Valentine's Day History
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์
เจี๋ยบขอให้เพื่อนๆ ชาว Bloggang
มีความสุข มีความรักที่สมหวังตลอดไปค่ะ
เจี๊ยบพูดคุย
ตำนาน วาเลนไทน์ ทำไม ? วันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก
ต้องเป็น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ อยากรู้ วันวาเลนไทน์คืออะไร ?
และเกิดขึ้นได้อย่างไร?วาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักทำไม
ต้องเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นคำถามที่น่าสงสัยใช่ไหม มีเ
กร็ดความรู้เรื่อง วันวาเลนไทน์ มาฝากติดตามชมได้เลย วาเลนไทน์
(Valentine) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์วาเลนไทน์
(Saint Valentine)ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนา
ดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงแต ่เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการ
รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อ
ประมาณ 1,728 ปีล่วงเลยมาแล้ว ในจักรวรรดิโรมัน
| |
|
|
|
|
|
ประวัติวันวาเลนไทน์
ประวัติความเป็นมาของเรื่องนี้ เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3
มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มี
ความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มาก โดยทุก ๆ วัน
เขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็น ไปวางไว้ประตูหน้า
บ้านของคนยากจนโดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้น
นะคะ ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมัน
และถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมีความผิดร้ายแรง
มาก พวกคริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนัก
เพื่อบังคับให้เลิกเป็นคริสเตียน ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือ
คริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัส ก็รวมอยู่ในกลุ่ม
ขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมานบังคับให้เลิกนับถือศาสนา
คริสต์ แต่เขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุก ในข้อหาเป็นคริสเตียน
ในขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น ก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอ
เป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษ
ฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาซึ่ง
เธอตาบอด หายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุม
และครอบครัวของเขาหันมานับถือศาสนาคริสต์ เมื่อความนี้
นี้เองรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก
สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัส อย่างหนักด้วยการโบยและนำไป
ประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะ
ถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ เป็นการ
อำลาส่งไปให้หญิงคนรัก ของเขาและลงท้ายในจดหมายว่า
"จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะและเอาศพไปฝัง
ไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อม
สุสานของเขาไว้เพื่อเป็น อนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอัน
ยิ่งใหญ่ของเขา คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขาจึงยึดถือ
เอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษา
อังกฤษเรียกว่า Saint Valentine's Day หรือ Valentine'sDay
หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและ
อเมริกา และเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย
ทำไม วันวาเลนไทน์ ต้องให้ดอกกุหลาบด้วยนะ
ด้วยความที่กุหลาบมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว จึงทำให้
ความสวยงามของดอกและกลิ่นอันชวนพิสมัยของราชินี
แห่งดอกไม้นี้เป็นที่เลื่องลือมาช้านาน และล้วนกล่าวถึงความ
งามเป็นสื่อที่แสดงถึงความสุข ความมีไมตรีจิต ความน่ารัก
ความสวยงาม การบูชา และการเกี้ยวพาราสี ดังนั้น กุหลาบ
จึงเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความรัก และความอมตะจนมี
ตำนานกล่าวขานกันต่าง ๆ นานา ตั้งแต่สมัยกรีก ตำนาน
เล่าว่า "คลอรีส" เทพธิดาแห่งดอกไม้ ได้บันดาลให้ร่างของ
นางไม้กลายเป็นกุหลาบ และยกให้เป็นราชินีของดอกไม้
จากนั้นต่อมาก็มีการมอบดอกกุหลาบแก่ "อีรอส" ลูกชาย
ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก ส่วนในศาสนาคริสต์เชื่อกันว่า
ในสมัยที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนอยู่นั้น พระโลหิตได้
ไหลหยดลงบนต้นหญ้ามอสส์และได้บังเกิดเป็นต้นกุหลาบ
ที่มีดอกสีแดงสด จึงมีการเรียกขานกุหลาบชนิดนี้ว่า
"กุหลาบมอสส์" นอกจากนี้ยังมีการสู้รบกันระหว่าง 2 ตระ
กูลใหญ่ คือราชวงศ์ยอร์ค ซึ่งใช้สัญลักษณ์เป็นดอกกุหลาบ
ขาว และราชวงศ์แลงแคสเตอร์ ใช้ดอกกุหลาบแดงเป็น
