Group Blog
 
All blogs
 

For me, you are perfect I ( Inside )

โอววว ห่างหายไปนาน ตัวขี้เกียจมันขี่คออยู่ แต่งบ้านเสร็จเป็นปีแล้ว เพิ่งจะมาอัพบล๊อก ( จริงๆ ยังไม่เสร็จหรอก แต่ไม่อยากซื้ออะไรเข้าบ้านแล้ว รวมบิลแล้วมันหนาว บรื๋ออออ )

ตั้งชื่อบล๊อกซะเว่อร์ จริงๆ แล้วแค่จะบอกว่า บ้านนี้อาจไม่ดีไม่สวย ไม่ถูกหลักการออกแบบสักเท่าไหร่ แต่ในสายตาเรา บ้านนี้เต็มนะ เต็มอิ่ม เต็มตังค์ เจ้าของบ้านพอใจก็พอแระ อิ อิ

วันนี้มาอัพให้เสร็จกันก่อนดีกว่า เฉพาะในตัวบ้านนะ ก่อนจะลืมๆ รายละเอียดไป จริงๆ ก็ลืมหมดแล้วง่า มันนานแล้ว

เริ่มจากหน้าบ้านกันเลยดีกว่า ภาพที่เห็นเป็นภาพที่รวมไว้หลายๆ ทีนะจ๊ะ ทั้งกล้องตัวเอง ถ่ายเก็บไว้เรื่อยๆ แล้วก็จากช่างภาพงานแต่งเรา (แต่งงานที่บ้านหลังนี้อ่ะจ้ะ) ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่บางภาพออกมาเทพ แต่บางภาพ ... อิ อิ






หน้าบ้าน น่ามอง อันนี้มีพระท่านมาเจิมให้วันแต่งงาน ทำพิธีให้เสร็จไปทีเดียว





หน้าบ้าน เค้ามีงานเลี้ยงง่า




ขอบคุณคร๊าบบ




หมดแระ รูปสวยๆ มาดูในบ้านกันบ้างนะ

ด้านหน้าประตูเลย จากเดิมโล่งๆ ทาสีใหม่ วางโต๊ะลิ้นชักไว้ด้านหน้าวางพวงกุญแจ และใบหนี้สินทั้งหลาย ฮ่า ๆ





ถ้ดมาจากเดิมเป็นแพนทรีปาติเคิลที่โครงการทำไว้ให้ รื้อออก ทำใหม่เอาไว้ทำขนม ด้านบนกรุหินสังเคราะห์สีคริสตัลไวท์ ด้านในเคาน์เตอร์บิวท์เตาอบของ fagor

ดูของเดิมๆ เทียบกับของใหม่




ผนังด้านหลังติดวอลล์นำเข้าจากเกาหลี จากอินเด็กซ์จ้ะ อันนี้ถ่ายจากห้องกินข้าว



ดูหลายๆ มุม แพนทรีกรุหินสังเคราะห์ดีมากสำหรับการทำขนมปัง นวดบนเคาน์เตอร์ได้เลย ทำความสะอาดก็ง่าย แต่ต้องทำทันทีห้ามขี้เกียจทิ้งไว้นะ



ตอนกลางคืน



ดูห้องกินข้าวกันบ้างนะ นี่ภูมิใจมาก ตอนมันสะอาดๆ





ดูกันใกล้ๆ



เก้าอี้ไปสั่งทำจากร้านที่จตุจักรฝั่งตรงข้ามอตก ตัวละสองพันห้า แต่ฝีมือมะค่อยดีเท่าไหร่ เอามาสั่งวันแรกยังไม่ทันแกะพลาสติก หลานสาวตัวอวบๆ นั่งอยู่ดีๆ มันหักซะงั้น เลยต้องส่งไปปรับความแข็งแรง

แต่ที่ชอบมาก ชอบเบาะรองนั่ง ฝนว่ามันทำให้ดูอ่อนหวานขึ้นจมเลย ผ้าหุ้มเบาะจากร้าน catherine hyde ร้านนี้เค้าขายของอิงลิชคันทรีแท้ๆ ราคาสูงนิดนึงแต่ไม่หลุดตีมแน่นอน อันนี้หลาละสองพันสี่ เอิ๊กๆ



แต่คุ้มค่านะ ซื้อมาเมตรนึง ทำเบาะได้สี่อัน ส่วนเบาะไปจ้างร้านรับทำเบาะทั่วไปทำ ส่วนปลอกเบาะ ตอนนั้นยังไม่มีจักร ก้อไปจ้างร้านเย็บปะทั่วไปทำ แต่วาดแบบให้เค้าหน่อย



ถัดมาอีกนิดเป็นโต๊ะวางจักรค่ะ ตัวขาโต๊ะซื้อขาจักรเก่าจากจตุจักร สามพันบาท แต่ขาลายสวยใช้ได้เลย แล้วคุณสามีก็จับมาทำความสะอาด ขัดๆ สนิมออก พ่นสีก้านมะลิ แล้ววางท๊อปที่เหลือจากการทำแพนทรี (ช่างมันวัดยังไงให้เหลือเนี่ย ตรม.นึงแพงนะเนี่ย) แน่นสนิทใช้ได้เลย จากภาพนี้ไม่มีจักร เพราะจักรดันไปวางบนโต๊ะกินข้าว แหะ แหะ ก็โต๊ะกินข้าวมันใหญ่ดี ทำงานผ้าสะดวกดีนิ



แว๊บกลับจากอดีตสู่วันนี้ วันที่โต๊ะกินข้าวไม่ได้ใช้กินข้าว แต่เอาไว้ทำงานผ้า แหะ แหะ ก็มันต้องการพื้นที่เยอะนิ กินข้าวหน้าทีวีก็อร่อยดีนะ อบอุ่นดีออก




อายเนอะ บ้านร๊กกกรก


มองจากโต๊ะกินข้าวไปส่วนห้องนั่งเล่นบ้าง โซฟาตัวนี้นั่งสบายมากกกก อาจไม่สวยไม่เด่นแต่เราชอบมาก ส่วนขาตัวแอลกว้างหนึ่งจุดห้าเมตรยาวสองเมตร เท่าเตียงเดี่ยวเลยอ่ะ เป็นที่สิงสถิตย์ส่วนตัวของเรา นายหญิงแห่งบ้าน อิ อิ ส่วนอีกด้านนึง ยาวรวมสามเมตรสามมั้ง นั่งสบายเหมือนกัน จริงๆ ไม่ชอบสีเขียว แต่ไม่ชอบสีน้ำตาลมากกว่า สีอ่อนๆ ก็กลัวเปื้อน มันไม่ practical เอาตุ่นงี้แหละดี แล้วค่อยคลุมด้วยผ้าลายดอกไม้ดีก่า



เฮ้ออ.. ดูแล้วเศร้า นึกถึงวันชื่นคืนสุข ตอนนี้อ่ะ บ้านรกมากกกก อิ อิ

ดูจากมุมบนบันไดบ้าง



ส่วนผนังวางทีวีเซาะร่อง ทำสีไม้ขัดเสี้ยน ให้มันดูธรรมชาติ (ไหมเนี่ย ) ผนังอีกด้านสีชมพู ตอนแรกกะทำไว้โชว์รูป ตอนนี้เปลี่ยนใจแระ เดี๋ยวเอาชั้นวางดีวีดีมาวางดีกว่า แต่ตอนนี้ยังหาแบบถูกใจไม่ได้ เอาไว้ก่อน ๆ



ชอบรูปนี้ง่ะ



จบจากห้องนั่งเล่นไปไหนต่อดีนะ ไปในครัวก่อนแล้วกัน จริงๆ เป็นส่วนที่เราใช้มากที่สุดในบ้านอีกเช่นกัน รักนะ เด็กโง่ จุ๊บุ จุ๊บุ ทุบๆ รื้อๆ ที่โครงการให้มาเพราะไม่แมทช์กะเตาแก๊สของเรา เราเลือกใช้เตาหัวเร่งของ Hooth โอ้ววว ไม่ผิดหวัง ไฟแรงได้ใจมาก ใช้กะทะเหล็กผัดผัก ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ นาทีเดียวเสร็จ ผักยังกรอบอยู่เลย ชอบๆ แต่มันแรงม๊ากกกมาก เวลาจุดอย่ายืนใกล้ ถ้าเผลอ ผมอาจไหม้ได้ฮ่ะ

ผนังครัวส่วนเตรียมอาหาร เราให้ช่างทำเซาะร่องอยากได้อารมณ์คันทรีนิดนึง ก็พอใจนะ อันนี้รูปถ่ายตอนเสร็จใหม่ ๆ ตอนนี้รกกว่านี้มาก ฮา



โอเค ย้ายก้นจากด้านล่างขึ้นข้างบนกันดีกว่า อืมม ไม่ค่อยมีรูปที่ถ่ายไว้เอง แต่มีรูปจากตากล้องงานแต่งเรา ตอนที่ซะมีต้องฝ่าด่านเพื่อนเจ้าสาว ให้พวกมันขู่กรรโชกทรัพย์ ฮ่า ฮ่า ชอบนะ ได้อารมณ์ดี ลองดูแล้วกัน ผนังนี้ทาสีเอง สีเขียวแอปเปิ้ล ตอนแรกว่าจะติดกรอบรูปไล่เรียงไป แต่ไปๆ มาๆ ขี้เกียจ

ปล. ทาสียากมากกก ผนังสูงมาก ทั้งต่อปลายแปรงทาสีกับไม้ถูพื้น ทั้งยืนบนบันได ยังทาได้ไม่ดี เอ๋ เค้าบอกไปหรือยังว่า สีภายในบ้านนี้ทั้งหลังเค้าทาเองน๊า



อีกรูป ถ่ายจากมุมล่าง



เหนื่อยแล้วง่ะ เมื่อไรจะหมดซักที

ขึ้นมาด้านบนมีสามห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่นแบบเล่นระดับ ฝนทำผนังทั้งผนังให้เป็นชั้นวางหนังสือ ทั้งการ์ตูนของเอ และหนังสือแต่งบ้าน อ่านเล่นของฝน







