เจ.ดี. ซาลินเจอร์ถูกแนะนำให้ผมได้รู้จักผ่าน The Catcher in the Rye ตัวหนังสือของเขาในเล่มนั้นสะกดนักอ่านจนอยู่หมัดมาแล้วทั่วโลกผลงานของเขาเป็นหลักไมล์สำคัญให้กับวงการวรรณกรรม โดยเฉพาะวรรณกรรมอเมริกัน แต่หลังจากที่ได้อ่านนวนิยายเล่มยิ่งใหญ่เล่มนั้นแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีใครหยิบหนังสือของเขามาแปลให้ได้อ่านอีกจนกระทั่งการมาถึงของ Nine Stories หรือในชื่อไทย เก้าเรื่องสั้น แปลโดยคุณปราบดาหยุ่น (ผู้แปลเล่ม The Catcher in the Rye) เก้าเรื่องสั้นในเล่ม ถูกออกแบบและจัดวางอย่างลงตัว แต่ละเรื่องมีจังหวะของตัวเองที่ไม่โดดเด้งออกมาจนสังเกตเห็นชัดและไม่บางเบาจนจมหายไปกับการพลิกแต่ละหน้าหนังสือ เมื่ออ่านจบแต่ละเรื่องต้องพักหยุดหายใจยาวๆเข้าปอด ก่อนจะตะลุยอ่านเรื่องถัดไป เรื่องราวทั้งเก้านั้นมีจุดเชื่อมโยงบางอย่างหว่านโปรยอยู่ บางเรื่องเข้มข้น บางเรื่องซีดจาง นั่นคือสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวละครในแต่ละเรื่องหากไม่เข้าร่วมในสงคราม ก็เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งผลสะท้อนจากสงครามผ่านตัวหนังสือในแต่ละเรื่องสั้นดูจะมีแต่ผลกระทบทางด้านลบ ยั่วล้อกับคำว่าไปรบได้เป็นอย่างดี ซาลินเจอร์ไม่ได้หยิบยกความเลวร้ายน่ากลัวของสงครามมาใช้อย่างโจ่งครึ่ม หากผู้อ่านก็รู้สึกตามได้ทันทีว่ามันเลวร้ายเพียงใดซึ่งเป็นความรู้สึกคล้ายกับการอ่านโรงฆ่าสัตว์หมายเลขห้า ของเคิร์ต วอนเนกัต ระหว่างการอ่านหนังสือเล่มนี้ยังเผลอยกมือขึ้นปัดอยู่บ่อยๆ ราวกับว่าฝุ่นผงอณูแห่งสงครามจะยังฟุ้งอยู่ในอากาศ ส่วนสำคัญที่อยากจะกล่าวถึงหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ได้แก่บทสนทนาที่ปรากฏสม่ำเสมอในทุกเรื่อง การเขียนบทสนทนาของซาลินเจอร์เป็นการเขียนที่แสดงให้เห็นฝีมืออันยอดเยี่ยมอย่างชัดเจนบางบทสนทนาเรียบเรื่อยน่าเบื่อ หากแฝงเรื่องราวสำคัญที่ถูกนำเสนออย่างแนบเนียน บางบทสนทนาเกิดขึ้นในสถานการณ์แปลกประหลาด หากก็เป็นไปอย่างธรรมชาติไม่ขัดเขิน บทสนทนาเกิดผ่านโทรศัพท์บ้าง ผ่านการสนทนาระหว่างบุคคลบ้าง เป็นการเขียนบทสนทนาที่เฉียบคมและหลักแหลมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่านี่เป็นส่วนที่งดงามที่สุดของหนังสือเล่มนี้เลยทีเดียว โดยปกติการเปิดเปลือยเนื้อหาของหนังสือเป็นสิ่งที่มักจะเลี่ยงหลบอยู่เสมอ จึงขอกล่าวเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับหนังสือเล่มนี้อีกสักนิด (อันทีจริงแล้วเพียงชื่อผู้เขียนก็เรียกร้องได้มากโข)หากคุณรักในการอ่านเรื่องสั้นละก็เล่มนี้ควรเป็นอีกเล่มที่คุณจะไม่พลาดหากคุณยังรั้งรอที่จะอ่าน The Catcher in the Rye คุณอาจจะอยากอ่านมันทันทีหลังหน้าสุดท้ายของเล่มนี้ถูกปิดลง. ปกติหนูไม่ค่อยชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นสักเท่าไหร่ ที่หนูมาหานี่ก็เพราะคุณดูเปลี่ยวเหงามากเท่านั้นจริงๆใบหน้าของคุณดูอ่อนไหวมาก |
new ed drugs