สัญลักษณ์ และได้เรียกสงครามครั้งนี้ว่า "สงครามกุหลาบ"
ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 1948-2028 และในสมัยต่อมาพวกกุหลาบ
แดงได้มาแต่งงานกับพวกกุหลาบขาว ซึ่งในปัจจุบันกุหลาบ
ได้ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของชาวอังกฤษ นี่แหละค่ะถ้า
ทุกคนมีความรักให้แก่กันแล้วโลกจะสงบสุขแน่นอนค่ะ
ของพระมหาธีราชเจ้า รัชกาลที่ 6 ในเรื่อง "มัทนะพาธา"
หรือ "ตำนานดอกกุหลาบ" ซึ่งได้ปรากฏชัดว่าดอกกุหลาบได้
กลายเป็นดอกไม้ที่นิยมไปทั่วโลกเรามาย้อนอดีต...กุหลาบ
ราชินีแห่งบุปผชาติกันดูไหมด้วยความโดดเด่นของรูปโฉม
อันพิลาส กอปรกับกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์เย้ายวนชวนให้น่าหลง
ไหล กุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมมาตั้งแต่อดีตกาล โดยสัน
นิษฐานว่า กุหลาบถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัย Taceous หรือเมื่อ
ประมาณ 40 ล้านปีมาแล้วโดยดูได้จากซากฟอสซิลที่ขุดพบ
โดยนักวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่น
ชัดแน่นอนจะอยู่ในราว 5,000 ปีที่ผ่านมาค่ะ ตั้งแต่สมัย
สุเมเรียน (Sumerians)โดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ขุด
ค้นพบน้ำที่มีกลิ่นกุหลาบในหลุม ศพของกษัตริย์ในสมัยนั้น
นอกจากนี้ยังค้นพบเครื่องประดับของชาวสุเมเรียน ซึ่งมีรูป
ทรงเป็นดอกกุหลาบทำด้วยทองคำ
แต่ในบางแหล่งได้กล่าวไว้ว่า กุหลาบมีกำเนิด ณ เทือกเขา
คอเคซัส ประเทศเปอร์เซีย หรืออิหร่านในปัจจุบันและมีชื่อ
เรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า "คุล" Gol หรือ Gul ซึ่งแปลว่า ดอกไม้
และคำว่า "คุลาพ" หมายถึง กุหลาบอย่างที่คนไทยเราเรียกกัน
สำหรับประเทศไทยไม่ทราบแน่ชัดว่า มีกุหลาบมาตั้งแต่สมัย
ใด หากแต่มีการบันทึกของราชทูตฝรั่งเศส ในสมัยสมเด็จพระ
นารายณ์มหาราช ว่าได้เห็นดอกกุหลาบอยู่ในกรุงศรีอยุธยา
และอีกหลายแห่งที่ปรากฎหลักฐานว่า มีกุหลาบเข้ามาเมืองไทย
แล้วก็คือ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์
ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ที่ได้กล่าวถึงความงามของดอกกุหลาบไว้
| |
|
|
|
|
|
ความหมายของสีกุหลาบ
รูปร่างและสีสันของดอกกุหลาบ...แปลความหมายได้
ดอกกุหลาบนั้นทั้งลักษณะและสีสันของมันสามารถสื่อ
ความหมายถึงคนที่เรามอบให้ ได้ว่าอย่างไร ที่เราทุกคน
เรียกมันว่า "ภาษาดอกไม้" อย่างไรไงคะ เรามาดูกัน
เลยนะคะว่าดอกกุหลาบแต่ละแบบ แต่ละสี
สื่อความหมายไว้ว่าอย่างไรกันบ้าง
กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา
เป็นดอกไม้ของคิวปิดและอีรอส (คุณกามเทพไง) เป็น
สิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์
ความเงียบสงบ นำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับ
ดอกกุหลาบแดง
กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่าง
สมบูรณ์ที่สุด
กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรง
และยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่ ความอ่อนหวาน สดชื่น
เป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคุณคงหายสงสัยแล้วนะคะว่า
ทำไมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีจึงเป็นวันวาเลนไทน์
และทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันนั้น อ้อ ประเพณีของ
หนุ่ม-สาวชาวอาทิตย์อุทัย หรือชาวญี่ปุ่นนั่นเองจะแตกต่าง
กับ ชาติอื่น ๆ คือในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือ วันวาเลนไทน์
สาว ๆ จะเป็นคนให้ ช็อกโกเลต (Chocolate) รูปหัวใจขนาด
เล็ก-ใหญ่แล้วแต่ความชอบน้อย-มาก ตัวเองทำเองแก่หนุ่ม ๆ
ที่เธอชอบ เรียกว่าวันนั้นหนุ่ม ๆ ยิ้มกันแก้มปริกันเป็นแถว
เลย หลังจากวันนั้นอีกหนึ่งเดือนคือวันที่ 14 มีนาคมหนุ่ม ๆ
ก็จะมอบดอกกุหลาบ เพื่อเป็นการขอบคุณสาวผู้ให้
ข้อมูลจากนิตยสาร ผาสุก , 108 ซองคำถามของนสพ.สารคดี
| |
|
|
|
|
|
Unchained Melody
Whoa! My love, my darling,
I hunger for your touch,
Alone. Lonely time.
And time goes by, so slowly,
And time can do so much,
Are you still mine?
I need your love.
I need your love.
God speed your love to me.
Lonely rivers flow to the sea, to the sea,
To the open arms of the sea.
Lonely rivers sigh, wait for me, wait for me,
I'll be coming home, wait for me.
Whoa! My love, my darling,
I hunger, hunger!, for your love,
For love. Lonely time.
And time goes by, so slowly,
And time can do so much,
Are you still mine?
I need your love.
I need your love.
God speed your love to me.
Unchained Melody
| |
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
| | | |
|
สวัสดี วันวาเลนไทน์ น่ะค่ะ
ขอมอบของขวัญให้เพื่อนๆ
ชาว Bloggang ทุกคนน่ะค่ะ
ขอให้มีความรักที่สุขสมหวัง
February 6,2007
รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)