ผนังระหว่างห้อง ทำผนังไม้เซาะร่องติดบัวเหมือนหัวนอนที่คอนโด ด้านบนติดวอลล์ ลายนี้ชอบมากเพราะดูวินเทจและถูกมาก ซื้อจากบางกอกวอลเปเปอร์ ม้วนละเจ็ดร้อยห้าสิบเอง



ถ่ายแล้วดูวินเทจจริงๆ นะเออ




โอเค.. เกือบแระ เข้าห้องนอนกันเลยดีกว่า เปลี่ยนลามิเนตปูพื้นใหม่ ผนังส่วนดูทีวีทำผนังก่ออิฐโชว์แนวสีขาว ด้านซ้ายว่าจะเอาไว้วางโต๊ะแป้ง แต่ยังหาแบบถูกใจไม่ได้ เลยติดไฟกิ่งรอไว้ก่อนนะ




ผนังฝั่งหัวนอนติดวอลล์ด้านเดียว จาก good rich ร้านอยู่แถวเอกมัย กูเกิ้ลดูเองนะจ๊ะ ม้วนละสองพันห้าค่ะ



ดูกันหลายๆ มุม จัดปายย อันนี้ก่อนมีโซฟา





อีกมุม



อันนี้หลังจากไปถอยโซฟามาจากอินเด็กซ์ ถึงคุณภาพจะไม่ดีมาก แต่ก็โอเคพอใช้ได้ สีเข้ากับห้องดี ซื้อมาถือว่าใช้คุ้ม นั่งดูทีวีก่อนนอนทุกคืนเลยอ่ะ



หลายๆ มุม



อีกมุม ผ้าม่านมีสองชั้นนะจ๊ะ ชั้นแรกผ้าโปร่ง ซื้อมาสามเมตรร้อย แล้วไปจ้างเค้าเย็บแบบหูรูดเหมือนปลอกหมอนข้างง่ายๆ ส่วนชั้นที่สองเป็นผ้าไหมสีเลื่อมเหลือบเงินอมเทา พอมาซ้อนกันแล้วดูสวยมาก อันนี้ใช้ร้านผ้าม่านทั่วไป แบบตอกตาไก่ ทั้งห้องนี้มีห้าผืน เจ็ดพันบาทฮะ ติดตั้งเองนะ



ส่วนสุดท้ายแล้ว ส่วนวอล์คอินโคลเซ็ท ออกแบบเองจ้า จากตอนแรกโล่งๆ อย่างงี้



กลายเป็นจังซี้



แหะ แหะ รกยังงี้ยังมีหน้ามาโชว์อีก



สุดท้ายกับห้องน้ำที่ทำเพิ่มอีกนิดเดียว เปลี่ยนผนังกระเบื้องให้เป็นปูนขัดมันสีดำ กับกระจกใบใหญ่





วันนี้จบก่อนแล้วจ้า เดี๋ยวไว้หายเหนื่อยแล้ว จะมาโชว์สวนหน้าบ้าน ข้างบ้านและ DIY บางอย่างนะจ๊ะ






 

Create Date : 16 มีนาคม 2553    
Last Update : 16 มีนาคม 2553 16:24:56 น.
Counter : 8211 Pageviews.  

Lost in Paradise

Lost in Paradise ………………




I know that it might sound strange
But you made my seasons start to change
It happened so suddenly
Like heaven has waited up for me

I've just been looking so long
Kept meeting my Mr.wrong
In every model and every size
Now my fantasy
Is staring at your eyes

Sometimes you think I'm beautiful
But I don't know
I'll keep it to myself
You say it. It feels wonderful
My smile can show
I'm lost in paradise

The letters you wrote to me
Showed me the signs I've never seen
I thought every man I'd want
Falls out of a dating magazine

But now I know that with you
That was so far from the truth
On every page and every line
Now you've my everything
I guess you know how to read my mind

I know
I guess that it shows
The message that flows to me
Make it more worth than make believe




วันนี้ไม่มีเรื่องการตกแต่งบ้านมาให้อ่าน แต่เรื่องบ้านมาให้ฟัง ....



ไม่ได้ตั้งชื่อบล๊อกให้น่าหมั่นไส้ แค่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันไม่เกี่ยวกับวัตถุใดๆ มันเกิดกับหัวใจล้วนๆ



เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จู่ๆ ก้อเกิดมีความรู้สึกนี้ขึ้นมา เล่านิดนึงว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะมีงานดีๆ ที่บ้าน ทั้งๆ ที่บ้านอ่ะยังไม่เสร็จเล๊ยยย ของยังกองอยู่เต็มบ้านไปหมด สียังทาไม่เสร็จ มีสะเก็ดสีตามพื้น ผนัง วอลล์ยังไม่ติด เห้อออ แต่จำเป็นต้องมีงานดีๆ งานนี้ ฝนกับเอก็เลยต้องออกแรงกันตั้งแต่เก้าโมงเช้าวันเสาร์ เพื่อที่จะทำให้บ้านเข้ารูปเข้ารอย เอาเป็นว่า ฝนทำงานตั้งแต่เก้าโมงเช้า ยันสองทุ่ม ไม่มีหยุด แทบไม่ได้นั่งพัก ทำโน่นทำนี่ ทำความสะอาดบ้าน ทาสี เก็บสีที่เลอะ กวาดบ้าน ถูบ้าน จนช่างที่มาติดวอลล์ให้ถามว่า ทำไมพี่ขยันอย่างนี้ แต่อย่ากระนั้นเลยจนสองทุ่มบ้านก็ยังรกอยู่ แต่ฝนอ่ะ ไม่ไหวแล้ว เลยขอหลบคุณเอ กับน้องชายฝน ที่มาช่วยตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ ไปนอนในห้องนอน กะว่า ไม่เอาแล้วเฟ้ยย ช่างมัน บ้านไม่เสร็จอ่ะ จะจัดงานอะไรก็จัดไป ช่างหัวมันแล้ว ทำดีที่สุดแล้ว กะจะหลับงีบเดียว มาตื่นเอาตีหนึ่งครึ่ง เดินลงมาห้องนั่งเล่น โห.. เซอไพรซ์มาก บ้านเป็นบ้านแล้วอ่ะ ตั้งแต่ตอนเราหลับไป น้องชายกับแฟนเรา ทำบ้านสะอาดมากๆ พื้นเงาแว๊บ ของที่เคยรกหายไปหมดเลย (มันไปอัดกันอยู่ในห้องเก็บของ ฮ่า ฮ่า) โต๊ะกินข้าวที่เก็บไว้ในกล่องจนฝุ่นจับถูกนำมาประกอบ วางสะอาดอยู่กลางห้อง ราวม่านติดเรียบร้อย เคาน์เตอร์ในครัวมันกริ๊บบ ไม่เคยเห็นบ้านเป็นบ้านอย่างนี้มาก่อน ถอดรองเท้าเดินได้แล้วเฟ้ยยย



มองไปเห็นน้องชายกับแฟน นั่งอยู่ตรงโซฟา แล้วยิ้มให้เรา ตอนนั้นรู้สึกว่ามันตื้อๆ ในอก เรารู้สึกว่า โห ทำไมแฟนกับน้องเราดีอย่างงี้เนี่ย เค้าเห็นเราเหนื่อย เหนื่อยมากๆ จนเราต้องชัทดาวน์ตัวเองหนีไปซะอย่างงั้น แต่เค้าสองคนทำงานกันหนักมากตอนที่เราหลับ เพื่อให้งานพรุ่งนี้มันเดินไปได้ คือ ภาพบีฟอร์กับอาฟเตอร์มันคนละภาพเลย ทำให้เรารู้สึกตื้นตันว่า เราโชคดีนะ ไม่ได้โชคดีที่บ้านอย่างนี้ แต่โชคดีที่มีแฟนที่น่ารัก กับน้องชายที่แสนดีอย่างนี้ เค้าอยากให้เราไปนอนพักผ่อนเยอะ ๆ เห็นฝนเหนื่อยมาก ให้พักเยอะๆ เค้าสองคนจะทำให้เราเอง ทำให้เรานึกได้ว่า จะมีใครในโลกใบนี้มั้ยเนี่ย ที่รักเราอย่างงี้ ที่อยากให้เราสบาย จนเค้าทำให้ทุกอย่างอ่ะ เรารู้สึกนะ รู้สึกถึงความรักของผู้ชายสองคนที่ให้เราอ่ะ เว่อร์เนอะ อ่อนไว๊ อ่อนไหว แต่เรารู้สึกอย่างนั้นจริง


ตอนนั้นเพลงนี้ก็ดังขึ้นมาในหัว ใครเคยฟังใหม เป็นเพลงที่เหมาะกับจะฟังตอนกลางคืน ตอนไฟสลัวๆ เรารู้สึกเหมือนว่าเราอยู่ในสวรรค์อ่ะ มีครอบครัวที่รักเรามากๆ อยู่ รู้สึกได้อย่างเดียวว่าชั้นมีความสุข คิดได้อย่างเดียวว่า ชีวิตชั้นต่อจากนี้อ่ะ ชั้นจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวของชั้นมีความสุข ถึงชั้นจะต้องสละอะไรก็ตาม สำหรับน้องฟ้า ถึงฟ้าจะเรียนไม่จบ หรือจะเป็นอย่างไร จะประสบความสำเร็จไหม พี่ก็จะเป็นกำลังใจให้ฟ้า เป็นบ้านให้ฟ้า แค่ฟ้าเป็นฟ้าอย่างนี้ พี่ก็ภูมิใจในตัวน้องที่สุดแล้ว ขอแค่ฟ้ารักพี่อย่างนี้ก็พอ สำหรับเอ ฝนรู้ว่าคงไม่มีอะไรมากกว่านี้ที่เอจะทำให้ฝนได้ เพราะเอได้ทำทุกๆ อย่าง เท่าที่คนๆ นึงจะทำให้อีกคนได้แล้ว คราวนี้ฝนจะทำทุกอย่างให้เอมีความสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะให้อภัย จะไม่ทิ้งไปไหน เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แอบน้ำตาไหลเลยนะเนี่ย


