่อย ตามนี้ค่ะ
1. ห้ามนอนราบ 3 ชม. หลังทำ เนื่องจากตัวยาอาจกระจายออกนอก
ตำแหน่งที่ฉีด ทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ
2. ห้ามนวดบริเวณที่ฉีดเพราะทำให้ยากระจายตัวไปที่กล้ามเนื้อรอบดวงตาได้
3. หากมีรอยช้ำหลังฉีด ประคบเย็นที่บ้านต่อ ไม่ให้นวด หรือประคบอุ่น
4. ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 อาทิตย์แรกซึ่งอาจจะมีผลทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ไม่ดี หรืออาจแย่ไปกว่านั้นอีกก็คือ
    ทำให้เกิดริ้วรอยแผลบริเวณตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์
5. ช่วงเดือนแรกงดเว้นการนวดหน้าแรงๆ หรือ การทำ treatment ร้อน
เช่น RF, การซาวน่า <<< สำคัญมากๆ
6. สำหรับผู้ที่ฉีดหน้าเรียว ควรงดเว้นการเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออาหารเหนียวๆ
 เพราะจะทำให้ยาหมดฤทธิ์เร็วกว่าที่ควร
7. หลังฉีดควรกลับมาพบแพทย์เพื่อดูอาการต่อไปอีก 1 อาทิตย์
หากมีข้อสงสัย หรือมีอาการผิดปกติอย่างใด ควรรีบพบแพทย์ทันที

ใครห้ามฉีด Botox บ้าง???

ไม่สามารถทำได้ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร  ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาท  และผู้ป่วยที่ได้รับยาบางประเภท เช่น Aminoglycoside, Penicillamine และ Calcium Chanel Blocker


ผลข้างเคียง และข้อควรระวังในการฉีด Botox???

จริงๆการฉีด Botox มีผลข้างเคียงที่น้อยมากๆนะคะ
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน
สถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น
เพราะหากฉีดกับหมอเถื่อน เจอยาปลอม ผลข้างเคียงเยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ
ที่สำคัญ ถ้าฉีดผิดตำแหน่ง อาจมีโอกาสเจอปากเบี้ยว ตาเบี้ยว ปิดตาไม่ได้
แบบที่เป็นเหมือนในข่าว




จบแล้วค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆที่กำลังสงสัย
หรือสนใจการฉีด Botox ได้บ้างนะคะ
ถ้ายังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ถามมาได้ที่ //www.facebook.com/supergibzz นะคะ

แล้วตอนหน้า กิ๊บจะเอาผลการฉีด Botox ที่บริเวณหน้าผาก มาให้ดูกันค่ะ

ขอบคุณสาวๆทุกคนที่ติดตามนะคะ





ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link ด้านล่างด้วยนะค้า
มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า

SuperGiBZz

Promote Your Page Too