Group Blog All Blog
|
Etsy
Step by Step Round Three! การจัดส่งสินค้า
"อย่าปล่อยให้คำพูดของคนอื่น กลายเป็นกำแพงปิดกันความสามารถของเรา" ไม่ได้ลงบล็อคนานเลย ยุ่งมากเลยค่ะ ปีนี้ขายดีลูกค้าหน้าใหม่เยอะทั้งๆ ที่ไม่ได้มีแบบชุดใหม่เลย ลูกค้าที่ได้เพิ่มมาส่วนมากจะมาจากการที่ลูกค้าที่ได้ซื้อชุดไปแล้วเค้าถ่ายรูปไปโพสต์ตามเวบตุ๊กตา แล้วก็แนะนำต่อๆ กันมาค่ะ เรื่องนี้อยากเขียนตั้งนานละ แต่เพิ่งมีโอกาส .. เริ่มตั้งแต่การแพ็คของเลยนะคะ[กรรมเวร... เพิ่งนึกได้ว่าลืมถ่ายรูปวิธีส่งของแบบใส่กล่องด้วย ถ้าไงขอลงแบบซองก่อนนะคะ] ก่อนอื่นเห็นหลายๆ คนมีปัญหาเรื่องค่าส่งของไม่รู้ควรจะคิดราคาเท่าไหร่ดี ... อธิบายยังไงดี ^__^ อ้อมเชื่อว่าทุกคนรู้แหละว่าตรวจสอบจากเวบปณ ไทยได้ แต่ทำไงให้ไม่ขาดทุนนี่สิ สมมตินะคะ ค่าส่ง 50 บาทค่าลงทะเบียน ตปท อีก 65 บาท รวมเป็น 115 แค่นี้ก็ประมาณUS$4 แล้วนะ [นี่ยังไม่รวมค่าซอง ค่าแพคเกจสินค้าและไหนจะค่าจ้างมอไซค์หน้าปากซอยไปส่งอีกนะ] เคสนี้อ้อมจะตั้งขั้นต่ำไว้US$5 เผื่อเหลือเผื่อขาดและบวกไม่มาก ที่สำคัญตั้งราคาค่าส่งโดยการเปรียบเทียบกับร้านอื่นที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันด้วยแต่สมมติถ้าร้านอื่นโดยส่วนมาก ย้ำ!!! ว่าส่วนมากคิดแค่ US$3 อ้อมก็จะตั้งไว้แค่US$3 เหมือนกัน อ้าว...อย่างนี้ก็ขาดทุนน่ะสิ ใช่ค่ะ อาจจะขาดทุนค่าส่งแต่ราคาสินค้าอิชั้นบวกต้นทุนค่าส่งเผื่อไว้เรียบร้อยแล้วค่ะและยิ่งถ้าสินค้าของเราไม่เหมือนชาวบ้าน เป็น rare item บวกไปเถอะค่ะหรือให้ดูดึงดูดใจก็บวกค่าส่งไปกับค่าของเลยก็ได้ แล้วก็แสดงค่าจัดส่งว่าส่งฟรี [แต่โดยรวมแล้วต้องไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาสินค้าแพงเวอร์นะคะ] เอาล่ะเข้าเรื่องการส่งของ ก่อนจะนำสินค้าใส่ซองควรใส่ถุงพลาสติกก่อนนะคะไม่ว่าจะเป็นถุงซิป ถุงแก้ว หรืออะไรแล้วแต่ ถ้าแตกหักง่ายก็ควรห่อบับเบิ้ลด้วย ต่างประเทศเค้าก็มีเปียกฝนเปียกหิมะได้เหมือนกัน ของข้างในจะได้ไม่เสียหาย ชื่อที่อยู่ผู้ส่งควรเป็นภาษาอังกฤษ เผื่อสินค้ามีการตีกลับจะได้ส่งมาบ้านเราถูกนะคะ ชื่อที่อยู่ผู้ส่ง ย้ำ!!! ก่อนส่งสินค้าควรตรวจสอบว่าที่อยู่ใน etsyกับที่อยู่ในPayPal ตรงกันนะคะถ้าไม่ตรงสอบถามลูกค้าก่อนว่าให้ส่งที่ไหน ให้ทางลูกค้า re-confirm เผื่อมีปัญหาทีหลังจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าทางลูกค้าเป็นคนแจ้งให้ส่งตามนี้เอง ถ้าเป็นไปได้ใช้เทปใสแปะทับที่อยู่ด้วยนะคะ จะได้ไม่เปียกน้ำไม่ว่าจะเขียนด้วยมือ หรือปริ๊นท์ก็ควรจะแปะทับค่ะ เวลาไปส่งก็เขียนไว้บนหน้าซองเลยว่าต้องการส่งแบบไหน เพราะ จนท. บางท่านไม่คุ้นเคยกับการส่งของ ตปท นะคะ และวิธีการจัดส่งก็มีหลายแบบ เพราะฉะนั้นเขียนกำกับไว้บนหน้าซองเลย ที่สำคัญต้องมีใบสีเขียว หรือที่เรียกว่า "CN22" ปกติอ้อมจะขอจาก ปณ มาเก็บไว้ที่บ้านเลย พักนี้ส่งบ่อย จนท ก็ให้มาที 2-3 เล่ม ถ้าส่งไม่บ่อยก็ขอมาสัก 5-10 ใบก็ได้ค่ะ เห็นบางคนบอกว่า จนท. ให้กรอกทุกช่อง แต่ปกติอ้อมก็จะกรอกแค่นี้นะ ราคาสินค้าก็เขียนต่ำกว่าราคาจริง เพราะลูกค้าก็คงไม่อยากไปเสียค่าภาษี [ตอนเราเป็นฝ่ายซื้อเราก็บอกให้คนขายมาร์คราคาต่ำกว่าได้ค่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร] เอาล่ะ หน้าตาซองพัสดุของเราก็จะเป็นประมาณนี้ อย่าลืมว่าห้ามติดกาว หรือเทปกาวนะคะ ใช้ลวดเย็บกระดาษได้ ไม่จำกัดว่าจะกี่ตัว ^^" ส่งเสร็จแล้ว กลับมาบ้านเราก็ต้องแจ้งลูกค้าว่าเราส่งของแล้วนะ เข้าไปที่เวบหน้าร้านของเราในเวบ etsy ค่ะ จากนั้นคลิกคำว่า your shop คลิกเลือก sold order เห็นมั้ยคะ จะมี open order แจ้งอยู่ แสดงว่ายังไม่ได้จัดส่ง เลื่อนมาที่ order ที่เราต้องการแจ้งลูกค้าค่ะ คลิก mark as shipped ทีนี้คำว่า mark as shipped จะเปลี่ยนเป็น add shipping notification เราก็คลิกอีกที แล้วก็จะมีหน้าต่างอันใหม่ pop up มาให้เราใส่แทรคกิ้ง แล้วก็กด send email เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับรายการนี้ในส่วนของ etsy ยัง ... อย่าเพิ่งปิดคอมนอน ยังไม่จบ เราต้องไปใส่รายละเอียดการส่งสินค้าใน paypal ด้วย log in มาที่บัญชี paypal ของเรา แล้วเลือกรายการที่เราต้องการจะแจ้งแทรคกิ้ง คลิกคำว่า details ของรายการนั้นๆ [เห็นมั้ยว่าถ้าเราได้เงินเรียบร้อยแล้ว status จะขึ้นว่า completed] พอคลิกเข้ามาสังเกต ทางระบบจะแจ้งว่า OK to send เลื่อนลงมาด้านล่างสุด จะเจอคำว่า add tracking info คลิกเข้าไปโลด แล้วก็จะเจอหน้าต่างแบบนี้ก็กรอกข้อมูลแทรคกิ้ง แล้วคลิก send เป็นอันจบ 1 รายการ entry นี้ยาวมาก ขอจบแบบห้วนๆ เท่านี้เลยนะคะ เดี๋ยวยาวเกินจะอ่านกันจนเบื่อไปซะก่อน ^^/ ++ ทำชุดตุ๊กตาง่ายๆ ตามประสาคนขี้เกียจ++
วันนี้ลองทำชุดตุ๊กตาแบบง่ายๆ กันค่ะวาดแพทเทิร์นตามประสาคนขี้เกียจ ความรู้ขั้นพื้นฐานระดับเริ่มต้นก็ทำได้ค่ะ อาจจะไม่สวยงามแต่ใช้งานได้ ^__^ เนื่องจากภาพตอนเย็บกับตอนวาดแพทเทิร์นดันใช้ตุ๊กตาคนละแบบกันถ้าไงก็ต้องประยุกต์กันนิดนึงนะคะ เริ่มจากวาดแพทเทิร์นก่อน หากระดาษไม่ต้องสวยงามก็ได้ค่ะเพราะเวลาไปใช้จริง แนะนำว่าควรเป็นกระดาษแข็ง เวลาไปวาดบนผ้าจะได้ทำได้ง่าย พับครึ่งกระดาษ วาดรอบคอ แล้วก็วัดจากคอไปไหล่ข้างเดียว ดูภาพน่าจะง่ายกว่าค่ะ >_< วัดและวาดแบบในกระดาษเลยไม่ต้องวาดเต็มตัว
วาดเสร็จแล้วพับครึ่ง ให้เส้นขอบคอด้านหน้ากับหลังตรงกันแต่ให้ปลายเฉียงเข้ามา ก็อีกแหละดูภาพง่ายกว่า Y__Y พับแล้วก็ตัดกระดาษฝั่งแขน กับส่วนที่เกินชายเสื้อออกก่อน ทีนี้ก็ตัดรอบคอออก สุดท้ายตัดส่วนเกินชิ้นล่างที่เป็นเฉียงๆ ออก ให้ด้านล่างเกินออกมาจากชิ้นบนประมาณ 1/2 เซน พอกางออกมาต้องได้แบบนี้นะคะ ถ้าได้แล้วก็ไปวาดลงกระดาษแข็งโลด เนื่องจากภาพขั้นตอนการทำแพทเทิร์น วาดไป ถ่ายรูปไป อัพบล็อคไป มันเลยเละเทะอย่างที่เห็นค่ะ ส่วนขั้นตอนการเย็บทำไว้นานแล้ว ขอลงเป็นไฟล์รูปภาพไปเลยนะคะ เอาล่ะ ก่อนอื่นตัดผ้าที่จะทำส่วนกระโปรงก่อน ก็กะเอาว่าใช้กว้างเท่าไหร่ [ถ้าเย็บย่นประมาณไปเลยว่า 4 เท่าของรอบเอวตุ๊กตา] ต้องการความยาวแค่ไหน จากนั้นก็เย็บขอบชายกระโปรง แล้วก็พักไว้ก่อน ทีนี้ก็มาจัดการส่วนตัวเสื้อ ขอโทษที่ไม่ได้มีภาพด้านหลังให้ดูนะคะ เพราะทำไว้นานมากแล้ว ^__^" ตอนนั้นทำเพื่อจะสอนแม่บ้านทำชุดตุ๊กตาเลยไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ แต่ถ้าใครเคยซื้อชุดตุ๊กตาคงน่าจะพอนึกออกเนาะ
Etsy