รู้สึกว่าช่วงนี้มีความสุขจริงๆ ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ มันทำให้เรารู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือครอบครัว ทั้งคนรัก น้องชาย ทั้งเพื่อนๆ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ได้ไปเที่ยวในที่สวยๆ กินข้าวในที่หรูๆ พบเห็นอะไรสวยงามมากมาย ถ้าเราเห็น เราเสพแค่เพียงคนเดียว มันไม่น่าจดจำเท่ากับการที่มีคนที่เรารักไปด้วยเลย ทุกๆ ครั้ง ทุกๆ ที่ที่เราไป ทุกๆ สิ่งที่เราทำ เรามักจะนึกว่า ถ้าเอได้มาเห็น ถ้าฟ้าได้มาอยู่ด้วยกัน หรือ ถ้ามีเพื่อนๆ เราอยู่เที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน หลงทางด้วยกันบ้าง หนาวด้วยกันบ้าง ร้องไห้ด้วยกันบ้าง คงดีเนอะ อยากให้พวกเค้าได้มาเห็นจัง คิดถึงทุกคน เกือบทุกลมหายใจ ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงจริงๆ นะ เว่อร์จริงๆ นิเรา


ก็เลยลุกขึ้นมาถ่ายภาพบ้านเราตอนกลางคืนสักหน่อย เอาให้มันได้อารมณ์สรวงสวรรค์ที่ไม่ได้เกิดมาจากตัวบ้าน แต่เกิดมาจากคนสามคนที่ทำให้มันเป็นอย่างนี้



วันนี้ไม่มีอัพรายละเอียดใดๆ แค่เขียนไปตามอารมณ์ แต่ขอทำตามสัญญากับเพื่อนท่านนึง เอารูปวอลล์มาลงให้ดูแล้วนะคะ ช้าหน่อยเพราะอยากให้มันติดบนผนังก่อน จะได้ดูชัดๆ นะ บ้านเราติดวอลล์ไปเรื่อย ตามอารมณ์ อยากได้อันไหนก็เลือกอันนั้น ไม่มีคอนเส็ปท์ แต่พยายามคุมโทนให้ได้ (แต่รู้สึกว่า มันหลุดๆ นะ แต่ชอบบบอ่ะ)



ดูรูปเลยแล้วกันนะ

















































































บายยย แล้วเจอกันใหม่




 

Create Date : 17 กันยายน 2551    
Last Update : 18 กันยายน 2551 12:58:08 น.
Counter : 1272 Pageviews.  

My home sweet home in progress, 2nd phase

มาอัพเดทบ้านน้อยแสนรัก ...



เมื่อเช้าวันเสาร์ตื่นมา อากาศดี๊ดี ฟ้าใสแจ๋ววว มองออกไปนอกหน้าต่างสดใสมาก สดชื่นจริงๆ ลืมตาตื่นมาบนที่นอน ในห้องนอนใหม่ ในบ้านใหม่ที่หวังจะเป็นบ้านจริงๆ หลังแรกหลังสุดท้ายของครอบครัวเรา ก็มองเห็นวิวแบบนี้ เกิดอาการอยากถ่ายรูปบรรยากาศตอนนี้ชะมัด เลยตะโกนให้อ้วนๆ ไปคุ้ยหากล้องมาถ่ายรูป ช่าย ต้องคุ้ยกันเลย เพราะเพิ่งย้ายเข้ามา บ้านก็ยังไม่เสร็จหรอก ของเลยกองอยู่ทั้งในห้องนอนเล็ก และห้องเก็บของ ตอนนี้ให้หาอะไรก็หาไม่เจอหรอก ฮิ ฮิ ว่าแล้วก็ได้กล้องมาแค๊พภาพซะเลย








อดไม่ได้ที่จะมาอัพบล๊อก ทั้งๆที่ใจจริงยังไม่อยากอัพบล๊อกเลย เพราะบ้านยังไม่เสร็จ อืมม ... ยังไม่เสร็จซักที เนื่องจากผู้รับเหมาเจ้าแรกเราเลทแล้วเลทอีก



สามเดือนผ่านไป ไวยังกับโกหก ช่ายยย ใครก็ได้โกหกช้านทีว่ามันเสร็จแล้ว เพราะจริงๆ มันยังไม่เสร็จ ฮือ ฮือ



ผู้รับเหมาเรา จะว่าดีก็ไม่ใช่ ร้ายก็ไม่เชิง ไม่ทิ้งงาน แต่ทำงานช้ามากกกก เห้อออ ขี้เกียจบ่นแระ เอาเป็นว่า สามเดือนผ่านไป ก็ยังไม่เสร็จ จากที่คอมมิทไว้ว่าเดือนครึ่ง สามเดือนผ่านไป เสร็จประมาณ 70 เปอร์เซ็นแบบไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่า งานหลัก งานบิวท์เค้าเสร็จ ความพอใจในงานบิวท์ประมาณ 80 เปอร์เซ็น แต่เกลียดที่ทำงานไม่เรียบร้อย ไม่สะอาด ไม่โพรเท็คของให้ ยกตัวอย่างเช่น ปูกระเบื้องก็ยาแนวเลอะ ไม่เป็นแนว กระเบื้องอ่ะ ปูแล้ว ไปทำมันบิ่นชัดๆ ก็ไม่เลาะเปลี่ยนให้ ทั้งๆ มีกระเบื้องเหลือเพียบ กะมั่วๆ ว่าชั้นไม่เห็นน่ะสิ ทำสี ก็เลอะไปทั้งบ้าน ไม่มีเล๊ย จะคลุมเคาน์เตอร์แกรนิต พื้นลามิเนตให้ ชั้นไม้เซาะร่อง เป็นแต่เซาะ บัวเบอ ไม่มีติดเก็บให้ ไหนจะขอบบัวประตู ที่เค้าทำซะเละ ดำปื้ดไปทั้งบ้านเอง สีเคาน์เตอร์หลังบ้าน เป็นปูนสีดำ มันก็ทาเลอะมาที่ผนังบ้านส่วนอื่นเรา สีรั้วก็เละ เง้อออ.. จริงๆ เค้าอาจจะแพลนจะเก็บเมื่องานเสร็จ แต่มันยืดเยื้อ ยืดเยื้อเกินไปละ (เกินมาเดือนครึ่งละ) หมดความอดทน เก็บเองก็ได้ฟระ




สรุปอีกทีว่า ภาพโดยรวม บ้านเราก็ยังไม่เสร็จ ณ วันนี้ เหลืองานบิวท์ตู้วางทีวีในห้องนั่งเล่น ครัวแพนทรี และตู้หนังสือ ที่ให้ผู้รับเหมาอีกเจ้ามาทำ ซึ่งเค้าคอมมิทว่าจะเสร็จวันเสาร์นี้



ส่วนงานที่เราต้องทำ ก็ยังมี ทาสีห้องนั่งเล่น ห้องนอนเรา ห้องนอนเล็ก ห้องนั่งเล่นชั้นบน ผนังข้างบันได ส่วนบางจุดเราจะติดวอลล์ เช่น ห้องกินข้าว ผนังหน้าห้องน้ำ ผนังด้านบนหน้าห้องนอน และอื่นๆ ค่อยๆ ดูไปแล้วกันน้อ


เราเข้าอยู่บ้านตั้งแต่วันที่ 10 สค. แล้ว งานที่ทำเองไปแล้ว ก็มี ทาสีห้องนอน ห้องนั่งเล่น แต่มันไม่เรียบร้อย ต้องทาใหม่ ฮ่า ฮ่า มือใหม่ทาสี ต้องมีบทเรียน เดี๋ยวจะมาเขียนวันหลัง แล้วก็ออกแบบผ้าม่าน จ้างเค้าเย็บ หาซื้อและติดราวผ้าม่านห้องนอนเอง


ยังมีในลิสต์อีกมากมาย มากมายจริงๆ ที่อยากทำ และต้องทำ ต้องค่อยๆ เก็บทุกวันเสาร์ อาทิตย์



ไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ



อืมมม เดินไปดูหน้าบ้านกันหน่อยดีกว่า เช้าวันเสาร์ อากาศดีๆ ลมเย๊นน เย็นน เดินออกมาลมพัดกระโปรงปลิว ฮ่า ฮ่า มองออกไปนอกบ้าน สง๊บบ สงบ เพราะยังไม่มีใครมาอยู่







กลับเข้ามาในบ้านกันก่อน เริ่มจากชั้นล่าง


ห้องแรก ห้องสำคัญที่สุดเลยก็คือ ห้องครัว ปัจจุบันนี้เสร็จแล้ว แต่ยังรกอยู่ เลยมะได้ถ่ายรูปมาให้ดู เอารูปแบบยังไม่เสร็จไปดูก่อนนะจ๊ะ








อีกรูป






ชอบกระเบื้องมากกก เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกหลายรอบ







ชอบกระเบื้องสีม่วง กับกระเบื้องลายดอกกุหลาบ อันนี้เป็นกระเบื้องโบราณ เลาะมาจากบ้านใครม่ายรู้ หวังว่าเจ้าของเก่าเค้าจะตามมาไม่ถูกน๊า ดูมันมีเรื่องราวดีเนอะ เนอะ






.
.
.



ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง มองไปยังมุมแพนทรี ตอนนี้ทำสีเสร็จละ รอท๊อปหินสังเคราะห์ คริสตัลไวท์ อยู่ วันเสาร์นี้เค้าจะมาติด ดูร๊กกก รก เนอะ










ดูแพนทรีกันใกล้ๆ อีกนิด เราจะทำขนมตรงนี้







พอละ เดินไปดูข้างบนกันดีกว่า อ๊ะ อ๊ะ หันกลับมาหน่อย ดูห้องนั่งเล่นเรา ยกพื้นปูลามิเนตเรียบโร้ยยแล้วว









เดินต่อไปด้านบน เห็นตู้หนังสือ สุดอลัง ตอนออกแบบไม่คิดว่ามันจะอลังขนาดนี้ แต่ก็ยังแอบกังวลว่า มันจะพอเก็บหนังสือเรารึป่าวหว่า ตอนนี้ยังลงแค่สีรองพื้นนะ ยังไม่ได้พ่นสีขาว มันจะมีบานตู้ด้วยย ตู้นี้สูงประมาณ สามเมตรกว่า ยาวสามเมตรกว่าๆ เหมือนกัน









เข้าไปดูห้องนอนใหญ่กัน



อันนี้ตอนยังไม่เสร็จ ยังไม่ทาสี







รูปพวกนี้ ถ่ายวันสุดท้ายที่ให้ผู้รับเหมาเจ้าแรกทำงาน บี้ บี้ และก็บี้ให้เสร็จ ให้เสร็จซะที รูปนี้ถ่ายตอนตีสามก่าๆ


ชอบอ่ะ ชอบมุมนี้มากๆ เลย แอบคิดกันเองว่า เหมือนแกลอรี่ในลอนดอน (ว่าไปน่าน เคยเห็นซะที่ไหน ฮ่า ฮ่า)





มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจ เราต้องเลือกระหว่าง โต๊ะเครื่องแป้งหวานๆ ตัวนี้ กะโต๊ะวางทีวีตัวนี้ มันสวยทั้งสองตัว และเข้ากับสไตล์ห้องทั้งสองตัว แต่ว่า ... มันไม่เข้ากัน มันอยู่ด้วยกันไม่ด้ายยย แอร๊ยยย ทำไมตอนซื้อถึงไม่ได้คิด สรุปเราเลยต้องเลือก แล้วเราก็เลือกตู้วางทีวีตัวนี้ ก็บอกแล้วว่า มันดูเก๋ เหมือนแกลอรี่ในลอนดอนไง (อีกละ ย้ำอีกละ คิดไปเองอ่ะ)



โซ .. น้องโต๊ะเครื่องแป้ง ก็เลยต้องถูกอัปเปหิไปไว้ในห้องนอนเล็ก ซะงั้น







เดินเข้าห้องนอนมาหน่อย ซ้ายมือ ก็เป็นติ่งๆ เล็กๆ ที่เราเอาไว้ทำ walkin-closet แหมม.. เรียกซะเท่ห์เชียะ ก็ออกแบบเอง มั่วๆ สู๊งงง สูง จรดเพดานเลย คาดว่าเวลาเอาของชั้นบนสุด ต้องพึ่งพี่กะได หน้าห้องแต่งตัวเราทำเป็นบานเฟี้ยมสีขาว คาดว่าเดี๋ยวจะเพนท์ลายเอง เอาไว้ว่างๆ ก่อน







มองลึกไปทางขวามือ เป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จ้ะ เราเลาะกระเบื้องผนังฝั่งเคาน์เตอร์ออก (ไปดูของเดิมๆ ได้ที่บล๊อกเก่านะ) แล้วให้เค้าทำเป็นผนังฉาบปูน ขัดมัน สีดำ แล้วติดกระจกลายสวยๆ แต่ว่า... ผู้รับเหมาเราเค้าทำแบบขัดมันไม่เป็น มันเลยไม่มัน เอ.. แล้วบ้านที่ลงในหนังสือรูม เค้าทำกันยังไงหวา คาดว่าเค้าน่าจะลงยูรีเทนมั้ง เดี๋ยวเราจะซื้อยูรีเทนมาเคลือบผนังเองก็ด้ายย



อันนี้ถ่ายตอนเพิ่งเสร็จจ้ะ ยังเห็นคราบฝุ่นเพียบ เพราะยังไม่ได้ทำความสะอาดเรย







โอเค.. กลับมา ณ ปัจจุบัน อันนี้เป็นภาพห้องนอนเรา ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะเห็นว่า หัวเตียงยังไม่ได้ทาสี เพราะเราจะติดวอลล์ ได้วอลล์แล้ว ช่างจะมาติดให้ น่าจะเป็นต้นเดือนหน้า







มองจากที่นอนไปนอกหน้าต่าง ผ่านม่านสีขาวโปร่ง ลายจุด ที่ปลิวพริ้วๆ เห็นต้นไม้สีเขียวไหวๆ เพราะลมพัดเบาๆ กับฟ้าใสๆ สดชื่นจริงๆ ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า นานเท่าไรแล้วนะ ที่เราไม่มีบ้านให้กลับ สิบเอ็ดปีแล้วมั้ง ทำให้เราคิดถึงคำพูดน้องชายเราเวลาที่เค้าปิดเทอม มักจะรบเร้าจะมาหาเราที่หอพักเราที่ชลบุรีว่า " ฟ้าเหงา ฟ้าไม่มีบ้านให้กลับ เพื่อนๆ กลับบ้านกันหมด เหลือแต่ฟ้าเฝ้าหออยู่คนเดียว" คราวนี้เราจะได้บอกกับน้องแล้วว่า ตอนนี้พี่ฝนมีบ้านให้ฟ้ากลับมาหาแล้วนะ มีห้องของฟ้าด้วย ฟ้ามาได้เมื่อไรก็ตามที่ฟ้าอยากมาเลย พี่ฝนมีข้าวอร่อยๆ ให้น้องกินเสมอ แต่ว่า รอก่อนนะฟ้า ห้องฟ้าพี่ยังไม่ได้ทาสีเลย มีแต่ที่นอนอันนึง รอสักเดือนนะ ฮ่า ฮ่า พี่สาวมาก่อนเสมอ (เหมือนจะดี แต่จริงๆ แล้วชั้นเนี่ย ร้ายนะเนี่ย )







ดูกันหลายๆ มุม ชอบห้องนอนเวลาเช้าที่สุดเลย (ก้อเป็นห้องเดียวที่เกือบเสร็จนี่นา)









ดูมุมกว้างขึ้นมาอีกหน่อย








มองไปทางปลายเตียง








มองไปทางขวามือ เป็นบานเฟี้ยมเข้าห้องแต่งตัว







......................


พอละ ไม่มีอะไรจะโชว์แล้วอ่ะ ลงไปดูข้างล่างกันดีกว่าเนอะ

.........................


ไปดูระเบียงข้างบ้านเราดีกว่า รูปนี้ตอนลงเสาเข็ม กะคาน







ถ่ายตอนกลางคืน หลังจากลงระบบไฟทั้งในบ้านและในสวนหมดแล้ว ไฟในบ้านนี่ คุณปู้จายภูมิใจมาก เพราะเค้าออกแบบเองหมด (วงเล็บ โดยมีช้านอยู่เบื้องหลังนะ หึ หึ ) เวลามีแขกไปใครมาบ้าน พี่ท่านก็จะยื้อไว้ให้อยู่ถึงตอนโพล้เพล้แล้วเปิดไฟโชว์ ฮ่า ฮ่า







ปูเสร็จแว้ววว ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง เป็นไม้แดงนะ หนาประมาณ นิ้วครึ่งมั้ง แผ่นนึงกว้างประมาณยี่สิบเซ็นต์มั้ง ระเบียงนี้เป็นรูปตัวแอล ความกว้าง เมตรห้าสิบ ยาวรอบห้องกินข้าวนะ ประมาณทั้งหมด 11 เมตร เริ่มตั้งแต่น้ำตกเลยย เราไม่ให้เค้าทาสี ให้เคลือบกันปลวกเฉยๆ ชอบสีดิบๆ อ่ะ








มองจากหน้าบ้านไป เรากะว่า เมื่อผู้รับเหมาออกจากบ้านไปแล้ว จะเอาหญ้ามาลงกันเอง กับไม้ดอกพุ่มเล็กๆ มาลงตรงห้องนั่งเล่นด้านซ้ายมือ






หมดแว้วว วันนี้อัพแค่นี้ก่อนนะ อีกสักสองสามอาทิตย์จะมาอัพใหม่จ้า


Bye Bye





 

Create Date : 18 สิงหาคม 2551    
Last Update : 20 สิงหาคม 2551 17:49:00 น.
Counter : 2682 Pageviews.  

My home sweet home in progress, 1st phase

หวัดดีจ้า...




