จอห์นกับแมรี่

ข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใกล้ๆกรุงอิสลามาบัดสั่นคลอนความรู้สึกเราไม่ใช่น้อย ไม่ใช่เพียงเศร้าสลดหดหู่กับความเคราะห์ร้ายของผู้ประสบภัยพิบัติ แต่ยังหวั่นวิตกด้วยเหตุว่าเรามีเพื่อนที่สนิทมากคู่หนึ่งอยู่ที่นั่น จอห์นกับแมรี่

อันที่จริงแล้ว ฉันก็ไม่ได้สนิทกับจอห์นหรือแมรี่มากมายอะไรนัก เพียงแต่ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนเก่าแก่ของสามี จึงทำให้ฉันพลอยได้รู้จักคนทั้งคู่มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆไปด้วย

เมื่อได้ข่าวเรื่องแผ่นดินไหว ใจฉันก็นึกปราดไปถึงคนทั้งสองทันที จอห์นย้ายไปเป็นผู้อำนวยการหน่วยงานของสหประชาชาติประจำปากีสถานมาได้หลายเดือนแล้ว เราไม่ได้พบปะกันบ่อยนักเนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลกัน แต่ก็ยังได้พูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว

ยิ่งเห็นสภาพความหายนะในกรุงอิสลามาบัด เราไม่พูดอะไรแต่ก็แอบหวั่นๆใจอยู่ในส่วนลึก โดยเฉพาะเมื่อเราติดต่อจอห์นไม่ได้เลย หลายวันผ่านไป จนวันหนึ่งสามีของฉันก็เอาข่าวดีมาบอก
“เจอจอห์นแล้ว ปลอดภัยดี เขาอยู่ที่ปารีสมาหลายอาทิตย์แล้ว” หน้าตาเขาดูไม่รื่นรมย์สมเป็นข่าวดีเลย พอเขาพูดต่อ ฉันจึงเข้าใจว่าทำไม “แมรี่อยู่ที่โรงพยาบาลในปารีส หมอสงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง”

วันนั้นจนถึงวันนี้ ฉันยังไม่วายนึกถึงข่าวร้ายในข่าวดี นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เมื่อได้รู้จักจอห์นกับแมรี่ จอห์นเป็นหนุ่มร่างใหญ่ หน้าตาคมเข้ม หนวดเคราดกครึ้มสมเป็นชาวอเมริกากลาง ส่วนแมรี่ก็เป็นสาวร่างเล็กบอบบาง ผิวขาวจัด ผมทองสุกปลั่งชวนให้นึกถึงฉายา “กุหลาบอังกฤษ” ทั้งคู่ต่างก็เคยผ่านชีวิตแต่งงานมาก่อน จนได้มาพบรักในระหว่างทำงานร่วมกันในวัยใกล้สี่สิบแล้วทั้งคู่

ทุกอย่างดูจะเริ่มต้นด้วยดี จอห์นทำงานอยู่ในเมืองไทย แมรี่ก็ทำงานคล้ายๆกันอยู่ในพม่า ทั้งคู่ผลัดกันเดินทางไปมาหากันเป็นระยะๆ ดูเหมือนจะห่างไกลกันแต่ก็ใกล้ชิดกันดี จนถึงวันที่แมรี่ค้นพบว่าจอห์นซึ่งเจอหน้าแมรี่เดือนละครั้งเป็นอย่างมากพ่ายแพ้แก่ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเผลอใจไปมีสัมพันธ์กับเลขานุการของตนเองเสียแล้ว

แมรี่เสียใจมาก จอห์นเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งดู่ตกลงใจจะเริ่มต้นใหม่ จอห์นย้ายไปอยู่แถบเอเชียกลางโดยมีแมรี่ที่ลาออกจากงานติดตามไปด้วย แมรี่ย้ายไปอยู่เฉยๆได้ไม่ทันถึงหกเดือนก็เริ่มวิ่งวุ่นหางานทำ ฉันยังจำได้ว่าเธอมุ่งมั่นมากเพียงใด ดูราวกับว่าเธอหาความสุขความสงบไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ทำงาน โชคดีที่เธอเป็นคนเก่ง จึงหางานที่ต้องการได้ไม่ยากนัก เธอดูมีความสุขขึ้นทันตาเห็น แม้ว่างานนั้นจะทำให้เธอต้องอยู่ห่างจากจอห์นที่ต้องเดินทางอยู่เสมอก็ตาม

สองสามปีต่อมา จอห์นได้เลื่อนตำแหน่งไปประจำที่เวียดนาม คราวนี้แมรี่เลือกที่จะกลับไปทำงานเต็มเวลาที่เมืองไทย ทั้งคู่กลับไปใช้ชีวิตแบบคู่สมรสเคลื่อนที่อีก แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เรื่องร้ายใดใดมากล้ำกราย ฉันเองเคยนึกสงสัยว่าคนเราจะแต่งงานกันทำไมถ้าเลือกที่จะอยู่ไกลกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนอีกหลายคนที่เป็นอย่างแมรี่คือหน้าที่การงานกับครอบครัวมีความสำคัญใกล้เคียงกัน และแน่นอน คนเราย่อมต้องเลือกในสิ่งที่ตนพอใจ

แต่วันนี้ ข่าวร้ายที่ได้ยินทำให้อดนึกสงสัยขึ้นมาใหม่ไม่ได้ว่า ถ้าแมรี่รู้ตั้งแต่แรกว่าเธอมีเวลาไม่มากนัก เธอจะยังเลือกใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตพลัดพรากจากจอห์นเพื่อจะได้ทำงานที่เธอรักอยู่อีกหรือไม่ เธอจะนึกเสียดายวันเวลาเหล่านั้น หรือจะดีใจที่ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้วกันแน่




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2548    
Last Update : 13 ตุลาคม 2548 14:00:24 น.
Counter : 478 Pageviews.  

 
 

Cybercat
Location :
Manila Philippines

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Cybercat's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com