Step by Step Round Two! วิธีลิสต์สินค้า
กลับมาต่อ เปิดร้านได้แล้ว ซื้อของได้แล้ว ทีนี้จะลงขายของ [นานหน่อยนะคะ กว่าจะได้ต่อแต่ละตอน เวลาจะงานเยอะ ก็เยอะมาก... เวลาไม่มีก็ไม่รู้จะทำอะไรเลย]
คลิกคำว่า Sell ซ้ายมือด้านบนค่ะ เวบก็จะเด้งมาหน้าแนะนำการขาย ที่คราวที่แล้วตอนเราสมัครร้านค้า แต่ตรงที่คลิกเปิดร้านด้านขวามือ จะเปลี่ยนเป็น list an item แทน เราก็คลิกซะ
ทีนี้ก็จะเจอหน้าที่ให้ใส่รายละเอียดสินค้า คิดว่าน่าจะไม่ยาก ถ้าลงไมได้แสดงว่าเรายังไม่ค่อยพร้อมขายเท่าไหร่ มันก็เหมือนๆ กับเวลาเราจะประกาศขายในเวบ secondhand, sanook, pantip อะไรทั่วไปน่ะค่ะ
รายละเอียดหน้านี้ก็จะถามว่าใครทำ เราทำ หรือเพื่อนทำ หรือซื้อมา
สินค้าประเภทอะไร
จัดอยู่ในหมวดหมู่ในของร้าน [หมวดหมู่ของร้านเราสร้างเองได้เลย เหมือนเราสร้างหมวดหมู่ใน welove นั่นล่ะ]
เหมาะกับใคร style ไหน ใส่ tag ที่เกี่ยวข้องด้วย เวลาลูกค้าเสิร์จจะได้เจอสินค้าเรา ใช้คำง่ายๆ ทั่วๆ ไป ประหนึ่งเหมือนหาข้อมูลใน google เลย
ใส่ราคา ใส่จำนวนที่เรามี [ค่าธรรมเนียม $0.20 ต่อ 1 ชิ้น]
Shipping profile ไปสร้างเองได้เลย ว่าเราจะคิดค่าส่งเท่าไหร่ ส่งประเทศนี้เท่าไหร่ ส่งชิ้นแรกเท่าไหร่ ชิ้นต่อไปเท่าไหร่
แจ้งด้วยว่าสินค้าส่งจากประเทศไทย
จบ ... ลงขายได้ละ สินค้าอาจจะไม่ได้ appear ทันทีก็ใจเย็นๆ แต่ถ้า 24 ชม. แล้วยังไม่มาให้ติดต่อ จนท. ทางเวบดูค่ะ
และเมื่อเราลงขายสินค้า 1 ชิ้น ย้ำ! แค่ลงขาย ยังไม่มีคนซื้อ เราก็จะมีค่าใช้จ่ายทันที $0.20 นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องมีบัญชี paypal เพราะแค่ลงขายเราก็เสียตังค์แล้ว ... แต่ยังไม่ต้องจ่ายทันที etsy จะตัดยอดทุกๆ สิ้นเดือน รวมบิลแล้วจ่ายทีเดียว ต่อให้ทั้งเดือนขายไม่ได้เลย ก็ต้องจ่าย ... ถ้าไม่จ่ายผ่าน paypal ก็ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต
ถ้าอยากรู้ปัจจุบันเรามีค่าใช้จ่ายค้างอยู่กับทางเวบเท่าไหร่แล้ว ให้เลือก your shop ด้านบนขวา แล้วเลือก your bill
วันนี้ลงขายของได้แล้ว รอบหน้ามาต่อนะคะ ^__^
Etsy
Step by Step Round One!