กลับมาแว้วววว
มาอัพเดทบ้านที่กำลังตกใจ เอ๊ย ตกแต่งให้ดู



เง้อออออ... ขอปาดเหงื่อแป๊บบบ

บ้านเราตกแต่งแบบบ้าน บ้าน , แบบบ้าน บ้าน หมายถึง ตามใจเจ้าของบ้านนะฮ๊า ไม่มีมัณฑนากร ไม่มีแสตนอิน ไม่มี 3ดี วาดเอง โม้เอง คิดเอาเอง โชคดีได้ผรม. เดิม เข้าใจสไตล์กันมาตั้งกะคอนโดเก่าเราแว้วว

บ้านหลังนี้ (พยายาม) ตกแต่งให้อยู่ในตีม vintage, english country, french country, colonial เอาทุกแบบ สรุปก็คือ มั่วๆ นั่นเอง ฮ่า ฮ่า คือ พยายามให้ได้อย่างที่เคยฝันว่าอยากได้ ห้องนอนแบบนี้ ครัวแบบนี้ นั่งเล่นแบบนี้ เวลาที่ดูหนังสือบ้าน ภาพยนตร์ หรือไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม

วิธีการตกแต่งบ้านของเราคือ อ่านเยอะๆ หาข้อมูลเยอะๆ วาดรูปไม่เก่ง ไม่เป็นไร ก๊อปเอาเรย อยากได้แบบไหน ก็เขียนลงกระดาษคร่าวๆ แล้วเอารูปแบบที่อยากได้สแกน แล้วแนบไปกับดรออิ้งแบบมั่วๆ ให้ผรม. ดู ฮ่า ฮ่า

เรามีหนังสือบ้านสะสมไว้เยอะมากกกกก เราสะสมหนังสือบ้านและสวนตั้งกะอยู่ ม. 3 ก็ประมาณพศ. 2537 ขนาดเร่รอนมาสิบกว่าปี ก็ยังหอบหนังสือที่หนักมากกก ติดตัวไปด้วย ยังมี room ตั้งกะฉบับแรก จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยขาดซักเล่ม แต่หลังๆ บ้านและสวนเริ่มไม่ใช่แนวเราละ เริ่มจับได้ละ ว่าเราชอบบ้านสไตล์สาวน้อย แบบฝัน ๆ สองสามปีหลังมาเนี่ย เริ่มซื้อ Elle, Living Etc. และ Casaviva แล้ว

ในบรรดาที่พูดมา ถ้าจะแต่งบ้านสไตล์เรา เราว่า Elle Decor นี่ตรงที่สุดละ ภาพสวย นำมาเป็นไอเดียได้เยอะ ส่วน room ก็ยังเป็นหนังสือในใจเรา เราว่ามันเหมาะกับวัยทำงานเริ่มต้นถึงกลางๆ ที่มีเงินไม่เยอะ มันมี ฮาวทู ค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับบ้านและสวนนะ แต่บ้านและสวนยังไม่ทิ้งนะ ยังซื้ออยู่ทุกเล่ม เพียงแต่รำคาญมันหนา และหนักโฆษณาไปโหน่ยเท่านั้น เออ.. ว่าแต่เล่มหลังๆ เริ่มโอละ สำหรับเรา คือไม่ต้องมีเงินมากก็พอแต่งได้บ้างแล้ว


โอเค โอเค กลับมาเข้าเรื่อง การแต่งบ้านสไตล์เราหนะ เราก็สำรวจความต้องการ กับไลฟ์สไตล์ของเราและครอบครัวก่อน อย่างของเรา เราก็ลิสต์มาว่า อยากได้ครัวทำขนมกลางบ้าน อยากได้ตู้เก็บหนังสือเยอะๆ ที่แข็งแรงพอสำหรับหนังสือแต่งบ้านเราเยอะมาก และหนักมาก และก็ชั้นเยอะๆ สำหรับหนังสือการ์ตูนคุณแฟน อ้อ ขอห้องเก็บของใหญ่ๆ ขอระเบียงข้างบ้าน เอาไว้ทำหมูเกาหลี บาร์บีคิวกิน ที่ดินไม่ต้องเยอะ ขี้เกียจทำ ขอสวนเล็กๆ เรียบๆ สไตล์อังกฤษ ไม่รกรุงรัง แบบมีต้นไม้ใหญ่ไม่กี่ต้น กะสนามหญ้าเรียบๆ พอ เง้อออ ที่พูดมาทำได้ไหมนั่น ลองดูละกัน


โอเช ชอคกะแล๊ต แอ๊ต แอ๊ต
เราทำลิสต์คร่าวๆ ให้ผรม. ดูและประเมินราคากับก่อน เพื่อเป็นการง่ายด้วย เวลาตรวจงาน เราจะได้เช็คตามเช็คลิสต์เรย ของจริงเราทำเป็นเอ็กเซลไฟล์ แบ่งเป็นห้อง ๆ พร้อมแนบรูป 2 มิติ + รายละเอียดของงานนะคะ

เท่าที่ลิสต์มาก็มี


ห้องนั่งเล่นล่าง
- ยกพื้น
- ทำผนังให้เรียบเสมอเสา เป็นไม้เซาะร่อง พร้อมทำสีขาวถลอก
- ทำตู้วางทีวีบิวท์อิน
- ปูลามิเนต
- ทำฝ้าหลุม

ห้องกินข้าว
- ติดแชนเดอเลียร์
- ติดวอลล์

ห้องแพนทรี
- ทำฝ้าลงมา
- ทำตู้แพนทรี เฉพาะตู้ล่างอย่างเดียว รูปตัวแอล พร้อมฟิทกับอ่างล้างจาน เตาอบขนม
- ผนัง -ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะทาสี ติดวอลล์ หรือว่าติดไม้เซาะร่องดี

ครัวไทย
- ฟุลออฟชั่น ครัวรูปตัวยู ประกอบด้วยตู้ลอยบนล่าง
- ผนังด้านนึงขอไม้เซาะร่องนะจ๊ะ
- เปลี่ยนประตูบานสไลด์ เป็นไม้ ไม่ชอบอลูมิเนียม
- เปลี่ยนประตูหลังบ้าน ไม่ชอบ

หลังบ้าน
- หลังคา (ไม่ยาวมาก ไม่อยากทำให้เพื่อนบ้านเดือดร้อน) เป็นโครงไม้สีขาว มุงกระเบื้องลอนคู่ พอ
- ทำเคาน์เตอร์ เก็บเครื่องซักผ้าฝาหน้าไฮโซ พร้อมเคาน์เตอร์ซักผ้า

อ้อลืม ขึ้นไปชั้นบนกันก่อน ค่อยออกนอกบ้าน ต่อไปเป็นห้องสมุด
- ทำตู้หนังสือ กว้าง 3.3 ม. สูงจรดเพดานหนึ่งด้าน
- อีกด้านทำตู้หนังสือเตี้ย พร้อมเบาะนั่งด้านบน เหมือนที่คอนโด
- ผนัง ยังนึกไม่ออกว่า ทาสี หรือติดวอลล์ดี

โถงบันได
- ทำผนังไม้เซาะร่อง เหมือนหัวเตียงที่คอนโด

ห้องนอนใหญ่
- ผนังด้านนึง ก่ออิฐโชว์แนว ทาสีขาว
- ผนังหัวนอน ติดวอลล์
- ผนังที่เหลือ ทาสี
- ทำวอล์คอิน โคลเซ็ท

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
- ผนังหลังกระจก เลาะกระเบื้อง เปลี่ยนเป็นปูนขัดมัน สีดำ ปล๊าบ ปล๊าบ
- ผนังในตู้กระจกอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นโมเสค
- ผนังหลังชักโครก เปลี่ยน เปลี่ยน เปลี่ยนทำไมไม่รู้ แค่รู้สึกว่า กรุยเชิงมันไม่เข้ากับตีมห้อง
- พื้น เปลี่ยน เปลี่ยน สีขาวมันสกปรกง่าย

ห้องน้ำรวมบน - ล่าง
- เปลี่ยนพื้น
- ติดกระจกเทมเปอร์กั้นอาบน้ำ

ห้องนอนเล็กอื่น
- ไม่ทำตอนนี้ ไม่มีตังค์ ลอกวอลล์ออกแค่นี้ละกัน

นอกบ้าน
- ทำน้ำพุ ที่กำแพงหลังห้องนั่งเล่น อันนี้ปวดหัวตึ๊บๆ เด๋วเล่าให้ฟัง
- ทำระเบียงไม้รูปตัวแอล รอบห้องกินข้าว
- ติดไฟสวน ไฟส่องต้นไม้

งานทั่วๆ ไป
- ลอกวอลล์ทั้งหลัง อะจึ๋ยยย
- ทำระบบไฟใหม่ทั้งหลัง อะจึ๋ยยย (ขอลอกมาอีกที)
- ทาสี (อันนี้ทาเอง งกอ่ะ)

คร่าวๆ เท่านี้ละกัน เด๋วจะงง จะเห็นว่า งานใหญ่อ่ะ มีไม่เยอะเท่าไร แต่รายละเอียดเยอะมาก จนผรม.ออกปากว่า คุณฝนเนี่ย เป็นคนละเอียดนะครับ แม๊.. ยังงี้ผู้รับเหมาทำงานสบายเรย ไม่ต้องคิดมาก คุณฝนคิดให้หมด .. เอ่อออ ประชดชิมิเคอะ เรามีรายละเอียดเยอะนะ แต่เราใส่ไปหมด เพราะเราไม่อยากให้ทุบ ให้แก้ไง มันเป็นงานฮาร์ดสเคปอ่ะ


..........................................



โอเช มาดูกันเรยดีก่า อยากเห็นแล้วชะม๊า



ห้องนั่งเล่นเดิม ๆ (เก๊าะสวยอยู่แล้วน๊า)

v
v
v







ยกพื้นนนซ๊า .. เก๊าะเรารู้ตัวว่าเราชอบนอนเกลือกกลั้วในปลัก เอ๊ย เกลือกกลิ้งกับพื้น แบบหมอนใบใหญ่ๆ แบนๆ วางอ่ะ พร้อมขนมแล้วก้อกินไป นอนอ่านการ์ตูนไป เลยไม่อยากให้พื้นที่เรานอน กับพื้นห้องกินข้าวและครัวที่เดินย่ำไปย่ำมา เป็นพื้นเดียวกัน รู้สึกมะค่อยสะอาดอ่า


ตอนวางโครง

v
v
v







ยกเสร็จละ แต่มะค่อยชัด เพราะของวางกองอยู่เต็มไปหมด คนขวามือหล่อๆ อ่ะ คุณปู้จายยย (ขอตังค์หน่อยดิคะ) กะลังง่วนคุยกับคุณ ผรม. หน้าโหด (แต่มารยาทดี) ชื่อคุณเจี๊ยบ เรื่องระบบไฟ อ้อ ข้างบนเป็นฝ้าหลุม ไฟสีเหลืองทำมะดานี่หละ ดูอบอุ่นดี

v
v
v







ผนังไม้เซาะร่อง ตีให้เป็นแนวเดียวกับเสา ทำสีขาวขัดๆ แบบถลอกหน่อย อันนี้ ยังทำสีไม่เสร็จนะ แค่รองพื้นก่อน

v
v
v







หมดระ ห้องนั่งเล่น อ้าววว ยังทำสีไม่เสร็จ เดี๋ยวเสร็จแล้วเค้าจะมาอัพอีกทีนะ


.........




