ต้นกล้าแห่งความรัก
@การเดินทางย่างก้าวของเรานั้น ความผูกพันฟั่นเกลียวดุจเชือกไหม ร้อยรัดรวมรักรั้งทั้งดวงใจ ดังต้นไม้เติบโตอย่างงดงาม
@เมื่อยังเป็นต้นกล้าแห่งความรัก เราปกปักรักษาไม่ผลีผลาม คอยพรวนดินรินรดน้ำใจตาม ผลิดอกงามยามแย้มให้เชยชม
@ดอกสีฟ้าสดใสแซมสีขาว ฟ้าพร่างพราวเต็มลานบานสวยสม ดอกแห่งรักถักทอใจให้นิยม ดูเกลียวกลมห่มใจให้ร้อยเรียง
@ถึงวันนี้ดอกรักยังเล็กนัก ต้องการรักและพลังมาส่งเสียง ให้ดอกฟ้าเบ่งบานอย่างพร้อมเพรียง อยู่ข้างเคียงข้างใจไม่ไกลกัน
Create Date : 22 มีนาคม 2549 |
|
8 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2549 13:51:16 น. |
Counter : 3073 Pageviews. |
|
|
|
อ่านเสร็จเล่นเอาแต่งกลอนไม่ได้ไปหลายวันเลยแหละ เอามาฝาก เผื่อจขบ. จะเป็นอย่างเราบ้าง อิอิ ลองอ่านดูนะ
@ฉันแว่วเสียงลมครวญคราง
โรมรางจากโพ้นฟ้ามาหวิวหวิว
และเห็นฝูงดอกไม้ ปรายปลิว
หมุนพลิ้วหมุนคว้างอยู่กลางลม
@จึงหยิบกลีบราตรี สีขาว
สลับดาวดวงร้อยสร้อยผสม
ว่าจะกรองดอกฟ้ามาเชยชม
ปลอบอารมณ์เศร้าทึมและซึมเซา
@ลมอะไรเยือกเย็นถึงเช่นนี้
ลมราตรีไม่เห็นเยือกเย็นเท่า
มันพัดคว้างอยู่ในหัวใจเรา
มันพัดเบาแต่รุนแรงเหมือนแกล้งเย้ย
@นั่งอยู่นี่แต่หัวใจอยู่ไหนหนอ
ทุกข์และท้ออ้างว้างอย่างเหลือเอ่ย
ว่าจะกรองสร้อยฟ้ามาชมเชย
ก็ล่วงเลยราตรีกาลมานานเกิน
@หรือจะโบยบินไปในอากาส
ชมดาวดาษเติมความฝันอันห่างเหิน
จิบรสขมของไมตรีที่หมางเมิน
รู้สึกเขินและน้ำตาเริ่มบ่าริน
@ไฉนเราจึงเศร้าและเหงาเงียบ
เหมือนโลกเพียบทุกข์พูนสุขสูญสิ้น
ไฉนเราจึงหม่นไหม้ในดวงจินต์
เมื่อถวิลถึงใครที่ไกลตา
@อารมณ์เอ๋ย...อารมณ์เราช่างเศร้าหมอง
เกินจะกรองดอกร้อยสร้อยเวหา
ต้องจิบหยาดน้ำค้างต่างสุรา
โบยบินจินตนาไปในแดนเดือน
@ลมอะไรจึงเย็นเยียบถึงเช่นนี้
ลมราตรียังไม่เห็นเยียบเย็นเหมือน
มันพัดอ้อมอกฟ้ามาเยี่ยมเยือน
และปลิดเกลื่อนกลีบดอกไม้....บาดใจเรา
อ่านแล้วเราว่าเค๊าใช้คำเพราะดี สวยดี อ่านตอนเมานี่ยิ่งเมากระจาย