ก่อนอื่น เน้นว่า Etsy เป็นเวบไซต์สำหรับขายของ Handmade / Vintage / Supplies สำหรับประกอบงาน Handmade บางคนลักไก่ ลักเป็ดไปซื้อของมาขาย คืออยากบอกว่า...ตีโจทย์คำว่างาน handmade ให้ได้ก่อนไปลงขายดีกว่า เพราะบางทีอ้อมเห็นหลายคนอยากแต่จะไปขายอยากได้เงิน แต่กลับไปซื้อเสื้อผ้าประตู้น้ำ หรือกิ๊บสำเพ็ง แบบนี้เห็นแล้วไม่ค่อยอยากตอบ หรือแนะนำอะไรเลยค่ะ เอาล่ะ...หลังจากลงเรื่อง etsy มาได้สักพักนึง สรุปว่ามีคนสนใจเยอะเหมือนกันแฮะ แอบปลื้มใจ คนที่ได้บลอคนี้จุดประกายความคิดในการขยายช่องทางการทำกิน ก็ยินดีด้วยค่ะ และดีใจที่คุณได้สิ่งดีๆ กลับไป หรือบางคนคิดว่านังนี่มันกั๊ก ไม่ยอมบอกข้อมูลทั้งหมด ... อยากให้หยุดคิดสักนิดค่ะ เพราะถ้าบอกหมดคุณจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างไร อ้อมขายมาจะสามปี ปัญหามีมาตลอดทั้ง etsy ebay paypal ทุกวันนี้ไม่มีนิ่ง ขายได้เยอะ แสดงว่าปัญหาจะต้องเยอะเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าบางคนเข้ามาแล้วเกิดความอิจฉา หรือหมั่นไส้...ยินดีค่ะ ถ้าความรู้สึกหมั่นไส้ทำให้คุณฮึดสู้ทำงานดีๆ มาขายหารายได้ แต่ถ้าอคตินั้นมันทำให้รู้สึกแย่ อย่าไปรู้สึกเลยค่ะ ปิดหน้าจอนี้แล้วไปนั่งทำอย่างอื่นดีกว่า บางคนส่งข้อความมา ไม่เคยขายของ ไม่เคยทำอะไรมาก่อน แต่จะไปขายของใน etsy โห...ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็ดีสิคะ จะให้อ้อมบอกขั้นตอนทุกอย่างตั้งแต่สมัครจนลงขาย มันเป็นไม่ได้หรอกค่ะ แล้วมิใช่ถามกันแค่ครั้งสองครั้ง มีมาเรื่อยๆ ถ้าสอนหมดทุกคน...ตายพอดี ไม่ต้องทำกินอะไรแล้ว T___T ไม่ใช่ว่าสอนไม่ได้ หรืองกความรู้ แต่อ้อมก็ต้องทำงานเหมือนกันเน้อ... ลองดูสักนิด ว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน เรามีความรู้ในตัวสินค้าที่เราขาย ก็ต้องมีความรู้ในด้านตลาด ด้านสถานที่ขายของด้วย ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้น...อ้อมไม่เคยแนะนำวิธีสมัครเวบไหนๆ เลยไม่ว่าจะ paypal หรือ etsy แต่คอยย้ำเสมอว่าให้ลองหาจาก google ดู ทำการบ้านเรื่องพวกนี้เยอะๆ โดยเฉพาะ paypal ถ้างั้น...วันนี้เราคุยเรื่อง paypal กัน...Paypal เอาแบบภาษาลูกทุ่งเข้าใจง่ายๆ มันก็คือบัญชีเงินฝากของเรานั่นแหละค่ะ ทุกวันนี้คุณมีบัญชีเงินฝากใช่มั้ยคะ สมัครเปิดการใช้งานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วยหรือเปล่า? ถ้ายัง ไปเปิด ณ บัดนาว เพราะว่าจะช่วยให้เข้าใจเรื่อง Paypal ได้อีกนิดหน่อย การทำงานคล้ายๆ กัน ไว้เช็คยอดรับเงิน ถอนเงิน จากนั้นเปิด google แล้วทำการ search คำว่า วิธีสมัคร paypal มากันให้พรึ่บพรั่บ หลายสำนัก ชอบอันไหนคลิกเข้าไปดู ... งืมๆ มันก็เหมือนเราสมัครสมาชิกเวบไซต์ทั่วไปค่ะ ไม่ยาก เดี๋ยวนี้มีภาษาไทยด้วย แล้วสมัครปุ๊บ ไม่ใช่จะใช้ได้ทันทีเลยนะ ต้องรอรับ code มายืนยัน [หรือต้องส่งเอกสารยืนยันที่อยู่ด้วย] สำหรับธนาคารที่ในไทยที่จะใช้รับเงินเวลาที่เราต้องการถอนเงินออกจาก paypal ถ้าเป็นสมัยก่อนจะแนะนำให้ใช้ธนาคารกรุงเทพ แล้วไปสมัครผ่านเวบเปิดสาขาในนิวยอร์คเพื่อจะให้ได้รับเงินเร็ว ... สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว ใช้บัญชีที่เรามีนี่แหละ ปัจจุบันอ้อมเบิกเข้ากสิกร เบิกวันจันทร์เช้า วันศุกร์เช้าตื่นมาเงินก็เข้าแล้ว แล้วเรทค่าเงินที่ได้รับก็ไม่ได้ต่างกัน ค่าธรรมเนียมสำหรับคนที่ถอนทีละห้าพัน หมื่นนึง ก็ถูกกว่าถอนผ่านธนาคารกรุงเทพสาขานิวยอร์ค เอาล่ะ...หลังจากที่บัญชี paypal เราใช้งานได้แล้ว ก็ไปสมัครบัญชี etsy กัน www.etsy.com เปิดหน้าจอมาจะเจอคำว่า Register อยู่บนหัวด้านซ้ายมือ ใกล้ๆ กับโลโก้ etysy เลย เท่านั้นล่ะกรอกไปตามความจริง จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง แล้วอย่าลืมไปคลิก confirmation ใน e-mail ที่เค้าส่งมายืนยันด้วยล่ะ [ขอโทษที่ไม่มีภาพวิธีทำ เพราะไม่รู้จะเอาอีเมลที่ไหนไปสมัคร T^T] พอสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว > คลิกอีเมลคอนเฟิร์มแล้ว > กลับไปหน้าเวบ คลิกคำว่า Sell ด้านบนซ้ายมือ หน้าเวบจะเด้งมาที่หน้าแนะนำวิธีการขาย ถ้าพร้อมแล้วก็คลิก Sell on Etsy ด้านขวามือ > ทีนี้เราต้องกรอกรายละเอียดของเรา ชื่อที่อยู่ > จากนั้นทางระบบจะถามเลขบัตรเครดิต รายละเอียด paypal [ไม่มีบัตรเครดิต ให้ใช้รหัส K-web shopping จากกสิกรได้] > เรียบร้อยก็ไปปรับแต่ง policy ของร้าน Policy ของร้าน
. ก็คือกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เราต้องการบอกลูกค้า ไปดูตัวอย่างตามเวบ welove ก็ได้ เวลาเข้าไปจะซื้อของแม่ค้าเค้าแจ้งเรื่องอะไรบ้าง ... ค่าขนส่ง วิธีการส่ง การจัดทำสินค้า การคืนสินค้า การคืนเงิน ระยะเวลาการรับประกัน บลาๆๆ อยากบอกอะไรก็บอกไป เราเป็นใคร มาจากไหน ชอบงานด้านไหน อะไรก็ได้ รอบนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะคะ พิมพ์นานเริ่มเมื่อย.... ก่อนอื่นใด อย่าลืมเช็คความพร้อมของตัวเองก่อนนะคะ การขายของจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย ยากก็ไม่เชิง มันต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าคนที่ขายของจะประสบความสำเร็จกันทุกคน เห็นบางคนส่งข้อความมาหาแล้วแอบเป็นห่วง อยากขายแต่ไม่มีความรู้ ไม่มีทักษะเลย พอแนะนำให้ลองหาข้อมูลก่อนก็แอบไม่พอใจ ... เฮ้อ... การเริ่มต้นมันมักจะลำบากแบบนี้ล่ะค่ะ ช่วงแรกขยันหาข้อมูลหน่อย ต่อไปจะได้สบาย เชื่อสิ ++ เล่าเรื่อง...เดือนกุมภา ++
|
kokore
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?] สวัสดีค่ะ หวังว่าทุกคนคงได้ประโยชน์และความบันเทิงกลับไปบ้างนะคะ |