ต่อปายเปนห้องกินข้าว




ห้องนี้ไม่ทำไร ไม่ทำฝ้าหลุม เดี๋ยวจะเยอะเกิน ติดแชนเดอเลียร์ เดินไฟใหม่เพิ่ม กะติดวอลล์ให้เข้ากันเป็นพอ เหมือนๆ จะงั้นๆ นะ แต่เชื่อมือฝนเหอะ เดี๋ยวเสร็จแล้วสวยแน่

v
v
v







อันนี้เป็นวอลล์ที่เราเล็งว่าจะติดห้องกินข้าว LL-97 อ่ะ ใจจริงๆ เล๊ยยยเนี่ย ชอบสีฟ้า อันกลางนะ ดูวินเทจ ๆ แบบเย็นๆ ดี แต่ว่าคิดไปคิดมาแล้ว สีเหลืองนี่มันสดใส เหมาะกับห้องกินข้าวมากๆ เดี๋ยว ค่อยหาที่อื่นติดสีฟ้าละกันน

v
v
v







.......



ต่อปายยย ... ห้องแพนทรี สุดเลิฟ





ถึงแม้ไม่ได้อยู่กลางบ้าน แต่มะได้ถูกตัดขาดจากความเจริญ อะฮั้นยังสามารถทำขนมไป ดูสามีสุดที่เลิฟไปได้โดยไม่เหงา เก๊าะทำขนมแต่ละที มันใช้เวลาน๊านน นานอ่ะ จริงๆ คือกลัวร้อน จะได้เปิดแอร์ได้อ่ะ


v
v
v







โชว์ไรเนี่ย ... งงละซี้ ตอนนี้เราทำแค่ฝ้าลงมา เหมือนแค่เพื่อแบ่งพาร์ติชั่น ว่านี่คือแพนทรีนะ ส่วนตู้ครัวง่ะ เราใช้ผู้รับเหมาอีกเจ้านึง คือมีผู้รับเหมาสองเจ้าที่รู้จักค่ะ เลยอยากลองดูฝีมือเค้าหน่อย แต่ผู้รับเหมาหลักเราคือ คุณเจี๊ยบนี่แหละ เค้าทนเราด้ายยยย คาดว่า ไม่เกินกลางเดือนหน้า ห้องแพนทรีเราเสร็จเรียบร้อยอ่ะค่ะ มันจะเป็นรูปตัวแอลชิดริมหน้าต่างนะ



.....



ต่อปายยย ...

ไปไหนกันต่อดี .. ไหนไหน ก็พูดถึงเรื่องกินละ ก็กินต่อให้หมด



ไปครัวไทยกันเลยดีกว่า






ครัวไทย จะถูกกั้นจากแพนทรี ด้วยบานสไลด์อะลูมิเนียมอบขาว ใจอ่ะ เราอยากได้ครัวสไตล์คันทรี กึ่งๆ อิงลิช กับ เฟรนช์ สองอย่างนี้มันต่างกันตรงที่ อิงลิชมันจะดอก ๆ เยอะกว่า ทึมๆ กว่า แบบเฟรนช์คันทรี มันจะออกโทนขาวควันบุหรี่ + ชมพู + ฟ้า โทนเย็นๆ อ่ะค่ะ งงมะตัวเอง


น่านหละ เอาเป็นว่า อยากได้แบบน่ารัก น่ารัก หวานๆ แต่มันมี constraint ที่ว่า เราชอบกินอาหารไทยมากกกกก ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด หอมอร่อยในพริบตา คู่ครัวรสดี ... น่านนน ไปเรื่อย ไม่เคยใส่นะ รสดี ไม่ชอบ ฮ่า ฮ่า ซะงั้น .. โอเค ต่อ ต่อ เราเลยอยากได้เตาแก๊สหัวเร่ง ไฟแรงๆ เอาไว้ผัดผักอร่อยๆ ใช้กับกระทะเหล็กแบบไทยได้ดี ทำกับข้าวอร่อยๆ อ่ะ แบบลักกี้เฟลมแบบสมัยก่อนหนะ นั่นเลย ใช่เลย ...

แต่มันไม่เข้ากับไอ้สไตล์คันทรีๆ อ่ะดิ จะเอาแบบสวยๆ ของสเมก ก็ไฟไม่ทันใจ แถมไม่แน่ใจว่าจะวาง wok ของเราได้ไหม เง้อออ.. คิดดู ตามล่าหาเตาแก๊สมาสองเดือน เกือบๆ จะได้ของ Franke หรือไม่ก็ Electrolux แล้ว แบบสแตนเลส ทีมีขาตั้งเป็นเหล็กหล่อ แต่มันยังตะหงิด ๆ เรื่องความแรงของไฟนี่หละ

สุดท้ายย ... ก็เจอที่เหมาะสม คือ เหมาะสมนะ ไม่ใช่สวยที่สุด แต่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการเราแล้วคือ รูปทรงพอไปได้ กับไฟที่แรงสะจายยย (แต่แอบแพงนะ กับเตาหัวเร่ง) ยี่ห้อ Hooth กล่าวคือ ความตะกละเอาชนะทุกสิ่งง ... คติประจำใจบ้านเราเลย ไม่ใช่ ความรักเอาชนะทุกสิ่งนะ......ฮ่า ฮ่า เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่เอาอะไรที่สวย แต่ใช้ไม่ได้สำหรับเรา




ไปดูกันนะ



ก่อนทุบ แบบเดิมๆ

v
v
v







ทุบแล้ว ก่อใหม่


v
v
v





อีกรูป มุมกว้าง

v
v
v







ดูไปดูมา อ้าววว .. เหมือนเดิมซะงั้นนน คนอื่นเค้าทุบแล้วก่อให้เคาน์เตอร์เป็นระดับเดียวกัน แต่เราทุบแล้วให้เคาน์เตอร์มีสองระดับเหมือนเดิม แล้วจะทุบทำไมเนี่ยยย มันมีเหตุผลว่า เคาน์เตอร์เดิม ตรงที่เค้าเว้นให้วางเตา ไดเมนชั่นมันไม่ได้กับเตาที่เราจะเอา คือเค้าเว้นให้กว้าง 80 ซม. แต่เตาเราต้องการพื้นที่กว้าง 91 ซม. สูง 20 ซม. หนะสิ

เอาน่า... อย่าคิดมาก ทำครั้งเดียว เนี่ยคิดดูดิ อีกกี่สิบปี กว่าเราจะรีโนเวทบ้านอีกที ต้องอยู่กะมันอีกนานน๊า... ไอ้คำเนี้ย เราเอาไว้ปลอบใจตัวเอง เวลาทำงบอ่า เง้อออ .. เศร้า


อ่ะนี่ เคาน์เตอร์ กะเตาไฟแรงสูง เหมาะกะสาวไฟแรงสูงอย่างเค้า
อิ อิ เห็นเตาก็รู้ว่า เจ้าของบ้านจะจ้ำม่ำแค่หนายยย



v
v
v






ที่เห็นอ่ะ ยังไม่เสร็จ ยังอีกไกลลล กว่าจะถึงฝัน ที่เห็นกระเบื้องโมเสคสีส้มอ่ะ เราเลาะแล้ว เลาะแล้วค่ะ เปลี่ยนใจง่ายอีกละ เก๊าะดูไปดูมา มันโมเดิร์นไปนะ มันไม่ใช่ ไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟ มันไม่คันทรี ไม่คันทรี เลยเลาะออก แล้วไปหากระเบื้องมาใหม่ จริงๆ มีลายกระเบื้องในฝันอยู่ในใจแบบคันทรี ๆ แต่ในไทยไม่มีขาย เศร้าจัง โอเค โอเค กลับมา กลับมา ไปได้กระเบื้องใหม่มาแทนกระเบื้องสีส้ม เป็นกระเบื้องสีม่วง งงอ่ะเด่ะ งงอ่ะเด่ะ เราว่า มันคันทรีกว่านะ

ใช่สิ มันต้องใช่


เนี่ย คุณเจี๊ยบคงอ่อนใจกะเรา เปลี่ยนกระเบื้องทุกอาทิตย์เรย เก๊าะทุกอาทิตย์เราจะมาพร้อมกระเบื้องลายใหม่ แล้วก็ค่อยถาม คุณเจี๊ยบปูไปรึยังค๊า ฝนอยากได้อันนี้มากกว่า เลาะนิดนึงได้มะค๊า งานมันเก๊าะเลยยังไม่เสร็จสักกะทีดิ๊ ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู ต๊ะไว้ก่อนนะ


....


เหนื่อยแล้วอ๊ะ แปะไว้ก่อนได้มะค๊า


โอเค โอเช ต่ออีกน่อยละกานน ( น่อย เป็นภาษาเหนือ มาจากจั๊กน่อย แปลว่า อีกติ๊ดนึงน๊า


แฮ่ แฮ่


ขึ้นบ้านมาเลยดีกว่า ต่อกันเลยที่บันได

ที่เห็นด่างๆ ไม่ใช่ทางโครงการทำไม่เสร็จ แต่เราเลาะวอลล์ทิ้งไปหมดตะหาก วอลล์ที่บ้านเรามันเป็นโทนร้อนอ่ะ เราอยากได้โทนเย็น ดูไปดูมาก็ติ๊ดดีนะเนี่ย เอ หรือเราจะทำผนังบ้านเป็นปูนเปลือยดี เก๋ดีนะเนี่ย ฮ่า ฮ่า

v
v
v







ขึ้นบันไดมาละ เจอห้องนั่งเล่นด้านบน เล่นระดับ เราแพลนว่าจะทำห้องสมุดตรงนี้หละ ยัง ยัง ยังไม่เสร็จ รอก่อนนะ รอถูกลอตเตอรี่ก่อนนะ

v
v
v





แปะไว้ก่อน ตู้หนังสือมันแพ๊ง แพง

หันไปดู ผนังที่เชื่อมระหว่างห้องนอนทั้งสามกะห้องน้ำ เราจะทำเป็นไม้เซาะร่อง

v
v
v







กับติดวอลล์ด้านบน


เหมือนกับยกคอนโดเรามาไว้ที่นี่ จะได้ไม่ต้องคิดถึงมาก เง้อออ พูดแล้วเศร้าจัง


พอเสร็จแล้วจะเป็นอย่างนี้แหละ

v
v
v







อ้อ ส่วนนี่เป็นลายวอลล์ที่จะติด หน้าซ้ายนะ


v
v
v





....


ไปห้องนอนใหญ่กันเป็นห้องสุดท้ายยย



นี่ผนังปลายเตียง ที่เป็นอิฐโชว์แนว และเดี๋ยวจะทาสีขาว ทำไม่หมดทั้งผนังด้านนี้เพราะเราเว้นที่ไว้วางโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่อยากให้มันเป็นเทกซ์เจอร์เดียวกันหมด อยากให้เป็นโทนสีขาวควันบุหรี่ แต่มีหลายเทกซ์เจอร์อ่ะ

v
v
v





ส่วนผนังหัวนอน เราจะติดวอลล์น่ารักมากกก ไปเห็นที่ดิสเพล์ไว้ที่อินเด็กซ์บางนา ไปถามพนักงานขายเค้าบอก อ้ออ ทำไว้นานหลายปีแล้ว บริษัทวอลล์ที่เคยส่งให้ก็เลิกเป็นคู่ค้ากันแล้ว แต่ในที่สุด ในที่สุด ของที่เป็นของเรามันก็จะเป็นของเรา เราไปตามหาได้ที่ร้านวอลล์ร้านนึง เอาไว้วันหลังจะมาโชว์ให้ดูนะ





......



ด้านนี้เป็น walk-in closet ซึ่งแต่เดิมเนี่ย มันเป็น ติ่งยื่นไปหน้าห้องน้ำเฉยๆ เราเลยออกแบบให้เป็นตู้สองตู้หันหน้าเข้าหากัน สูงจรดผนัง ทั้งสองด้านจะลึกไม่เท่ากัน ด้านซ้ายเนี่ย เราเอาไว้แขวนเสื้อ เพราะงั้น เลยต้องลึกประมาณ 60 ซม. ตามมาตรฐาน ส่วนด้านขวาเราเอาไว้ใส่ เครื่องใน ง่ำ ง่ำ เสื้อที่พับได้ และของกระจุกกระจิกสารพัด ดังนั้น มันไม่จำเป็นต้องลึกมาก ขี้เกียจคุ้ย เอาชั้นแบบเตี้ยๆ สั้นๆ ดีกว่า applicable สำหรับเราดี

เหตุผลจริงๆ คือ ห้องนี้มันแคบไง ไม่สามารถทำให้มันลึกเท่ากันได้ เราต้องเว้นให้ยืนได้ประมาณ 60-70 ซม. ไง

แล้วก็ให้คุณเจี๊ยบตีผนังหลอกลงมา แล้วทำบานเฟี้ยมมม เพราะว่า ถ้าทำบานเฟี้ยมสูงจรดเพดาน มันคงตลก ๆ เนอะ

อืมมม.. ดูเหมือนมันจะแคบ แต่จริงๆ มันโอนะ เรายืนหมุนตัวได้ แล้วเราเดินไฟเพิ่มด้วย + กระจกทรงแคบ และสูง คิดว่าน่าจะโอนะ

รอดู รอดู


v
v
v


ไปดูกัน

มองเข้าไป


v
v
v














....



ทั้งหมดที่เห็นเนี่ย เป็นงานที่ทำมาได้เดือนครึ่งละ หมายถึงผู้รับเหมาเริ่มเข้ามาทำที่บ้านได้เดือนครึ่งแล้ววว อาจดูไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก ต้องรอดูกันต่อปายยย คุณเจี๊ยบมาเล่าให้ฟังว่า เวลามีคนมาดูบ้านเรา (หมายถึงเพื่อนบ้านหน่ะค่ะ คนที่เค้าเพิ่งซื้อแต่ยังไม่แต่ง) เค้าจะแบบ ทำเยอะเนอะ ทำไรเนี่ย จุกจิกจัง นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ฮ่า ฮ่า


แต่เรากะคุณปู้จาย มีภาพในใจแล้วไง ว่าอยากให้ออกมาเป็นไง แต่เราไม่สามารถวาดรูปออกมาได้ แค่มีจิ๊กซอว์ในใจเท่านั้นน


เอาเป็นว่า ดูกันต่อไปนะ ว่าจะออกมาเป็นไง


เดี๋ยวอาทิตย์หน้า จะมาอัพเดทให้ดูใหม่เน้อออ


เฮ้ออออ .. แค่คิดโปรแกรมอาทิตย์นี้ก้อเหนื่อยแล้ว ตั้งแต่ซื้อบ้านมาสามเดือน เหนื่อยๆๆๆ มากๆๆๆ ออกตระเวนดูของเข้าบ้านทุกอาทิตย์ เราซื้อทุกอย่างเองเลย ทั้งกระเบื้อง ไฟ วอลล์ ลามิเนต มือจับทุกบาน กลอนประตู เง้ออออ... นี่ขนาดเอาแค่ฮาร์ดสเคปก่อนนะเนี่ย เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นยังมะมีเวลาซื้อเรย คาดว่า ถึงขึ้นบ้านใหม่แล้ว คงเอาฟูกนอนกับพื้นก่อน รอโบนัสก่อน หมดเนื้อหมดตัวแร้ววว


เออ... เอาไว้อัพบล๊อกของที่ซื้อมาด้วยดีกว่า มีร้านที่ประทับใจมากๆ รวมถึงไม่ประทับใจอีกหลายร้านนน


.....


วันนี้จบแล้วนะ เหนื่อยจัง

เอาไว้แวะมาเที่ยวบ้านเค้าอีกน๊า


บ๊ะ บาย TA TA จ้า





 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 11:02:52 น.
Counter : 5001 Pageviews.  

Love at first sight




สวัสดีคร๊าบบบ มีบ้านแล้วคร๊าบบ บ้านหลังแรกในชีวิตของเราสองคน ....


ขอเล่าหน่อยนะ ... ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเราคือ อยากมีบ้าน


ตั้งกะพ่อกะแม่ไม่อยู่ (นานระ ตั้งแต่เรายังอยู่มอหก) ชีวิตมันก็ระหกระเหินเร่ร่อนมาตลอดเลย เข้ามาเรียนที่กรุงเต๊บตั้งกะสิบกว่าปีที่แล้ว หอบข้าวของที่จำเป็น (จริง ๆ เรามีข้าวของสะสมมากมายก็ตั้งแต่เกิดหละ ต้องตัดใจทิ้งให้หมด) มาอยู่หอพักในกรุงเทพ แต่ถึงอยู่หอ เราก็ตั้งใจแต่งห้องทุกครั้ง ตามกำลังทรัพย์อันน้อยนิดที่มี ถึงจะอยู่หอพัก เราก็ไปเดินหาผ้าที่สำเพ็ง เอามาเย็บผ้าม่านของเราเองนะ ก็นั่นแหละ จะบอกว่า ถึงแม้ระหกระเหเร่ร่อน เปลี่ยนหอไปเรื่อย เราก็ยังคงมีความฝันอยู่ และก็พยายามทำให้มันเป็นจริง เอามาเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตเรา

เราอยากมีบ้าน อยากสร้างบ้านของเราเองอีกครั้งนึง บ้านที่ไม่ใช่แค่วัตถุ แต่เป็นบ้านที่มีหัวใจของเราอยู่ มีครอบครัวของเรา สิ่งที่เราต้องการมาตลอดสิบปี คือ "บ้าน" ให้เรากลับไปหา เวลาเสาร์ อาทิตย์ วันหยุด หรือเมื่อไรก็ตามที่ว่าง ที่ที่เราจะนึกถึงอยู่ตลอดเวลา

เราโชคดี ที่ได้เพื่อนชึวิตที่ดี ที่เป็นกำลังใจให้กัน แม้ในวันที่ทุกข์ยาก ไม่มีเงิน ไม่มีใคร ก็ยังมีคนจับมือปลอบใจเดินไปด้วยกัน

ว้า.. เศร้าจัง.. ฟังเหมือนเศร้า แต่ไม่เศร้านะ เราขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ้าไม่มีวันนั้น เราก็ไม่มีวันนี้ มีบ้าน มีครอบครัว มีคนรัก มีเพื่อน มีกำลังใจดีๆ อย่างนี้

เอาเป็นว่า มีบ้านแล้วน๊า...


ไม่คิดว่าจะมีบ้านเร็วขนาดนี้ จริงๆ แล้ว เรามีคอนโด ก้อ บ้านหลังแรกของเรานั่นแหละ รักมากๆ รักมากๆ รักมากๆ เหมือนกัน ทุกครั้งที่เรากลับไปที่คอนโดหลังนี้ เรารู้สึกว่ารักมาก ๆ ทุกครั้งที่เปิดประตูห้องไป เราจะเจอหน้าต่างบานใหญ่ เห็นวิวทะเลดาว จากแสงไฟในหมู่ตึกสูงข้างๆ เราชอบรำพึงรำพันในใจว่ " นี่มันสวรรค์ชั้นไหนกันนะ"



กิ๊ว กิ๊วว ฟังดูเหมือนยัยคนนี้เว๊ออ เว่อร์ แต่เราคิดงั้นจริงๆ

แต่ว่า... ตั้งแต่กลับจากอังกฤษ พร้อมกับของ (อะไรก็ไม่รู้) แปดลังใหญ่ๆ เอบอกว่า ไม่ไหวแล้วน๊าตัวเอง ถ้าเราทิ้งของไม่ได้ เราก็ต้องหาบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น

โถ โถ แล้วเราจะทิ้งได้ยังไงหละ หยิบชิ้นนี้มาก็นึกความทรงจำตอนโน้น หยิบชิ้นนี้มาก็ความทรงจำอันนี้ ทั้งหนังสือเบเกอรี่ ทั้งหนังสือแต่งบ้าน ของกระจุ๊กกระจิ๊กอีกมากมาย รวมถึงอุปกรณ์ทำขนมมากมาย ที่เราอุตส่าห์ตระเวนไปหามาจากเมืองต่างๆ ในอังกิด ไม่ได้โม้นะ เว่ออร์มั่กๆ ก็เค้าชอบอ่ะ คิดดูเด่ะ นั่งรถจากเรดดิ้งไปคาร์ดิฟ เพื่อไปร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ที่เราเสิร์ชจากในเน็ตว่ามีสาขาที่นั่น ไปตั้งไกล ได้พิมพ์เค้กมาอันเดียว กับไม้จิ้มฟันที่เอาไว้ทำเกษรดอกไม้น้ำตาล เอเฮะ พูดไปได้เรื่อยๆ เลยเรา

หาบ้านใหม่ดีกว่า...

ที่จริงว่าจะซื้อสิ้นปี 51 (ก้อปีนี้น่ะแหละ) ไป ๆ มาๆ ดูมาหลายที่เราก็เก็บเป็นข้อมูลนะ เก็บไว้ในลิสต์ก่อน หลายๆ บ้านก็ดูน่าสนใจนะ แต่ก็เก็บเอาไว้ก่อน มันยังขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ปิดโครงการ แต่พอมาดูบ้านหลังนี้ มันเกิดอารมณ์ที่ว่า ไม่ได้ละ จะเอาอ่ะ จะเอา จะเอาให้ได้เลย คือ ถ้าเด็ก (และปัญญาอ่อน) กว่านี้ คงจะนั่งกับพื้นถีบเท้าไปมาเรย อารมณ์ว่าถ้าไม่ได้หลังนี้มันต้องเกิดอาการอกหักแน่นอน โชคดีที่เห็นตรงกันทั้งคู่เลย อิอิ

พอตอนจะจองแอบมีลังเลมั่ง ตามประสามนุษย์ เลยได้ยินเสียงแว่วๆ ว่า ให้ฟังหัวใจตัวเอง ของที่จะเป็นของเรา มันก็จะเป็นของเรา คือมันโป๊ะเชะ ใช่เรยอ่า

ดูกันดีกว่า






หูย หูย ตื่นเต้นชะมัด ทำบล๊อกแรก ครั้งแรก กับบ้านหลังแรกของเรา

ดูอีกมุมนะ










ย๊าฮู... สวัสดีค่ะ มีใครอยู่มั้ยคะ



หันไปทางขวา ดูต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน คุณเซลล์เค้าว่า ต้นทองกวาว ใช่รึปล่าวก็ไม่รู้ ไม่สันทัดค่ะ





มองไปทางหลังบ้านซิ ... มีต้นแคนาอยู่หนึ่ง เค้าบอกว่า ดอกมันเอามาชุบแป้งทอดกินกะน้ำพริกได้ หิวเรยยย

โอ๊ว.. บ้านในฝันเราเลย ขอที่ข้างบ้านไม่ต้องเยอะมาก จะทำระเบียงไม้เล็กๆ กับต้นไม้ริมรั้วนิดหน่อย ไม่ชอบที่เยอะๆ ดูแลไม่ไหว





มาดูจากหลังบ้านไปมั่ง





ด้านซ้ายของบ้าน มาดูมั่งซิ เห็นแล้วไอเดียบรรเจิด ชั้นจะทำสวนครัวน้อย ๆ ตรงนี้แหละ





เข้าไปดูในบ้านกันดีกว่า

จากหน้าบ้าน ตรงห้องนั่งเล่น มองไปทางหลังบ้าน





จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้เข้าได้สองประตู คือประตูกลางบ้าน กับ ประตูหน้าบ้านตรงห้องนั่งเล่น แต่เราสองคนกะว่า จะใช้ประตูกลางบ้านประตูเดียว ส่วนตรงห้องนั่งเล่น ให้ถือซะว่าเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เพราะไม่ชอบให้ใครเดินผ่านไปมา

อันนี้เดินเข้าประตูกลางบ้านมา แล้วมองกลับไปทางห้องกินข้าว (ที่แพลนไว้ว่าอย่างนั้น) กับห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน





มาดูห้องครัวไทยกัน เราว่าเค้าทำห้องครัวดีนะ อืมมม พูดไปแล้วมันไม่ได้ดีกว่าของแลนด์มาก ทำไมชอบมากกว่าก็ไม่รู้





ช๊อบ ชอบ นะ แต่ทุบทิ้งหมดเลย
อ้าววว ซะงั้น แหะ แหะ


แวะมาดูห้องน้ำชั้นล่างกัน เราว่าเค้าออกแบบได้ดูดีเชียวนะ ถึงแม้ว่า ไอ้เจ้าเคาน์เตอร์มันจะไม่ทนน้ำก็ตาม แต่เค้าชอบง่ะ



ขึ้นไปบนบ้านกันมั่งเนอะ

ขึ้นไปก็เจอ นี่เลย ขวามือเป็นห้องนั่งเล่นชั้นบน ที่เราแพลนว่าจะเป็นห้องสมุดเล็กๆ ของเรา เล่นระดับด้วยนะเออ




ว้า... ถ่ายรูปมาไม่ดี มันมองไม่เห็นเลยเนอะว่าเล่นระดับ

นี่รูปหน้าต่างในห้องสมุด มีหน้าต่างสองด้าน ด้านหน้าบ้านกับข้างบ้าน




ว้า... ถ่ายรูปไม่สวยเลย สื่อมาอย่างที่มันเป็นไม่ได้ ในชีวิตนี้ถ่ายรูปแล้วสวยอยู่อย่างเดียว คือรูปตัวเอง ฮิ้วววว สงสัย นางแบบจะสวยเนอะ


ไปดูห้องนอนดีกว่า ถ่ายไม่สวยอีกแล้ว จริงๆ แล้วห้องกว้างนะคะ มี walkin-closet เล็กๆ อยู่ด้วย



นี่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ชอบมากกกก อีกแล้ว เทียบกับโครงการอื่นแล้วเค้าดูตั้งใจทำดีจริงๆ





เอ่ออออ... แต่ว่า ...คือ .. แต่ว่า .... เค้าก็ทุบทิ้งอีกอ่ะ ไม่ใช่อะไรนะ คือของเค้าดี เค้าออกแบบมาดี แต่ว่า มันไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟท์ คือมันยังไม่ใช่ห้องน้ำในฝันเค้าอ่ะ แหม ... พูดไปก็อาย ยังไม่รู้เลยว่าที่ให้เค้าทุบ แล้วทำใหม่ ให้มันเหมือนหยั่งกะในฝันเราเนี่ย มันจะออกมาเป็นฝันดี ฝันดี หรือฝันร้ายย กันแน่เนอะ


สุดท้ายมาดูห้องน้ำรวมบนแล้วกันนะ ห้องนอนเล็กที่เหลือไม่ได้โหลดมาให้ดู เก๊าะไม่ใช่ห้องนอนเรานี่นา แป่วววว ห้องนอนเล็กสองห้องของแบบบ้านเรา ใช้ห้องน้ำร่วมกันจ้ะ





หมดแร้ววว

สรุป เราสองคนไปดูบ้านหลังนี้ ครั้งแรกก็เอากลับมานอนคิดนั่งคิด พออาทิตย์ถัดมาไปดูโครงการอื่นสามสี่โครงการ รวมถึงโครงการที่ดูก่อนหน้านี้ รวมๆ แล้วก้อสิบสี่สิบห้าโครงการ เราเลยตัดสินใจกลับไปเอาที่นี่เลย

แปลกนะ ไม่ได้ถามอะไรเซลล์เลย ทั้งที่หาข้อมูลเรื่องบ้านมาเยอะมาก ก่อนไปดูบ้าน แต่พอบทจะเอา ชั้นก็จะเอาอ่ะ สเปคบ้านเป็นอย่างไรไม่รู้ ผนังเป็นไง สายไฟร้อยท่อไหม หรืออะไรอื่นๆ ไม่ถามเลย ทั้งๆ ที่โครงการอื่นเราถามเยอะมากเลยนะ เราคิดว่าเป็นเพราะสภาพบ้านที่เห็นมันดีมากๆ เลย เอาแค่กรอบประตูหน้าต่าง เราว่าคุณภาพก็ดีมากๆ แล้ว ที่สำคัญ เราพอใจแปลนบ้านมาก ที่สามารถทำให้เรามีครัวสองที่ ทั้งครัวไทยหลังบ้าน และแพนทรี ที่เราจะเอาไว้ทำขนม รวมถึงห้องหนังสือเล่นระดับด้านบน ที่เราประทับใจที่สุดของโครงการนี้อีกอย่างคือ ระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งระบบกันขโมยที่ให้มากับตัวบ้าน , กล้องวงจรปิด (ตำแหน่งอยู่หน้าบ้านเราพอดีเลย เอ๊ะ ว่าไป เค้าจะมาแอบถ่ายคลิปเรามั้ยนะ วันดีคืนดี เห็นโผล่ในหนังสือ Oops!! จะว่าไงนี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ) , ประตูสองชั้น


ตอนนี้ ก็เลยต้องรัดเข็มขัด (กับพุงปลิ้นๆ) กันจนหน้าเขียวหน่อย อาห์... หนี้แห่งความสุข (รึปล่าวน๊า ... )

ฮึบ ฮึบ ... เอ้า ไฟท์ทิ่งงง


Welcome to my home นะจ๊ะ

" Friends, Love and Laugh are welcome " จ้ะ





 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 11:06:44 น.
Counter : 8476 Pageviews.  


sastress
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add sastress's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.